อุทาหรณ์ สาวแพ้ยาแก้ปวด ตุ่มพุพอง ผิวหนังหลุดลอก นอนทรมาน ICU 36 วัน
![สาวแพ้ยาแก้ปวด ตุ่มพุพอง ผิวหนังหลุดลอก นอนทรมาน ICU 36 วัน](https://thethaiger.com/th/wp-content/uploads/2025/02/Stevens-Johnson-Syndrome.jpg)
เฟซบุ๊ก Drama-addict แชร์เคสอุทาหรณ์เตือนภัยถึงอันตรายของการแพ้ยา โดยเฉพาะยาแก้ปวดที่หลายคนอาจมองข้าม โดยเรื่องราวนี้เป็นประสบการณ์ตรงจากหญิงสาวรายหนึ่งที่ไม่ระบุชื่อ ที่ต้องเผชิญกับอาการแพ้ยารุนแรงถึงขั้น Stevens-Johnson Syndrome (SJS) หลังรับประทานยาแก้ปวดที่ไม่เคยแพ้มาก่อน
ทั้งนี้ Stevens-Johnson Syndrome (SJS) หรือกลุ่มอาการ สตีเวนส์-จอห์นสัน คือ อาการแพ้ยาอย่างรุนแรง ที่ส่งผลกระทบต่อผิวหนังและเยื่อบุต่างๆ ของร่างกาย เช่น ปาก ตา จมูก และอวัยวะเพศ จัดเป็นภาวะที่ ร้ายแรงและอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
หญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายรายนี้เล่าว่า เธอรับประทานยาแก้ปวดเป็นประจำ และไม่เคยมีอาการแพ้มาก่อน แต่เมื่อมาทานยาแก้ปวด “ตัวใหม่” กลับเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง เริ่มจากอาการปากบวม หน้าเป็นตุ่มแดง ผิวหนังลอกคล้ายแผลร้อนใน มีไข้สูง
ตอนแรกเข้าใจผิดคิดว่าเป็นอีสุกอีใส ทำให้ไม่ได้ไปโรงพยาบาลทันที จนกระทั่งอาการแย่ลงในช่วงเย็น จึงตัดสินใจไปพบแพทย์และพบว่าตนเองแพ้ยาอย่างรุนแรง
อาการแพ้ดังกล่าวส่งผลให้เธอต้องเข้ารับการรักษาในห้อง ICU นานถึง 36 วันเต็ม แพทย์ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดเนื่องจากอาการรุนแรงและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ระหว่างการรักษา ผิวหนังของเธอเริ่มพุพอง ตาบวมจนเปลือกตาติดกัน เนื้อเยื่อในปากลอกหลุดออกมา เธอต้องได้รับการดูแลจากแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังและจักษุ ต้องเข้ารับการผ่าตัดถึง 2 ครั้งเพื่อรักษาอาการที่ดวงตา และต้องใช้เวลานานในการพักฟื้นที่โรงพยาบาล ตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน 2567 ถึง 1 พฤศจิกายน 2567
ปัจจุบัน แม้จะออกจากโรงพยาบาลมาได้ 3 เดือนแล้ว หญิงสาวรายนี้ยังคงต้องเผชิญกับผลกระทบจากการแพ้ยา โดยเฉพาะปัญหาทางด้านสายตา เธอกล่าวว่า “ตอนนี้ผลที่ตามมาคือทางด้านตาค่ะ เนื่องจากตาบวมเปลือกตาติดกัน ทำให้เปลือกตามีปัญหาด้วยค่ะ ตอนนี้ต้องคอยหยอดน้ำตาเทียมทุก 2 ชั่วโมงค่ะ มีอาการตาแห้งน้ำตาไหลค่ะ”
“ใครที่ได้ไปเยี่ยมเห็นช่วงนั้นคือ…สุดๆละ คุณหมอทางด้านสกินเข้ามาดูแลต่อเรื่องผิว ว่าจะทำยังไงต่อไป จากนี้เริ่มจำไม่ค่อยได้ละเพราะยา หมอต้องจ่ายยาหนักเพราะจะได้ไม่รู้สึกเจ็บ ค่อยๆทำมาเป็นขั้นตอนรักษามาเรื่อยๆ เข้าห้องผ่าตัดนี่2รอบได้ คุณหมอดูแลเต็มที่ ตัดมาที่หมอตา คุณหมอสั่งเนื้อเยื่อหุ้มให้จากเชียงใหม่ แต่ช่วงนั้นน้ำท่วมต้องรอ ได้ผ่าอีกทีวันที่16 ตุลา ได้ตัดไหมวันที่31 วันที่1 พฤศจิกา ก็กลับบ้านเลย
