ข่าวดาราบันเทิง

10 เรื่องต้องรู้ก่อนดู The White Lotus ซีซั่น 3 เด็ดเผ็ดซี๊ด จักรวาลโรงแรมเสียดสีสังคม

โหมโรงก่อนฉาย The White Lotus ซีซั่น 3 ที่คนไทยรอคอย เพราะถ่ายทำที่ไทย มี ลิซ่า BLACKPINK ร่วมแสดง ออกอากาศตอนแรก 16 กุมภาพันธ์ 2568 ดูออนไลน์ ทางแอปพลิเคชั่น MAX ทีมข่าวไทยเกอร์บันเทิง ขอพามาเจาะลึก รู้จักซีรีส์แนวเสียดสีสังคมที่กวาดรางวัล เอ็มมี่ อวอร์ด ท่วมท้นเสียงวิจารณ์ชื่นชม ด้วยเนื้อหาจิกกัด ประเด็นคมคาย และตัวละครที่มีมิติ ทำให้ผู้ชมทั่วโลกต่างติดหนึบไปกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงแรมสุดหรูแห่งนี้

แต่ก่อนที่เราจะไปพบกับความวุ่นวายครั้งใหม่ในซีซั่น 3 ที่กำลังจะมาถึง เรามาสรุป 10 เรื่องน่ารู้จาก The White Lotus ทั้ง 2 ซีซั่นแรกกันดีกว่า รับรองว่าอ่านจบแล้ว จะยิ่งอินกับซีรีส์เรื่องนี้มากขึ้นแน่นอน

1. ปริศนาศพแรกแห่ง The White Lotus ใครคือผู้โชคร้ายในซีซั่น 1

เดอะ ไวท์ โลตัส เริ่มต้นซีซั่นแรกที่ฮาวาย ก็เปิดมาด้วยปริศนาสุดช็อก เมื่อมีผู้เสียชีวิตอยู่ที่โรงแรม The White Lotus ตลอดทั้งซีซั่น เราจะได้เห็นความสัมพันธ์อันแสนซับซ้อนของแขกผู้เข้าพักกลุ่มหนึ่ง ซึ่งแต่ละคนก็ล้วนมีปัญหาและปมในใจของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นคู่ฮันนีมูนข้าวใหม่ปลามันอย่าง เชน และ ราเชล ที่ทะเลาะกันได้ทุกเรื่อง, สาวสังคมจอมบงการอย่าง โอลิเวีย และเพื่อนซี้ พอลล่า ที่มาพร้อมแผนการสุดแสบ, หรือแม้แต่คุณนาย ทานย่า แม็กควอยด์ เศรษฐีนีขี้เหงาที่มาพักผ่อนเพื่อเยียวยาจิตใจ แต่กลับต้องเผชิญกับเรื่องราววุ่นวายไม่จบสิ้น

แต่ใครกันที่เป็นศพปริศนา? คำตอบก็คือ อาร์มอนด์ ผู้จัดการโรงแรมสุดเนี้ยบที่ต้องรับมือกับแขกวีไอพีสุดเรื่องมากอย่าง เชน และสุดท้ายก็ต้องจบชีวิตลงอย่างน่าเศร้า เหตุการณ์ทั้งหมดเริ่มต้นจากความขัดแย้งเล็กๆ น้อยๆ ที่กลายเป็นความบาดหมาง และนำไปสู่โศกนาฏกรรมในที่สุด ซึ่งเป็นการตอกย้ำประเด็นหลักของซีรีส์ที่ว่า “ความสุขและความสงบที่เห็น อาจเป็นเพียงภาพลวงตา”

the white lotus ซีซั่น 1

2. ทานย่า แม็กควอยด์ จากแขกวีไอพีขาประจำ สู่จุดจบสุดสะเทือนใจในซีซั่น 2

พูดถึงตัวละครที่โดดเด่นที่สุดใน The White Lotus ก็คงหนีไม่พ้น ทานย่า แม็กควอยด์ รับบทโดยนักแสดงเจ้าบทบาทอย่าง เจนนิเฟอร์ คูลิดจ์ ในซีซั่น 1 เราได้เห็นทานย่าเป็นเศรษฐีนีขี้เหงาที่มาพักผ่อนเพื่อโปรยเถ้ากระดูกแม่ แต่กลับต้องเจอกับเรื่องราวความรักที่ไม่สมหวัง ความสัมพันธ์ที่ยุ่งเหยิงกับ เกร็ก ชายหนุ่มที่เธอพบรักในโรงแรม

