แฉ หัวหน้าช่องดัง กดดันนักข่าวลาออก เหตุกินเลี้ยงปีใหม่ กับทีมช่องคู่แข่ง
โซเชียลแห่มุง แฉหัวหน้าช่องดัง กดดันนักข่าวเขียนใบลาออก เหตุไม่พอใจไปกินเลี้ยงปีใหม่ กับทีมอื่นของช่องคู่แข่ง อยากให้ออก แต่ไม่อยากจ่ายชดเชย งัดวิธีกดดัน หาเรื่องให้มีความผิด
วันที่ 18 มกราคม 2568 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์ข้อความแฉสนั่นวงการสื่อ เผยพฤติกรรมหัวหน้าข่าวช่องดัง ร่วมมือฝ่ายบุคคล ปิดห้องกดดัน กักขังหน่วงเหนี่ยวนักข่าว บังคับให้เขียนใบลาออก นาน 2-3 ชั่วโมง โดยให้เหตุผลอ้างว่า นักข่าวคนดังกล่าวไปร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ปีใหม่กับทีมข่าวของช่องคู่แข่ง
โพสต์ดังกล่าวระบุข้อความไว้ว่า “นักข่าวช่องดัง โดนหัวหน้างานและฝ่ายบุคคลปิดห้องบังคับกดดันให้เขียนใบลาออก กักขังหน่วงเหนี่ยวไม่ให้ออกจากห้อง 2-3 ชั่วโมง ต้องเขียนใบลาออกเท่านั้น
สาเหตุเพราะไปกินเลี้ยงปีใหม่กับเพื่อนนักข่าวช่องอื่นที่เคยอยู่ที่เดียวกัน ซึ่งทีมเก่าเคยมีปัญหากันถึงขั้นต้องยกทีมไปอยู่ช่องอื่นเกือบทั้งหมด
ประเด็นคือหัวหน้างานก็เพิ่งไปกราบสวัสดีปีใหม่ อดีต ผอ. ถึงช่องใหม่ แต่พอน้องนักข่าวในทีมไปกินเลี้ยงปีใหม่กับเพื่อนนักข่าวกลับถูกกดดันให้ลาออก พร้อมหาเรื่องให้มีความผิดให้ได้
ประเด็นคือคุณจะทะเลาะกันกับใคร ไม่ชอบพอกันกับใครมันก็เป็นเรื่องของคุณ มันไม่ใช่จะให้คนในองค์กรไปตั้งตัวเป็นศัตรูกับทุกคนแบบคุณ ต่อหน้าผู้บังคับบัญชาคนเก่า คุณก็ไปก้มกราบ แต่ลับหลังกับทิมแทงสารพัด
คำถามคือคุณและฝ่ายบุคคลมีสิทธิ์อะไรไปไล่นักข่าวออกทั้งๆที่ไม่มีความผิด มีสิทธิ์อะไรไปกักขังหน่วงเหนี่ยวไม่ให้เค้าออกจากห้อง ไม่ให้เค้าตัดสินใจ
ขอเรียกร้องให้ผู้บริหารช่องนั้นออกมาลงโทษหัวหน้างาน และฝ่ายบุคคลที่ลุแก่อำนาจ กระทำผิดกฏหมาย นอกจากจะไม่มีความเป็นคนแล้ว อย่างไรซึ่งมนุษยธรรม ไร้จรรยาบรรณ เป็นคนชั่วกับเพื่อนมนุษย์ เรากับน้องนักข่าวคนนั้น ยืนยันช่วยเหลืออย่างเต็มที่ มีหลักฐานที่จะดำเนินคดี”
ผู้โพสต์ยังได้แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมในโพสต์ดังกล่าวว่า “หัวหน้างาน ฝ่ายบุคคล ให้เหตุผลการกระทำของนักข่าวทำให้องค์กรเกิดความไม่สบายใจ เพราะกลุ่มที่ออกไปเป็นคู่ขัดแย้งกับตัวเอง หัวหน้างานไปกราบสวัสดีปีใหม่คนที่ตัวเองบอกไม่สบายใจเป็นคู่ขัดแย้งด้วย วงการนี้น่ากลัวมาก ต่อหน้าใส่หน้ากากใส่กัน ลับหลังทิ่มแทงกันสุดฤทธิ์สุดเดช”
