ระวังให้ดี สาวตรวจพบว่าตัวเองเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ทั้งที่ระบบขับถ่ายยังปกติดี แพทย์เตือนอย่ามองข้าม 2 สัญญาณเตือนถึงโรคนี้
มะเร็งลำไส้ใหญ่คร่าชีวิตชาวไต้หวันปีละ 6,000 คน มีผู้ป่วยรายใหม่ทุก 31 นาที เมื่อพูดถึงอาการของโรคนี้ หลายคนมักนึกถึงอุจจาระมีเลือดปน ท้องอืด ถ่ายลำบาก แต่นายแพทย์เฉียน เจิ้งหง แพทย์เฉพาะทางด้านระบบทางเดินอาหารและตับ เผยว่า อาการวิงเวียนและหูอื้อเกี่ยวข้องกับภาวะโลหิตจาง ซึ่งเป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนของมะเร็งลำไส้ใหญ่ พร้อมเล่าถึงกรณีผู้ป่วยหญิงที่มีอาการทั้งสองอย่างนี้รบกวนอยู่นาน เมื่อไปพบแพทย์พบว่ามีภาวะโลหิตจางรุนแรง และสุดท้ายได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่
นายแพทย์เฉียนได้เผยว่า เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของการขับถ่ายหรือพบเลือดปนในอุจจาระ ผู้คนมักกังวลว่าตัวเองจะเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยเขาอธิบายว่า มะเร็งลำไส้ใหญ่ที่อยู่ทางด้านขวามักแสดงอาการผ่านภาวะโลหิตจาง ผู้ป่วยมักมีอาการหน้าซีด เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย หรือไม่มีแรง นอกจากนี้ อาการวิงเวียนและหูอื้อก็ไม่ควรมองข้าม
นอกจากนี้ เขายังได้มีการพูดถึงเคสของหญิงสาววัย 30 ปีรายหนึ่ง ที่ไม่มีอาการผิดปกติเรื่องระบบขับถ่ายเลย แต่กลับมีอาการวิงเวียนและหูอื้อ แต่ผู้หญิงบางคนมักมีภาวะโลหิตจางเล็กน้อยในช่วงมีประจำเดือน เธอจึงคิดว่าอาการเหล่านี้เกี่ยวข้องกับรอบเดือน
แต่หลังจากมีอาการหูอื้อต่อเนื่องนานกว่าหนึ่งเดือน เธอเริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ จนกระทั่งวันหนึ่งขณะทำงาน เธอต้องเงยหน้าเพื่อเปิดหน้าต่าง ทันใดนั้นก็รู้สึกวิงเวียนอย่างรุนแรง ตามด้วยอาการตาพร่ามัว เกือบจะเป็นลม อาการหูอื้อรุนแรงจนไม่สามารถทำงานต่อได้ เธอจึงรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลทันที
หลังจากที่เธอเข้ารับการตรวจอย่างละเอียด พบว่ามีภาวะโลหิตจางรุนแรง แต่ก็ยังไม่สามารถอธิบายได้ว่าเป็นเพราะประจำเดือน เนื่องจากปกติผู้ป่วยที่มีภาวะโลหิตจางแบบนี้ จึงมีการตรวจอุจจาระเพื่อหาเลือดแฝง ผลปรากฏว่าพบผลบวก ก่อนส่งตัวเธอไปตรวจด้วยการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ และพบว่าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่
นายแพทย์อู๋ หงเฉิง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโลหิตวิทยาและมะเร็งวิทยาจากมหาวิทยาลัยการแพทย์ไทเป ได้เผยว่า เมื่อพบผู้ป่วยที่มีภาวะโลหิตจาง ไม่ใช่แค่ให้ยาธาตุเหล็กแล้วจบไป เพราะว่าภาวะโลหิตจางเป็นสัญญาณของโรคหลายชนิด เขาเล่าว่า มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้ศึกษาผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ 207 ราย ระหว่างปี 1983-1987 พบว่ามีอาการแสดงถึง 15 อย่าง โดยภาวะโลหิตจาง พบมากถึง 57% หรือเกือบ 6 ใน 10 ของผู้ป่วยทั้งหมด
นอกจากนี้ ไอซ์แลนด์ ได้ติดตามผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักกว่า 2,000 ราย ตั้งแต่ปี 1955-2004 รวม 50 ปี พบว่ามีโอกาสเกิดภาวะโลหิตจางถึง 60-70% นายแพทย์อู๋จึงเน้นย้ำว่า เมื่อพบผู้ป่วยที่มีภาวะโลหิตจาง โดยเฉพาะภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในผู้ชาย เพราะผู้หญิงอาจมีสาเหตุจากประจำเดือนหรือปัจจัยอื่น แต่ผู้ชายมีโอกาสเกิดภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กน้อยมาก
อ้างอิง : health.ettoday.net
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ยูทูบเบอร์ทดลองกินไข่วันละ 30 ฟองภายใน 1 เดือน ผลที่ออกมาเกินความคาดหมาย
- สลด ไฟไหม้วัดไทยในสหรัฐ คลอก 2 ศพ พระสงฆ์ชรามรณภาพ คนจอดรถมักง่าย ทำดับไฟยาก
- สาวจีนตะโกนด่าพ่อทั้งน้ำตา แต่ชาวเน็ตกลับเห็นใจลูก เมื่อทราบความจริงเรื่องนี้
ข่าวล่าสุด