แต่ในซีซั่น 2 ทานย่ากลับมาอีกครั้ง พร้อมกับ เกร็ก ในฐานะสามี และครั้งนี้เธอมาพักผ่อนที่ The White Lotus ในซิซิลี แต่ความสุขก็อยู่ได้ไม่นาน เมื่อทานย่าเริ่มสงสัยในพฤติกรรมของเกร็ก และพบว่าเขาอาจจะมีความลับซ่อนอยู่เบื้องหลัง ท้ายที่สุด ทานย่าก็ต้องเผชิญกับจุดจบที่คาดไม่ถึง เมื่อเธอถูกฆาตกรรมในเหตุการณ์เข้าใจผิดสุดวุ่นวาย ซึ่งเป็นการปิดฉากเรื่องราวของตัวละครที่ผู้ชมรักและผูกพันอย่างน่าเสียดาย

ด้วยการแสดงอันยอดเยี่ยมนี้ ทำให้ เจนนี่คว้ารางวัล นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม บนเวทีลูกโลกทองคำ 2023 ไปครอง

เจนนิเฟอร์ คูลิดจ์ ฝากผลงานการแสดงอันยอดเยี่ยมใน The white lotus

3. คู่รักสุดป่วนแห่งซีซั่น 2 ฮาร์เปอร์, อีธาน, คาเมรอน และ ดาฟนี กับเกมความสัมพันธ์สุดอันตราย

ซีซั่น 2 ย้ายสถานที่มาที่อิตาลี นำเสนอเรื่องราวของคู่รัก 4 คน ที่มาพักผ่อนด้วยกันที่โรงแรม The white lotus สาขา ซิซิลี แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขากลับเต็มไปด้วยความตึงเครียด ความไม่ไว้ใจ และความลับที่ซ่อนอยู่ ฮาร์เปอร์ และ อีธาน เป็นคู่รักที่ดูเหมือนจะมั่นคง แต่จริงๆ แล้วพวกเขากลับมีความคิดเห็นที่ไม่ลงรอยกันในหลายๆ เรื่อง ในขณะที่ คาเมรอน และ ดาฟนี เป็นคู่รักที่ดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบ แต่เบื้องหลังกลับเต็มไปด้วยความสัมพันธ์แบบเปิด ต้องการที่จะทดสอบขีดจำกัดของกันและกัน

การมาพักผ่อนที่ The White Lotus กลายเป็นจุดเริ่มต้นของเกมความสัมพันธ์สุดอันตราย เมื่อทั้ง 4 คนเริ่มเข้ามาพัวพันกัน และความลับของแต่ละคนก็ค่อยๆ ถูกเปิดเผยออกมา ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้ง ความเข้าใจผิด และความสัมพันธ์ที่สั่นคลอนอย่างรุนแรง ซีซั่นนี้จึงเป็นการสำรวจความซับซ้อนของความสัมพันธ์ในยุคปัจจุบัน และตั้งคำถามว่า “ความสุขและความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนมีอยู่จริงหรือไม่?”

เช่นเดียวกับซีซั่นแรก เรื่องจะเปิดด้วยฉากพบศพปริศนาบริเวณชายหาด ก่อนจะย้อนเวลามาเล่าเหตุการณ์หนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้า ผู้ชมจึงเฝ้าดูว่าตัวละครไหนจะเกี่ยวข้องกับการตายนี้ และความขัดแย้งจะปะทุจนําไปสู่โศกนาฏกรรมอย่างไร

The White lotus ซีซั่น 2

4. ซิซิลี ฉากหลังสุดอลังการ ซ่อนปมประวัติศาสตร์ ความขัดแย้งทางวัฒนธรรม

นอกจากเรื่องราวของตัวละครที่น่าติดตามแล้ว โลเคชั่นของ The White Lotus ก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ขาดไม่ได้ ในซีซั่น 1 เราได้สัมผัสความงามของฮาวาย แต่ในซีซั่น 2 เราได้ย้ายมาสัมผัสบรรยากาศของซิซิลี ประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นเกาะที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน วัฒนธรรมหลากหลาย

