ข่าวข่าวอาชญากรรม

ย้อนคดีดัง ถุงดำคลุมหัว พา ผู้กับกำโจ้ เข้าคุก เปิดโทษอาญาก่อนจบชีวิต

ย้อนรอย 4 ปี คดีสะเทือนขวัญ ผู้กำกับโจ้ ใช้ถุงคลุมหัวผู้ต้องหายาเสพติดจนเสียชีวิต สู่คำพิพากษาประหารชีวิตอดีตนายตำรวจไฮโซ

ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2564 ได้เกิดคดีใหญ่สะเทือนวงการสีกากีขึ้น เมื่อจู่ ๆ ก็มีคลิปหลุดจากกล้องวงจรปิด เผยให้เห็นภาพของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ พร้อมพวกอีก 6 คน ร่วมกันใช้ถุงดำคลุมหัวของ มาวิน ผู้ต้องหาคดียาเสพติด จนสิ้นลม จากเหตุการณ์การซ้อมและทรมานผู้ต้องหาได้สร้างผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อตำรวจไทย รวมถึงกระบวนการยุติธรรมเป็นอย่างมาก

ไทม์ไลน์ ผกก.โจ้ ก่อคดีคลุมถุงดำผู้ต้องหา

วันที่ 5 สิงหาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาเป็น 2 สามีภรรยา พร้อมด้วยของกลาง ยาเสพติด 1 แสนเม็ด และได้ควบคุมตัวมายังโรงพัก ในการสอบสวนเบื้องต้นมีการเรียกรับเงินจากผู้ต้องหาจำนวน 2 ล้านบาท แต่ผู้ต้องหาต่อรองเหลือเพียง 1 ล้านบาท

ทว่าเมื่อการต่อรองไม่เป็นดังเป้าหมายที่วางไว้ และผู้ต้องหาไม่ยอมเปิดเผยเรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับยาเสพติดนับแสนเม็ดที่ถูกจับกุมได้ ด้าน ผู้กำกับโจ้ พร้อมพวกจึงได้นำถุงดำมาคลุมหัว มาวิน ผู้ต้องหาเพื่อเค้นสอบความจริง จนเสียชีวิตในเวลาต่อ ก่อนจะนำศพไปยังโรงพยาบาล กระทั่งโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ นครสวรรค์ ได้รายงานผลชันสูตรศพ มาวิน พบว่า เสียชีวิตจาก “พิษสารแอมเฟตามีน” จากนั้นก็ได้ทำการปล่อยตัวผู้ต้องหาหญิงซึ่งเป็นภรรยาผู้ตาย ทั้งยังกำชับว่า “ห้ามบอกเรื่องทั้งหมดกับผู้อื่น แลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี”

ผู้กำกับโจ้

วันที่ 22 สิงหาคม 2564 ทนายเดชา ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ทนายคลายทุกข์ โดยระบุว่า ได้รับข้อมูลจากตำรวจชั้นผู้น้อยที่อยู่ในเหตุการณ์ทรมานผู้ต้องหาจนเสียชีวิตที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสาธารณชนติดตามเรื่องนี้ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับนายจิระพงศ์ หรือ มาวิน ผู้เสียชีวิต

วันที่ 24 สิงหาคม 2564 ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด นำคลิปเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิดที่ห้องทำงานชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.เมืองนครสวรรค์ ที่ระบุว่าได้รับมาจากตำรวจชั้นผู้น้อยที่รับไม่ได้กับพฤติกรรมของ ผู้กำกับโจ้ ส่งมาให้ ก่อนจะนำมาโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก คลิปดังกล่าวมีความยาวประมาณ 1.21 นาที เผยให้เห็นพฤติกรรมของกลุ่มชายแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจทรมานผู้ต้องหา ตำรวจนายหนึ่งนำถุงคลุมศีรษะของผู้ชายที่นั่งอยู่โดยถูกใส่กุญแจมือไว้ ชายที่นั่งอยู่พยายามดิ้นรนจนกระทั่งหมดสติล้มลงบนพื้น

หลังจากคลิปถูกเผยแพร่ได้ไม่นานนัก พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ (ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์) ในขณะนั้น มีหนังสือ ภ.จว.นครสวรรค์ ที่ 0021(นว).17/5503 ลง 24 ส.ค.2564 รายงานว่า ได้แจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีอาญากับ “ผู้กำกับโจ้” พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล โดยกล่าวหาว่าร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามเลขคคีอาญาที่ 1165/2564 ลง 24 ส.ค.2564

จากนั้นทาง พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในขณะนั้น มีคำสั่งให้ตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ ที่เกี่ยวข้องทั้ง 7 นาย ออกจากราชการ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. 64

