ข่าวไม่มีหมวดหมู่

วาเลนไทน์อินเลิฟ : วรรณคดีไทยพูดถึงความรักไว้อย่างไร

“รัก” คำง่าย ๆ แต่ความหมายสุดลึกล้ำ ไม่มีใครไม่รู้จักความรัก แต่น้อยคนที่จะเข้าใจถ่อยแท้ว่าความรักนั้นหลากหลายและซับซ้อน รักนำมาทั้งความสุข ความเศร้าอาวรณ์ เศร้าหมองและกระจ่างใจ

ความรักคืออารมณ์พื้นฐานที่ทุกคนต่างรู้จัก เคยสัมผัส และถวิลใฝ่หา สังเกตได้จากวันนี้ 14 กุมภาพันธ์ ทุกคนต่างโพสต์สเตตัสถึงความรักกันเต็มเฟซบุ๊ก โซเชียลเน็ตเวิร์ค ….แล้วถ้าย้อนกลับไปสมัยก่อนล่ะ ยุคที่ยังไม่มีไฟฟ้า ไม่มีอินเทอร์เน็ต มีเพียงกระดานชนวน กระดาษขีดเขียน คนสมัยก่อน “บันทึกความรัก” ไว้เป็นอย่างไร และมุมมองความรักเหล่านั้นเป็นแบบไหน

Advertisements

วันนี้จะพาไปสำรวจนิยามความรักผ่าน “วรรคทอง” ของวรรณคดีไทยที่ทั้งลึกซึ้ง กินใจ และยังคงอมตะจับใจ

 

เวนิสวาณิช พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

ความเอยความรัก
เริ่มสมัครชั้นต้น ณ หนไหน
เริ่มเพาะเหมาะกลางหว่างหัวใจ
หรือเริ่มในสมองตรองจงดี

ยังคงเป็นคำถามสุดคลาสสิคทุกยุุคว่าแท้จริงแล้ว “ความรัก” นั้นเกิดขึ้นที่สมองหรือหัวใจ หากตอบตามหลักวิทยาศาสตร์แน่นอนว่าระบบสั่งการความคิดต้องอยู่ที่สมอง แต่หลาย ๆ ครั้งเราก็พบว่า “ความรัก” ก็ทำให้เราตัดสินใจหลาย ๆ ครั้งที่ขัดเเย้งกับความคิดเราเสมอ อย่างที่พูดว่า “ทำตามหัวใจ”

Advertisements

พระอภัยมณี : สุนทรภู่

เขาย่อมเปรียบเทียบความว่ายามรัก
แต่น้ำผักต้มขมชมว่าหวาน
ครั้นจืดจางห่างเหินไปเนิ่นนาน
แต่น้ำตาลก็ว่าเปรี้ยวไม่เหลียวแล

นางละเวงพูดถึงความรักได้ตรงเผงโดนใจที่สุด ความรักนั้นมีอำนาจอย่างน่าเหลือเชื่อในการครอบงำความคิด เราพร้อมมองข้ามสิ่งแย่ ๆ ไม่ดีในวันที่ยังรัก แต่หากวันใดหมดรัก ต่อให้สิ่งนั้นดี เราก็คงมองไม่เห็น นอกจากความขมขื่นกลืนไม่ลงอีกต่อไป

นิราศภูเขาทอง : สุนทรภู่

ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก
สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน
ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป
แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืน

เมาเหล้าตื่นมาก็ยังสร่างหาย แต่หาก “เมารัก” แล้ว คงไม่มียาใดถอนได้หรอก จริงไหม?

อิเหนา : พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

แล้วว่าอนิจจาความรัก
พึ่งประจักษ์ดั่งสายน้ำไหล
ตั้งแต่จะไหลเชี่ยวเป็นเกลียวไป
ที่ไหนเลยจะไหลคืนมา

บางครั้งความรักก็เหมือนสายน้ำ หากผ่านเลยไปแล้ว ก็ไม่อาจหวนคืนมาอีก

มัทนะพาธา : พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล่าเจ้าอยู่หัว


ความรักเหมือนโรคา
บันดาลตาให้มืดมน
ไม่ยินและไม่ยล
อุปะสัคคะใดใด
ความรักเหมือนโคถึก
กำลังคึกผิขังไว้
ก็โลดจากคอกไป
บยอมอยู่ ณ ที่ขัง
ถึงหากจะผูกไว้
ก็ดึงไปด้วยกำลัง
ยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่ง
บหวนคิดถึงเจ็บกาย

ตำนานดอกกุหลาบเรื่องนี้ นำเสนอมุมมองความรักของหนุ่มสาว อันรุ่มร้อนและคึกขัง มีอานุภาพครอบงำบังตาให้ทำทุกสิ่งอย่างได้โดยไม่กลัวอุปสรรคใด ๆ และพร้อมจะโลดแล่นพุ่งชนทุกอย่างเหมือนโคถึก ใครที่ยังอยู่ในวัยรุ่นคงเข้าใจอารมณ์คึกนี้ดี `^^

ท้าวเเสนปม : พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล่าเจ้าอยู่หัว


อันของสูงแม้ปองต้องจิต
ถ้าไม่คิดปีนป่ายจะได้ฤๅ
มิใช่ของตลาดที่อาจซื้อ
ฤๅแย่งยื้อถือได้โดยไม่ยอม

ท้าวแสนปม คือภาพของความอัปลักษณ์ด้านรูปรักภายนอก แต่อยากที่เขาว่า ของแม้อยู่สูง ถ้าอยากได้ ไม่พยายามปีนป่ายขึ้นไปจะได้ครอบครองหรือ ความรักก็เช่นกัน ความรักเป็นสิ่งมีค่า บางครั้งต้องแลกมาด้วยความมานะพยายาม ไม่มีทางได้มาอย่างง่ายดาย

ดังนั้น หากรักใครแล้ว จงทำให้เต็มที่ ต่อให้พยายามแล้วผิดหวัง ก็ยังดีกว่าผิดหวังเพราะไม่พยายาม

 

ไม่ว่านิยามความรักของแต่ละคนเป็นแบบไหน แต่รักที่ดีควรส่งเสริมให้เรากลายเป็นคนที่ดีขึ้น มุ่งมั่นทำอะไรให้ดีขึ้น และน้ำความสุขมาสู่ชีวิต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button