ซิซิลีใน The White Lotus ไม่ได้เป็นเพียงแค่ฉากหลังที่สวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงความขัดแย้งทางวัฒนธรรม และความแตกต่างทางชนชั้น ที่ปรากฏอยู่ในเรื่องราวของซีรีส์ ไม่ว่าจะเป็นความแตกต่างระหว่างนักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน กับคนท้องถิ่นชาวอิตาลี หรือความแตกต่างระหว่างชนชั้นสูง ชนชั้นแรงงาน ซึ่งประเด็นเหล่านี้ถูกนำเสนอผ่านตัวละครต่างๆ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงแรมได้อย่างน่าสนใจ

The white lotus ซีซั่น 2 ถ่ายทำใน ซิซิลี อิตาลี
ภาพจาก: FABIO LOVINO/HBO; PETER VITALE

5. ตัวละครรับเชิญสุดปัง จาก อเล็กซานดรา ดาดาริโอ สู่ ออเบรย์ พลาซ่า และ ฮาร์เลย์ ลู ริชาร์ดสัน

The White Lotus ขึ้นชื่อเรื่องการแคสติ้งนักแสดงได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักแสดงสมทบที่มารับบทแขกผู้เข้าพักในแต่ละซีซั่น ในซีซั่น 1 เราได้เห็น อเล็กซานดรา ดาดาริโอ ในบท ราเชล คู่ฮันนีมูนสาวที่ต้องเผชิญกับวิกฤตชีวิตคู่ และ ฮาร์เลย์ ลู ริชาร์ดสัน ในบท พอลล่า สาวนักกิจกรรมที่มาพร้อมอุดมการณ์แรงกล้า

ในซีซั่น 2 เราก็ได้พบกับ ออเบรย์ พลาซ่า ในบท ฮาร์เปอร์ สาวทนายความที่ต้องรับมือกับความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน และ ซิมโอนา ทาบาสโก ในบท ลูเซีย หญิงสาวชาวซิซิลีที่เข้ามาพัวพันกับแขกผู้เข้าพัก นักแสดงเหล่านี้ต่างก็ถ่ายทอดบทบาทของตัวเองได้อย่างน่าประทับใจ และมีส่วนสำคัญในการสร้างสีสันให้กับซีรีส์

ในซีซั่น 3 มีคนไทยร่วมแสดงมากมายทั้ง ลิซ่า ลลิษา มโนบาล ครูเล็ก ภัทราวดี มีชูทน ดอม เหตระกูล และสุทธิชัย หยุ่น ครั้งแรกกับการรับบทพระ

ลิซ่า white lotus ซีซั่น 3

6. ประเด็นเสียดสีสังคมสุดคมคาย จิกกัดชนชั้น ความเหลื่อมล้ำ และปัญหาความสัมพันธ์

หัวใจสำคัญของ The White Lotus คือการเสียดสีสังคมอย่างเจ็บแสบ ซ่อนอยู่หลังเรื่องราวความวุ่นวายในโรงแรมหรู แฝงไปด้วยประเด็นทางสังคมที่น่าขบคิดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของชนชั้น ความเหลื่อมล้ำทางรายได้ ความสัมพันธ์ที่เปราะบางในยุคปัจจุบัน หรือแม้แต่ปัญหาการท่องเที่ยวที่ส่งผลกระทบต่อวัฒนธรรมท้องถิ่น

The White Lotus จิกกัดสังคมได้อย่างชาญฉลาดผ่านตัวละคร สถานการณ์ และบทสนทนาที่เฉียบคม ทำให้ผู้ชมได้ฉุกคิดถึงปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมของเรา และมองเห็นภาพสะท้อนของตัวเองและคนรอบข้างในซีรีส์เรื่องนี้

แขกผู้เข้าพักในรีสอร์ตส่วนใหญ่เป็นคนรวยหรือมีอภิสิทธิ์ทางสังคม (Privilege) ที่ใช้เงินซื้อประสบการณ์ พักผ่อนหรูหรา แต่ขณะเดียวกันก็ “กดทับ” หรือ “มองข้าม” การทำงานหนักของพนักงานโรงแรม