ผมนี่ไม่รอด ผมร่วงมาก สุดแล้วต้องโกนรอขึ้นพร้อมกันทีเดียว ตอนนี้กลับบ้านแล้ว ผิวคิ้วขนตาผม รอฟื้นฟูไปอีกเป็นปี แต่แผลนี้คุณหมอบอกว่าไม่เป็นรอยแผลเป็น ไม่ต้องเป็นห่วง รอฟื้นฟูยาวๆ คิดแง่บวกคือ อิฉันได้ผิวใหม่ ปลอบใจตัวเองไม่ต้องเครียด ไม่ต้องคิดมาก เดี๋ยวมันก็กลับมาเหมือนเดิม… อิฉันว่าฉันเก่งละนะทำใจยอมรับมันได้…. แต่ว่า…พ่อกับแม่เก่งที่สุดที่ผ่านมาได้เช่นกัน แบบที่สุด ทนเห็นอะไรหลายๆอย่าง”
นอกจากผลกระทบทางร่างกายแล้ว เธอยังเผยถึงผลกระทบทางจิตใจที่เกิดขึ้น “เคยคิดลบกับตัวเองแล้วครั้งนึง แต่ครั้งนี้ไม่แล้ว… ใครที่กำลังท้อหรืออะไร คุณไม่ได้ตัวคนเดียวนะ คุณยังมีครอบครัว คนที่รักคุณ เพื่อน ญาติพี่น้อง เขาอยู่ข้างคุณเสมอนะ..” หญิงสาวกล่าวให้กำลังใจผู้ที่กำลังเผชิญกับความยากลำบาก
เรื่องราวของหญิงสาวรายนี้เป็นอุทาหรณ์สำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงอันตรายของการแพ้ยา ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน และกับยาแทบทุกชนิด แม้แต่ยาที่เคยรับประทานเป็นประจำและไม่เคยแพ้มาก่อน อาการแพ้ยารุนแรง Stevens-Johnson Syndrome สามารถนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงถึงขั้นพิการหรือเสียชีวิตได้
ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือการสังเกตอาการตนเองหลังรับประทานยา หากมีอาการผิดปกติที่สงสัยว่าจะแพ้ยา ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด อย่าชะล่าใจคิดว่าเป็นอาการเพียงเล็กน้อย เพราะการรักษาที่รวดเร็วจะช่วยลดความรุนแรงและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้
ข้อควรระวังเกี่ยวกับการใช้ยา (อ้างอิงจากข้อมูล Drama-addict และข้อมูลทางการแพทย์)
- ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร: ก่อนใช้ยาใดๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือเคยมีประวัติแพ้ยา
- แจ้งประวัติแพ้ยา: ทุกครั้งที่เข้ารับการรักษา ควรแจ้งประวัติการแพ้ยาให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ
- อ่านฉลากยา: อ่านฉลากยาและเอกสารกำกับยาอย่างละเอียด เพื่อทราบถึงข้อบ่งใช้ ข้อควรระวัง และอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- สังเกตอาการหลังใช้ยา: หลังรับประทานยา หากมีอาการผิดปกติ เช่น ผื่นคัน บวม หายใจลำบาก หรือมีไข้ ควรรีบหยุดยาและไปพบแพทย์ทันที
- อย่าซื้อยาเอง: ไม่ควรซื้อยามาใช้เองโดยไม่ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร โดยเฉพาะยาแก้ปวด หรือยาปฏิชีวนะ
อาการแพ้ยารุนแรง Stevens-Johnson Syndrome (SJS) และ Toxic Epidermal Necrolysis (TEN):
อาการที่ควรเฝ้าระวัง สันนิษฐานว่าแพ้ยา
- ไข้สูง
- เจ็บคอ
- ไอ
- ปวดเมื่อยตามตัว
- ผื่นแดงหรือม่วง
- ตุ่มพอง
- ผิวหนังลอกหลุด
- ปากและตาอักเสบ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- แพทย์เตือน 14 นามสกุล ระวังแพ้ยาสลบจากพันธุกรรม อาจเสียชีวิตได้
- @แพ้ยา‘หมิว สิริลภัส’ ป่วยหนัก แพ้ยารุนแรงผื่นเห่อถึงขั้นเดินไม่ได้
- ‘น้ำฝน กุลณัฐ’ เล่าประสบการณ์หลังติดโควิด-19 แพ้ยาจนอ้วกแตก