วันที่ 25 สิงหาคม 2564 ศาลจังหวัดนครสวรรค์อนุมัติหมายจับ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ หรือ ผู้กำกับโจ้ และพวกรวม 7 คน ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบทำให้ผู้อื่นเสียหาย ร่วมกันข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใด และร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือกระทำทารุณโหดร้าย แต่จับได้เพียงแค่ 5 คน อีก 2 คนหลบหนี คือ ผู้กำกับโจ้ และ ร.ต.ท. ธรณินทร์ รองสารวัตรป้องกันปราบปราม

วันที่ 26 สิงหาคม 2564 ผกก.โจ้ ติดต่อขอมอบตัวที่ สภ.แสนสุข จ.ชลบุรี และได้นำตัวกลับไป และนำตัวกลับไปยัง สภ.เมืองนครสวรรค์ และทาง ร.ต.ท. ธรณินทร์ ก็ถูกจับกุมตัวได้ในวันเดียวกัน โดยในชั้นสอบสวน ผู้กำกับโจ้ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

วันที่ 27 สิงหาคม 2564 ผู้กำกับโจ้ ถูกนำตัวไปฝากขังที่เรือนจำกลางพิษณุโลก พร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยเจ้าหน้าที่สอบสวนให้เหตุผลว่า ‘เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ และผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นอดีตตำรวจ ถ้าหากได้รับการประกันตัว อาจจะออกมายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และอาจส่งผลกับรูปคดี’

วันที่ 3 พฤศจิกายน 2564 พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และพ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม ส่งสำนวนสอบสวนคดีกว่า 7 แฟ้ม 2540 หน้าต่ออัยการ เห็นควรสั่งฟ้อง “ผู้กำกับโจ้ กับลูกน้อง” ในฐานความผิด 4 ข้อหา

  1. เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
  2. เป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
  3. ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย
  4. ร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น

วันที่ 8 มิถุนายน 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตัดสินประหารชีวิต ผู้กำกับโจ้ ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น โดยทรมานหรือโดยกระทำ ทารุณโหดร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(5) ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด ก่อนจะถูกลดโทษเหลือ จำคุกตลอดชีวิต โดยศาลให้เหตุผลว่า จำเลยนำสืบเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง เนื่องจากหลังเกิดเหตุจําเลยทั้งเจ็ด พยายามช่วยเหลือผู้ตายโดยช่วยปั๊มหัวใจผู้ตาย และรีบนำตัวผู้ตาย ส่งโรงพยาบาล จนแพทย์ช่วยรักษาผู้ตายมีสัญญาณชีพและหัวใจกลับมาเต้น ก่อนที่ผู้ตายจะถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังจำเลยยังมีการช่วยค่าปลงศพผู้ตายเป็นเงิน 30,000 บาท และวางเงินบรรเทาผลร้ายให้แก่โจทก์ร่วมทั้งสองคนละ 300,000 บาท นับเป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ 1 ใน 3

จนเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2568 มีรายงานจากเจ้าหน้าที่ภายในเรือนจำกลางคลองเปรมว่า พบนักโทษชายเสียชีวิตอยู่ในห้องขัง หมายเลข 50 แดน 5 ทราบชื่อในเวลาต่อมาว่าคือ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ อดีตผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ จบชีวิตตัวเองด้วยการใช้ผ้าจนหนูผูกกับประตูห้องขัง และนั่งพิงประตูยืดขาตรงเพื่อถ่วงน้ำหนัก ก่อนเสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่เร่งเข้าไปให้การช่วยเหลือแล้วแต่ไม่ทันเวลา

ทางด้านญาติและทนายความของผู้กำกับโจ้ ยังคงติดใจกับสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชายอยู่ เนื่องจากช่วงเดือนมกราคม 68 ได้มีการเข้าแจ้งความเอาไว้ในเรื่องของการถูกทำร้ายร่างกาย โดยมีใบรับรองแพทย์ยืนยันว่า ชายโครงซ้ายของผู้กำกับโจ้ถูกกระแทกด้วยของแข็งไม่มีคม ซึ่งเรื่องนี้ผู้เป็นแม่ได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังกรมราชทัณฑ์แล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้า กระทั่งลูกชายตัดสินจบชีวิตด้วยการผูกคอในเรือนจำ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ้างอิงจาก : ไทยรัฐ, แนวหน้า, sanook, FB ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง

GIFT T.

Rewriter สาวจากรั้วสวนดุสิต เก็บเกี่ยวประสบการณ์งานข่าวมากว่า 5 ปี ชื่นชอบการส่งต่อเรื่องราวเกี่ยวกับ ไลฟ์สไตล์ หวย และข่าวบันเทิง พร้อมเปิดมุมมองใหม่ ๆ ให้นักอ่านได้เห็นประเด็นรอบด้านมากยิ่งขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button