ตัวละครแขกผู้เข้าพักมักยึดติดในปัญหาส่วนตัวที่ฟังดูไม่เลวร้ายเมื่อเทียบกับวิกฤตของคนทั่วไป เช่น กลัวจะไม่มีใครรัก กลัวชีวิตขาดสีสัน บ้างคิดว่าตัวเองถูกเอาเปรียบทั้งที่ตัวเองก็ได้เปรียบอยู่มาก

ซีรีส์จึงสะท้อนว่า แม้จะอยู่ในสถานที่สวยงาม มีฐานะดี ก็ไม่ได้หมายความว่าปัญหาจะน้อยลง หรือบุคคลเหล่านี้จะ “มีความสุขและเข้าถึงชีวิต” จริง ๆ เสมอไป

7. ดนตรีประกอบสุดหลอน สร้างบรรยากาศกดดัน ไม่น่าไว้วางใจ

อีกหนึ่งองค์ประกอบที่โดดเด่นของ The White Lotus คือดนตรีประกอบ ที่สร้างสรรค์โดย คริสโตบอล ตาเปีย เดอ เวอร์ ดนตรีประกอบของซีรีส์เรื่องนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยท่วงทำนองที่หลอนประสาท เสียงเครื่องดนตรีที่แปลกใหม่ และจังหวะที่ชวนให้รู้สึกกดดัน

ดนตรีประกอบของ The White Lotus ไม่ได้เป็นเพียงแค่เสียงประกอบฉากเท่านั้น แต่ยังมีส่วนสำคัญในการสร้างบรรยากาศของซีรีส์ ให้มีความลึกลับ น่าสงสัย และไม่น่าไว้วางใจ ซึ่งช่วยเสริมสร้างอรรถรสในการรับชม และทำให้ผู้ชมรู้สึกอินไปกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงแรมมากยิ่งขึ้น

คริสโตบาล ตาเปีย เดอ เวียร์ (Cristobal Tapia de Veer) เป็นคอมโพสเซอร์ชาวชิลี-แคนาดา ซึ่งมีผลงานโดดเด่นกับซีรีส์อย่าง Utopia (UK) และ Black Mirror ในบางตอน The White Lotus ซีซั่น 2 นอกจากคริสโตบาลแล้ว ยังมี คิม นอยน์ดอร์ฟ (Kim Neundorf) มาร่วมแต่งดนตรีบางส่วนเพิ่มเติมด้วย ทำให้ซาวด์โดยรวมยังคงความเป็นเอกลักษณ์ แต่มีการขยับขยายรายละเอียดให้เข้ากับบรรยากาศสไตล์อิตาลีและโทนลึกลับคาดไม่ถึงของเรื่องมากยิ่งขึ้น

ดนตรีประกอบของ The White Lotus ได้รับคำชมอย่างมากจากการใช้ซาวด์เอฟเฟกต์ เครื่องดนตรีพื้นเมือง และการร้องแบบตีความร่วมสมัย เพื่อสื่อสารอารมณ์และสไตล์ตลกร้ายที่ผสานกับความลี้ลับ จนกลายเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้โดดเด่น

ดนตรีประกอบ The white lotus

8. แฟชั่นสุดหรู VS แฟชั่นสะท้อนตัวตน สไตล์การแต่งกายที่บ่งบอกคาแรกเตอร์

แฟชั่นในซีรีส์เรื่องนี้จัดจ้านโดดเด่นไม่แพ้เนื้อเรื่องกับการแสดง สไตล์การแต่งกายของตัวละครแต่ละตัว ถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อสะท้อนบุคลิก ลักษณะนิสัย และสถานะทางสังคมของตัวละครนั้นๆ

เราจะเห็นแขกผู้เข้าพักใน The White Lotus สวมใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนม เครื่องประดับหรูหรา ไอเทมแฟชั่นสุดฮิต เพื่อบ่งบอกถึงความร่ำรวย และรสนิยมที่หรูหรา ในขณะที่ตัวละครที่เป็นพนักงานโรงแรม หรือคนท้องถิ่น ก็จะมีสไตล์การแต่งกายที่แตกต่างออกไป ซึ่งสะท้อนถึงฐานะทางสังคม และวัฒนธรรมของพวกเขา

