ตร.สภ ฉลอง ติดตามตัวนักท่องเที่ยวเก็บดาวทะเล มาสอบสวนดำเนินคดี
ภูเก็ต – ตร.สภ.ฉลอง เรียกเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรฯเข้าพบเพื่อให้ข้อมูลกรณีนักท่องเที่ยวเก็บดาวทะเล เร่งติดตามตัวนักท่องเที่ยวมาสอบสวนดำเนินคดี
จากกรณีเมื่อวันที่ 22 ม.ค.62 ผู้ใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า “Khanchit Klingklip ได้โพสต์ภาพนิ่ง และวิดิโอคลิปความยาวประมาณ 27 วินาที พร้อมข้อความระบุว่า “ณ. ท่าเทียบเรืออ่าวฉลองจ.ภูเก็ต เมื่อเวลา18.00น. ได้รับแจ้งจากเครือข่ายว่ามีนักท่องเที่ยวนำดาวทะเลสีฟ้า หรือปลาดาวสีฟ้า ใส่ถุงหิ้วกลับเข้าฝั่ง ดาวทะเล ต้องมาตายด้วยมือนักท่องเที่ยวที่มักง่าย ดูอย่างเดียวไม่พอ ยังจะพากลับขึ้นฝั่งอีก หากปล่อยปละละเลยกันเช่นนี้ แล้วจะอนุรักษ์กันเพื่ออะไร??
แล้วทำไมถึงสามารถพาขึ้นฝั่งเดินลอยละลิ่วสบายใจเช่นนี้ กลุ่มคนที่พาเที่ยวหายไปใหน ทำไมไม่บอกกล่าวกันบ้าง สมควรแล้วหรือกับสิ่งนี้ จะยอมให้สิ่งเหล่านี้เกิดอีกสักกี่สิบครั้ง ถึงจะพอ ไม่ต้องบอกว่าลูกค้าของใคร แค่เห็นหน้ากันคงจะจำกันได้ หยุดเถอะครับ ช่วยกันหยุดอย่าให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นอีกเลยครับ ช่วยกันดูแลครับ
เพราะนั้นคือสมบัติของทุกคน อย่าให้นักทอ่งเที่ยวที่เข้ามาแล้ว ทำลายในส่วนของทรัพยากรที่เรามีอยู่อีกเลยครับ ช่วยกันสอดส่องดูแลเถอะครับ อย่ามองข้ามสิ่งเหล่านี้เลย หากเราทุกคนยังคงทำมาหากินกับการท่องเที่ยว ปล.ขอขอบคุณเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรฯที่คอยส่งข้อมูลให้ได้บอกกล่าวกัน”
ล่าสุด วานนี้ (23ม.ค.) ผู้ใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า “Khanchit Klingklip” ผู้โพสต์ หรือ นายครรชิต คลิ้งขลิบ สมาชิกชมรม HEALTHY REEF’S และเป็นเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรฯ ได้เข้าพบ พ.ต.ท.สนั่น จันทร์รงค์ รองผกก.สส.สภ.ฉลอง และ พ.ต.ต.อนุรักษ์ กลางณรงค์ สารวัตรสืบสวน สภ.ฉลอง เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมในการติดตามตัวกลุ่มนักท่องเที่ยวดังกล่าว มาสอบสวน
หลังจากให้ข้อมูลประมาณ 15 นาที เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งบริเวณท่าเทียบเรือฉลอง เพื่อติดตามตัวกลุ่มนทท.กลุ่มดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่า จะต้องติดตามตัวนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวมาสอบสวน โดยจะต้องทราบว่า ได้นำดาวทะเลมาจากแหล่งใด ก่อนพิจารณาความผิด เนื่องจากแต่ละพื้นที่เกาะมีการประกาศและกำหนดอัตราโทษไว้ไม่เท่ากัน
ด้าน นายครรชิต เปิดเผยว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อม แนวปะการังให้เสียสมดุล เพราะปลาดาวหรือดาวทะเลนั้นอยู่คู่กับแนวปะการัง สมาชิกเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล ซึ่งเป็นจิตอาสาซึ่งทนดูไม่ไหวจึงได้ส่งข่าวสารเข้ามาหลังจากที่ได้บันทึกเป็นภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวไว้ ตนเองจึงนำมาโพสต์ เจตนาคือเพื่อให้ทุกคนร่วมด้วยช่วยกันเป็นหูเป็นตา
สำหรับกรณีของนักท่องเที่ยววานนี้นั้นตนเองทราบจากเครือข่ายว่าได้มีการพูดคุยกับนทท.กลุ่มดังกล่าวเพื่อขอดาวทะเลไปไว้ในทะเลเช่นเดิม ซึ่งก็ใช้เวลาพูดคุยอยู่นานกว่านักท่องเที่ยวจะยอมมอบให้ ก่อนที่เครือข่ายจะนำไปไว้ในทะเลอ่าวฉลอง
ทั้งนี้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ฉลอง ได้เชิญตนเองมาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนเพื่อเป็นข้อมูลในการติดตามตัวนักท่องเที่ยวคนดังกล่าว ซึ่งตนเองรู้สึกยินดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เห็นความสำคัญกับปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมาทางกลุ่มฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการเอง ซึ่งอาจจะมีความล่าช้า
โดยที่ผ่านมา ผู้ประกอบการต่างๆในภูเก็ตส่วนใหญ่ โดยเฉพาะผู้ประกอบการชาวไทย ต่างก็ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์การดูแลทรัพยากรทางทะเลอยู่แล้ว มีนโยบายให้พนักงานช่วยกันดูแลไม่ให้กระทำผิด เช่นเรื่องการให้อาหารปลา การจับปลาสวยงาม การเก็บสิ่งต่างๆจากในทะเลและชายหาด หากพบเห็นให้ทำการตักเตือน
โดยมีข้อตกลงที่ทำร่วมกัน 5 ข้อ คือ 1. ไม่ให้อาหารปลา 2. ไม่เก็บเปลือกหอย 3 .ไม่เก็บปะการัง 4.ไม่ยืนบนปะการัง และ 5.ไม่ทิ้งขยะลงในทะเล แต่ก็พบว่ายังมีผู้ประกอบการบางส่วนหรือ เป็นส่วนน้อยที่ยังไม่มีจิตสำนึก ไม่ให้ความสำคัญ และยังคงกระทำการปล่อยประละเลยให้นักท่องเที่ยวกระทำตามใจ ซึ่งสุดท้ายผลจากการกระทำผิดของนักท่องเที่ยวก็จะทำให้ผู้ประกอบการเองที่เดือดร้อนไปด้วย
ด้าน พ.ต.ท.สนั่น จันทรงค์ รองผกก.สส.สภ.ฉลอง กล่าวว่า ขณะนี้ สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 9 ยังไม่มาแจ้งความร้องทุกข์แต่อย่างใด แต่มีการแชร์ในโลกโซเซียลไปอย่างกว้างขวาง ทางชุดสืบสวนได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและหาข้อมูลเชิงลึก เพื่อตามตัวนักท่องเที่ยวและบริษัททัวร์มาสอบถามกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อีกจะมีการดำเนินคดีนักท่องเที่ยวรายดังกล่าว
นอกจากนั้นได้สอบถามข้อมูลเบื้องต้นจาก เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรฯไว้แล้ว และจะเร่งติดตามนักท่องเที่ยวมาโดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ นายวัชรินทร์ ถิ่นถลาง ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 9 ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว