สปอนเซอร์สุขภาพและการแพทย์

รักษาสิวให้หายขาด เริ่มต้นได้ที่คลินิกรักษาสิวที่มีมาตรฐาน กับแพทย์ผิวหนัง

เคยมั้ย? สิวขึ้นทีเหมือนโลกจะถล่ม ไม่ว่าจะเป็นสิวเม็ดใหญ่ สิวผดจิ๋วๆ หรือสิวที่มาแบบเงียบๆ แต่ทิ้งรอยไว้อย่างกับอยู่ถาวร ทุกคนเคยผ่านจุดนั้นมาแล้ว และข่าวดีคือ “สิวไม่ใช่จุดจบของความมั่นใจ” สมัยนี้มีคลินิกรักษาสิวที่เข้าใจคนเป็นสิวแบบแท้ทรู ทั้งเรื่องสภาพผิว ไลฟ์สไตล์ และความรู้สึกแบบ “ไม่อยากโดนตัดสิน”

บทความนี้จะพาคุณไปรู้ว่าคลินิกรักษาสิวหายขาด เขารักษาอะไรได้บ้าง แล้วเหมาะกับใคร ใครที่กำลังเครียด เลือกคลินิกรักษาสิวไม่ได้สักที อยากให้ลองอ่านแบบชิลๆ เหมือนนั่งคุยกับเพื่อน แล้วค่อยตัดสินใจก็ยังไม่สาย

สิวไม่ใช่เรื่องน่าอาย มารู้จักวิธีรักษาสิวแบบตรงจุด

สิวไม่ใช่เรื่องน่าอาย มารู้จักวิธีรักษาสิวแบบตรงจุด

เพราะเป็นปัญหาผิวที่หลายคนต้องเจอไม่เหมือนกัน หนึ่งในนั้นคือปัญหาสิว ดังนั้นมารู้จักวิธีรักษาสิวแบบตรงจุดกันดีกว่า เพื่อให้ผิวหน้ากลับมาใสมั่นใจอีกครั้ง

1. เลือกใช้ยาทารักษาสิว

โดยให้เริ่มใช้อย่างค่อยเป็นค่อยไป จากปริมาณเข้มข้นจากน้อย ๆ หรือเลือกความเข้มข้นที่เหมาะกับสภาพผิว ซึ่งตัวยาลดการอักเสบของสิว ที่นิยมใช้ ได้แก่

  • Benzoyl Peroxide ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว
  • Salicylic Acid ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตันในรูขุมขน
  • Niacinamide ลดการอักเสบ ควบคุมความมัน และลดรอยแดง
  • Retinoids กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ลดสิวอุดตัน

2. ดูแลผิวด้วยความอ่อนโยนอย่างสม่ำเสมอ

การล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง ด้วยคลีนเซอร์ที่ไม่รุนแรงต่อผิว คือจุดเริ่มต้นที่ดี หลีกเลี่ยงการขัดหน้าแรง ๆ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์สูง เพราะจะยิ่งกระตุ้นให้ผิวระคายเคืองและเป็นสิวมากขึ้น และอย่าลืมเติมความชุ่มชื้นให้ผิว แม้จะเป็นผิวมันหรือกำลังเป็นสิวก็อยู่ตาม

3. ไม่บีบ แกะ เกาสิวเด็ดขาด

สิวไม่ได้หายข้ามคืน ขอแค่เราอดทนและสม่ำเสมอ ผิวก็จะค่อย ๆ ดีขึ้น และจำไว้นะ ห้ามบีบ ห้ามแกะสิวเด็ดขาด เพราะนอกจากจะเสี่ยงติดเชื้อแล้ว ยังอาจทิ้งรอยแผลเป็นไว้ให้เรากังวลใจอีกด้วย

4. เข้าคลินิกรักษาสิว /ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง

หากลองดูแลด้วยตัวเองแล้วสิวไม่ดีขึ้น หรือสิวมีแนวโน้มรุนแรง แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง เพื่อหาทางรักษาที่เหมาะสม เช่น ยารับประทาน การฉีดสิว หรือการทำทรีตเมนต์เฉพาะทาง

สิวแต่ละประเภทต่างกันยังไง? คลินิกรักษาได้ครบไหมนะ

สิวแต่ละประเภทต่างกันยังไง

สิวแต่ละประเภทมีสาเหตุและลักษณะต่างกัน การรักษาก็เลยต้องตรงจุด ซึ่งคลินิกรักษาสิวที่ได้มาตรฐาน ส่วนใหญ่สามารถรักษาได้ครบทุกประเภทเลยนะ ก่อนอื่นมาดูกันว่าสิวแต่ละแบบต่างกันยังไง และคลินิกรับมือยังไงบ้าง

1. สิวอุดตัน (Comedones)

เกิดจากรูขุมขนอุดตันและเต็มไปด้วยไขมัน สิ่งสกปรกและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว แบ่งเป็นออกเป็น 2 ประเภท

  • สิวหัวดำ ที่มีลักษณะเป็นสิวหัวเปิด
  • สิวหัวขาว ที่มีลักษณะเป็นสิวหัวปิด

วิธีรักษาในคลินิก

  • การกดสิวที่ถูกวิธี
  • การทำทรีตเมนต์ผลัดเซลล์ผิว (AHA, BHA)
  • เลเซอร์ลดการอุดตัน เช่น Fractional laser

2. สิวอักเสบ (Inflammatory Acne)

เกิดจากการอุดตันรูขุมขนและตามมาด้วยติดเชื้อแบคทีเรียบนผิว มีลักษณะตุ่มแดง บวม มักให้ความรู้สึกเจ็บ ส่วนใหญ่มักพัฒนาระดับความรุนแรงมาจากสิวอุดตัน

วิธีรักษาในคลินิก

  • ฉีดสิว จะช่วยลดการอักเสบเร็ว
  • กดสิวโดยผู้เชี่ยวชาญ
  • ทรีตเมนต์ฆ่าเชื้อ เช่น IPL หรือ LED light therapy

3. สิวหนอง (Pustules)

เป็นตุ่มแดงที่มีหัวหนองสีขาวหรือเหลือง ที่เกิดจากการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันจากเม็ดเลือดขาวต่อสู้กับเชื้อโรคจนเกิดเป็นหนองขึ้นมา มีขนาดเล็ก ๆ หรือขยายเป็นเม็ดใหญ่ได้เช่นกัน

วิธีรักษาในคลินิก

  • คลินิกมักใช้ยาภายนอกควบคู่กับการกดสิวแบบปลอดเชื้อที่ต้องรักษาความสะอาดมากที่สุด

4. สิวซีสต์/สิวตุ่มลึก (Cystic Acne)

ตุ่มใหญ่ มักให้ความรู้สึกเจ็บลึก ๆ ใต้ผิวหนัง เกิดจากติดเชื้อแบคทีเรีย P. acnesร่วมกับการอุดตันรูขุมขน ทำให้เกิดการอักเสบ ฝังลึกเกิดเป็นหนองอยู่ภายใน หากรักษาไม่ถูกวิธีมักสร้างความเสียหายให้ผิวหนัง เกิดเป็นรอยดำลึก หรือแผลเป็นได้ง่าย

วิธีรักษาในคลินิก

มักต้องใช้ยารับประทาน เช่นยาปฏิชีวนะ/ยาฮอร์โมน แต่หากเป็นรอยแผลเป็น หรือหลุมสิวที่ต้องรักษา อาจต้องใช้วิธีอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น

  • เลเซอร์รักษาหลุมสิว เช่น Fractional CO2
  • Subcision ตัดพังผืดใต้หลุมสิว
  • TCA Cross และ Microneedling

1. เตรียมข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาผิวตัวเองไปด้วย

เพื่อเข้ารับการปรึกษากับแพทย์ได้ชัดเจนที่สุด ควรเตรียมข้อมูล เช่น เคยใช้ครีมหรือยาอะไรบ้าง มีประวัติแพ้ยาอะไรไหม และช่วงนี้กินวิตามิน/อาหารเสริมอยู่หรือเปล่า เพื่อประเมินการรักษาและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการจ่ายยา

2. ไม่ต้องแต่งหน้าหนา ๆ ไป

ถ้าเลี่ยงได้วันเข้ารับการปรึกษากับคลินิกรักษาสิว ให้ไปหน้าสะอาด ๆงดการแต่งหน้าไปจะดีที่สุด เพื่อให้หมอดูสภาพผิวจริงชัดที่สุด

3. ตั้งเป้าหมายให้ชัดในใจ

ควรรู้ว่าตัวเราเองต้องการรักษาแบบไหน เช่น อยากรักษาสิวอย่างเดียว หรืออยากให้หน้าดูใสขึ้น, ลดรอยดำ, ลดรอยแดงด้วย แจ้งแพทย์ตั้งแต่ขั้นตอนการปรึกษา

4. เตรียมเรื่องค่าใช้จ่าย

คลินิกรักษาสิวบางที่คิดค่าหัตถการ, ค่ายา, คอร์สแยก บางที่มีขายคอร์สเหมารวม ควรถามให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ

5. ไม่ต้องกลัวถ้าหมอจะแนะนำหลายอย่าง

หมออาจแนะนำทั้งทายา, กดสิว, ฉีดสิว, เลเซอร์ ฯลฯ ขึ้นกับสภาพผิว แต่เราสามารถเลือกทำแค่บางอย่างได้ตามงบ

6. รักษาสิวต้องใช้เวลา

อย่าคาดหวังว่าทำครั้งเดียวแล้วหายเลยทันที เพราะสิวต้องใช้เวลา บางคนอาจต้องรักษา 1-3 เดือนถึงเริ่มเห็นผลชัด ๆ ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของสิวของแต่ละคน

7. หลังรักษาสิวแล้วต้องดูแลผิวดี ๆ

งดแต่งหน้าหนัก ๆ งดแกะเกา ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าและบำรุงที่หมอแนะนำ และควรทากันแดดที่เหมาะกับผิวอย่างสม่ำเสมอ

รักษาสิวที่คลินิก เหมาะกับใคร แล้วต้องทำกี่ครั้ง?

สิวไม่ใช่เรื่องน่าอาย มารู้จักวิธีรักษาสิวแบบตรงจุด

การรักษาสิวที่คลินิก เหมาะกับคนที่มีปัญหาสิวในระดับปานกลางถึงรุนแรง หรือมีสิวเรื้อรังที่รักษาเองแล้วไม่ดีขึ้น โดยเฉพาะถ้ามีอาการดังนี้

เหมาะกับใครกันแน่?

  • สิวอักเสบ สิวหนอง สิวหัวช้าง
  • สิวอุดตันที่ไม่ยุบ แม้ใช้ยาทาเอง
  • มีรอยดำหรือรอยแผลเป็นจากสิว
  • เคยรักษามาหลายวิธีแต่ไม่ได้ผล
  • ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว โดยอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์

ต้องทำกี่ครั้ง? ถึงจะรักษาสิวหายสนิท

จำนวนครั้งขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความรุนแรงของสิวปกติจะเห็นผลใน 4–8 ครั้ง (ทำทุก 1–2 สัปดาห์) ถ้าเป็นสิวหนักมาก อาจต้องใช้เวลานานกว่านั้น แพทย์อาจใช้หลายวิธีร่วมกัน เช่น กดสิว ฉีดสิว ทายา เลเซอร์ หรือทำทรีตเมนต์เฉพาะทาง

สรุป รักษาสิวที่คลินิก ทางเลือกที่เข้าใจคนเป็นสิวจริง ๆ

สิวไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องทนรักษาเองจนรุนแรงขึ้น และคลินิกรักษาสิวในปัจจุบันมีเครื่องมือครบ ทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญสูงเข้าใจลึกถึงปัญหาผิว และพร้อมดูแลอย่างอ่อนโยนโดยไม่ทิ้งไข้ ไม่ว่าเราจะมีสิวแบบไหน สิวอักเสบ สิวผด สิวเรื้อรัง หรือแม้แต่หลุมสิว ก็มีวิธีรักษาที่เหมาะกับเราเสมอ

ใครที่รักษาเองมาหลายทางแต่ยังไม่ดีขึ้น ลองเปิดใจปรึกษาแพทย์ผิวหนังดูบ้างก็ไม่เสียหาย การเข้าคลินิกไม่ได้แปลว่าเราเป็นหนักมาก หรือล้มเหลวในการดูแลผิวตัวเอง แต่แปลว่าเราใส่ใจตัวเองมากพอที่จะให้มืออาชีพช่วยดูแล และอย่าลืมว่า สิวอาจต้องใช้เวลา แต่เมื่อเจอวิธีที่ใช่ ผิวดี ๆ ก็รอเราอยู่ และพร้อมคืนความมั่นใจให้กับตัวเราเองอีกครั้ง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

0 0 โหวต
Article Rating
สมัครรับข้อมูล
แจ้งเตือนเกี่ยวกับ
0 Comments
เก่าแก่ที่สุด
ใหม่ล่าสุด ถูกโหวตมากที่สุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Thosapol

นักเขียนบทความที่ Thaiger จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เชี่ยวชาญเรื่องบทความท่องเที่ยว บันเทิง ไลฟ์สไตล์ ผ่านการค้นหาข้อมูลโดยละเอียดพร้อมด้วยประสบการณ์ตรงของตัวเอง งานอดิเรกมีความสนใจในกระแสข่าวรอบตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ สังคม การเมือง และที่สำคัญคือเป็นทาสแมวร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ช่องทางติดต่อ thospol@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button
0
เราอยากทราบความคิดเห็นของคุณ โปรดแสดงความคิดเห็นx