การสังเกตแฟชั่นใน The White Lotus ก็เป็นอีกหนึ่งความสนุกในการดูซีรีส์เรื่องนี้

แฟชั่น The white lotus ซีซั่น 2

9. ไมค์ ไวท์ ผู้กำกับมากฝีมือ ผู้สร้างสรรค์จักรวาล The White Lotus

เบื้องหลังความสำเร็จของ The White Lotus คือผู้กำกับและผู้เขียนบทมากฝีมืออย่าง ไมค์ ไวท์ ไมค์ ไวท์ เป็นที่รู้จักจากผลงานแนวเสียดสีสังคม และตลกดาร์กคอมเมดี้ ซึ่งเป็นสไตล์ที่ปรากฏอยู่ใน The White Lotus อย่างชัดเจน

ไมค์ ไวท์ มีความสามารถในการสร้างตัวละครที่มีมิติ เขียนบทสนทนาที่เฉียบคม และกำกับซีรีส์ให้มีจังหวะจะโคนน่าติดตาม ทำให้ The White Lotus กลายเป็นซีรีส์ที่ได้รับคำชมอย่างล้นหลาม และเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมทั่วโลก การันตีได้เลยว่าซีซั่น 3 ที่กำลังจะมาถึงนี้ ก็จะต้องเข้มข้นและน่าติดตามไม่แพ้ซีซั่นก่อนๆ แน่นอน

ไมค์ ไวท์ (ซ้าย) ทำท่ามือชากาพร้อมกับลิซ่าในรอบปฐมทัศน์ซีซั่นที่ 3 ของ "The White Lotus" ในวันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2025 ที่โรงละครพาราเมาท์ในลอสแองเจลีส
(AP Photo/Chris Pizzello)

10. The White Lotus ซีซั่น 3 ถ่ายทำประเทศไทย พร้อมเรื่องราวใหม่ และตัวละครชุดใหม่

The White Lotus ซีซั่น 3 ถ่ายทำในประเทศไทย ในเมืองท่องเที่ยวระดับโลกทั้ง กรุงเทพฯ ภูเก็ต และเกาะสมุย โดยมีโรงแรมสุดสวยงามที่ปรากฎเป็นฉากหลังของเรื่องได้แก่ โฟร์ซีซั่น เกาะสมุย อนันตรา ไม้ขาว ภูเก็ต วิลเลจ

ไมค์ ไวท์ ได้กล่าวถึงแนวคิดของซีซั่น 3 ว่าจะมุ่งเน้นไปที่การเสียดสีและสะท้อนมุมมองตลกเกี่ยวกับความตาย ศาสนา และเรื่องลี้ลับทางตะวันออก ซึ่งประเทศไทยมีวัฒนธรรมและความเชื่อที่หลากหลาย เหมาะสมกับธีมดังกล่าว ประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามและหลากหลาย ทั้งชายหาดที่สวยงาม ป่าเขา และวัดวาอารามที่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่น ซึ่งสามารถเพิ่มมิติและบรรยากาศที่น่าสนใจให้กับซีรีส์

ซีซั่นก่อนหน้าของ The White Lotus ที่ถ่ายทำในฮาวายและอิตาลี ได้รับความนิยมอย่างมาก และส่งผลให้สถานที่ถ่ายทำกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว การเลือกประเทศไทยในซีซั่น 3 จึงเป็นโอกาสในการนำเสนอสถานที่ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้ร่วมมือกับทีมผู้สร้างซีรีส์ เพื่อหวังส่งเสริมการท่องเที่ยวและนำเสนอความงามของประเทศสู่สายตาชาวโลก

ซีซั่น 3 จะมาพร้อมกับเรื่องราวใหม่ ตัวละครชุดใหม่ และประเด็นทางสังคมใหม่ๆ ที่น่าสนใจ แต่ยังคงไว้ซึ่งสไตล์การเสียดสีสังคม และความตลกร้ายที่เป็นเอกลักษณ์ของ The White Lotus ดังนั้น ไม่เคยดูซีซั่น 1 กับ 2 มาก่อนก็ดู 3 รู้เรื่อง ถ้าคุณอ่านบทความของไทยเกอร์จนจบ

แฟนๆ ซีรีส์เรื่องนี้เตรียมตัวรอชมความวุ่นวายครั้งใหม่ในโรงแรมสุดหรูแห่งใหม่กันได้เลย!

The white lotus ประเทศไทย

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button