2018 ปีแห่งการดูหนังอีกปีนึงเลยก็ว่าได้ มีหนังที่น่าสนใจหลายเรื่องหลายแนว บ้างเป็นภาคต่อความสำเร็จมาจากภาคก่อนๆ บ้างเป็นภาคแรกที่ทำแล้วก็บูมเลย หลายๆเรื่องเป็นหนังที่สนุกในสายตาหลายๆคนแต่กลับไม่ทำรายได้ตามที่คาดไว้ หลายๆเรื่องเป็นหนังที่ห่วยในสายตาหลายๆคน แต่กลับทำรยได้มหาศาลเกินคาด วันนี้เราจะพาไปดู 10 อันดับหนังทำเงินสูงสุดในปี 2018 ที่ผ่านมากัน
10. Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald (634.2 ล้านเหรียญ)
หนังแฟรนไชส์ภาคต่อจาก Fantastic Beasts and Where to Find Them ที่สร้างมาจากนิยายแนวแฟนตาซี เวทมนต์ ที่เล่าเรื่องเหตุการก่อกำเนิด แฮรี่ พ็อตเตอร์ ผลงานของ J.K. Rowling โดยภาคนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งในอีกหลายๆภาคที่จะตามมา เรียกได้ว่าเป็นมหากาพย์เลยก็ว่าได้
9. Deadpool 2 (736.6 ล้านเหรียญ)
หนังภาคต่อของฮีโร่สุดเกรียนที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในภาคแรกที่ปล่อยออกมาเมื่อปี 2016 Fox จึงปล่อยภาคต่อออกมาเพื่อไม่ให้แฟนๆรอนาน โดยที่ภาคนี้มาพร้อมคู่หูคนใหม่ที่ถูกถอดแบบออกมาจากหนังสือการ์ตูนเป๊ะ ประกอบกับความเกรรียนและมุขฮาๆทั้งเรื่องจึงทำให้ Deadpool 2 ทำรายได้ถล่มทลาย
8. Bohemian Rhapsody (743.9 ล้านเหรียญ)
เป็นหนังวีชะประวัติของวงร็อคที่โด่งดังที่สุดในยุค 80s อย่าง Queen และนักร้องนำผู้ทรงอิทธิพลต่อวงการเพลงมาตลอดแม้จะเสียชีวิตไปนานแล้ว อย่าง Fredie Mercury แน่นอนว่าแฟนเพลงของ Queen ต้องตื่นเต้นมากที่จะได้ดูหนังเรื่องนี้เพราะทีมงานได้เคสตัวนักแสดงที่จะมาเล่นเป็นสมาชิกในวงได้เหมือนมาก โดยเฉพาะตัวนักร้องนำที่บอกได้ว่า เหมือนมากกกก
7. Mission: Impossible – Fallout (791 ล้านเหรียญ)
ภาคที่ 6 แล้วสำหรับหนังสายลับที่ดูๆไปก็ไม่ค่อยจะลับเท่าไหร่เพราะไล่ล่ากันสนั่นเมืองเลยทีเดียว ภาคนี้ได้นักแสดงทีมเดิมกลับมาครบ แถมยังได้ซุปเปอร์แมน Henry Cavill มาเป็นตัวร้ายให้สาวๆกรี๊ดกร๊าดกันอีกด้วย เป็นหนังแฟนรไชส์ที่ทำรายได้สูงเกือบทุกภาคเลยก็ว่าได้
6. venom (855.7 ล้านเหรียญ)
หลังจากที่ฝ่าฟันปัญหาอยู่นาน สุกท้าย แอนตี้ฮีโร่ Venom ก็ได้ออกฉายสู่สายตาแฟนๆที่ตั้งตารอคอยมานาน และก็เกินคาด แม้จะเป็นภาคแรกที่ดูๆแล้วเหมือนจะมีความเสี่ยงอยู่ไม่น้อย แต่หนังกลับทำรายได้สูงอย่างน่าเหลือเชื่อ โดยได้หนุ่มฮ็อตอย่าง Tom Hardy มารับบทเป็น Eddie Brock ผู้ถูกเลือกโดยเวน่อม ตัวกหนังมีความสนุกปนฮา ดูง่าย อีกทั้งแง้มๆว่าจะมีภาคต่อเสียด้วย
5. Aquaman (963.4 ล้านเหรียญ)
หลังจากที่เผยโฉมให้แฟนๆได้เป็นนิดหน่อยใน Batman V Superman และขึ้นบกมารวมทีมต่อสู้วายร้ายใน Justice League ในที่สุด เจ้าสมุทร Aquaman ก็ได้มีหนังเดี่ยวเป็นของตัวเองสักที โดยได้ผู้กำกับสายสยองขวัญอย่าง James Wan มากำกับ ด้วยความเกรียนของตัวละครบวกกับความฮ็อตของนักแสดงอย่าง Jason Momoa และนักแสดงคนอื่นก็ส่งให้หนังได้รับความนิยมไปทั่วโลก โดยเฉพาะฉากต่อสู้และฉากรบใต้น้ำสุดอลังการ บอกได้เลยว่า สุดจริงๆ
4. Incredibles 2 (1.24 พันล้านเหรียญ)
ปล่อยให้แฟนๆรอมากกว่า 15 ปี กว่าจะมีภาคสองออกมา แต่แอนิเมชั่นครอบครัวฮีโร่ชุดแดง ก็ยังคงได้รับการต้อนรับอย่างดีในกลุ่มคนดูทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ถือว่าไม่เสียแรงที่รอปล่อยให้รอถึง 15 ปี คิดว่าสิ่งที่คนดูรอลุ้นที่จะได้เห็นมากที่สุดคือพลังของเจ้าลูกคนสุดท้องตัวเล็กสุด ที่ดูเหมือนว่าจะมีพลังเยอะสุด ตัวหนังทำออกมาได้ดี ดูอบอุ่น มีมุขให้อมยิ้มกันตลอด เป็นหนังครอบคัวที่ดีเครื่องหนึ่งเลยทีเดียว
3. Jurassic World: Fallen Kingdom (1.31 พันล้านเหรียญ)
รีบูทจากจูราสสิค พาร์ค ยุคคลาสสิค โดยได้หนุ่มสุดฮ็อตมาแรงอย่าง Chris Pratt มาเป็นพระเอกวิ่งหนีไดโนเสาร์ ภาคแรกดูเหมือนจะแปลกๆ แต่มาภาคนี้กลับทำรายได้ถล่มทลาย เพราะตัวหนังมีครบทุกอารมณ์ สนุก ตื่นเต้น ลุ้นระทึก และหม่นหมองชวนน้ำตาคลอ เรียกได้ว่าครบรส
2. Black Panther (1.35 พันล้านเหรียญ)
หลังจากที่เปิดตัวเจ้าชายแห่งวากันด้าไปในหนัง Avenger: Civil War ในที่สุดฮีโร่ผิวสีคนนี้ก็ได้มีหนังเดี่ยวของตัวเอง เป็นหนังที่โชว์วัฒนธรรมของชาวแอฟริกันได้อย่างดี และเป็นการแสดงพลังของคนผิวสี หนังยังได้รับเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสก้ามากมายหลายสาขา เรียกได้ว่าประสบความรำเร็จทั้งด้านรายได้และคำวิจารณ์จริงๆ
1. Avenger: Infinity War (2.05 พันล้านเหรียญ)
จะเป็นเรื่องไดไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ที่สุดหนังรวมฮีโร่จากค่ายมาร์เวลเรื่องนี้ ด้วยการปูทางและเนื้อเรื่องมากว่า 10 ปี สุดท้ายเหล่าฮีโร่ทั้งหลายก็ได้มาอยู่รวมจอเดียวกันเสียที แม้จะไม่ได้อยู่ร่วมฉากเดียวกันทั้งหมดทุกคนก็เหอะ ตัวหนังทำออกมาได้ดี เดินเรื่องเร็ว สนุกปนฮา ตัวละครทุกตัวได้มีซีนเด่นๆของตัวเอง ถึงจะจบแบบงงๆแต่ก็เป็นหารปูทางไปภาคต่อไปได้ดี ถือว่าปีนี้เป็นปีของ Marvel จริงๆ