จากนั้นไม่นาน ผู้ใช้เฟซบุ๊กคนดังกล่าวได้ออกมาโพสต์อีกครั้ง ติงถึงความลุ่มหลงในอำนาจของผู้เป็นนาย โดยข้อความระบุไว้ว่า “เรื่องหัวหน้างานกับฝ่ายบุคคล ปิดห้องกักขังหน่วงเหนี่ยวนักข่าว บังคับให้เขียนใบลาออกเพราะไปกินข้าวกับทีมงานของคู่แข่งที่ตัวเองไม่ชอบ
อยากฝากอย่างนึงนะคะว่า เจ้าของบริษัทเจ้าของช่องเค้าเป็นคู่แข่งกันเค้ายังไม่ทำอะไรไร้สาระแบบนี้ เราทุกคนต่างก็เป็นขี้ข้าเหมือนกัน รับเงินเงินเดือนจากบริษัทเหมือนกัน แข่งกันแค่เรื่องคอนเทนท์พอ อย่าลุ่มหลงในอำนาจ อย่าคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่เลย ขี้ข้าเหมือนกันค่ะ”
จนกระทั่งล่าสุด เจ้าตัวได้โพสต์ข้อความอีกว่า “มันหมดยุคแล้วกับการบังคับให้คนเขียนใบลาออก ถ้าคุณอยากบังคับให้ลูกน้องลาออก องค์กรคุณต้องจ่ายเงินชดเชยตามกฏหมายแรงงาน
ถ้าองค์กรคุณไม่เห็นด้วยกับคุณ แล้วคุณใช้วิธีปิดห้อง กักขังหน่วงเหนี่ยว บังคับให้ลูกน้องเขียนใบลาออก โดยคิดว่าจะไม่ต้องจ่ายเงินชดเลย มันเป็นวิธีที่โคตรงี่เง่า ไร้สมอง และเป็นวิธีที่คนโง่เค้าทำกัน ยิ่งอยู่ในวงการข่าว คลุกคลี่กับกฏหมายยิ่งไม่สมควร ไม่รู้ว่าเติบโตขึ้นมาเป็นหัวหน้าคน เป็นผู้บังคับบัญชาคนได้ยังไง ถึงโง่เง่าขนาดนี้
ในทางกฏหมายการกระทำแบบนี้ยังไงคุณแพ้ นอกเหนือจากองค์กรของคุณจะต้องจ่ายค่าชดเชยแล้ว กฎหมายยังสามารถฟ้องเรียกค่าละเมิดจากตัวของคุณเองได้ อย่าคิดว่าอยู่บนหอคอยแล้วจะมีคนเอาหอกแทงไปไม่ถึง
คนโง่แบบนี้องค์กรไม่สมควรเอามาเป็นหัวหน้าคน หรือเอามาเป็นผู้บังคับบัญชาคน ผู้บริหารช่องควรมองออกได้แล้วว่าตัวปัญหาคือใครกันแน่ ทำให้ช่องตกต่ำ ทำให้ช่องมีแต่เสื่อมเสีย
ไม่มีปัญญาจ่ายเงินให้ใคร อย่าเที่ยวไปบังคับไล่ใครออก ทำอะไรปรึกษาผู้บริหารให้เยอะๆ ที่สำคัญเป็นหัวหน้าคนอย่าตอแหล อย่าคอยเอาแต่เลีย ไม่ใช่ต่อหน้ายกมือไหว้ ลับหลังเค้ามีแต่คอยทิ่มแทง”
ขณะนี้โพสต์ดังกล่าวได้กลายเป็นประเด็นที่ชาวโซเชียลให้ความสนใจ ผู้ใช้หลาย ๆ รายต่างออกมาคาดเดาถึงชื่อองค์กร รวมถึงเข้ามาคอมเมนต์แสดงความเห็นใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เอ็ม นายจ้างโหด ยอมขอโทษ นักข่าวช่องดัง หลังเอาหัวโขกบาดเจ็บ
- ต๊ะ นารากร ทิ้งคำใบ้ ผู้ประกาศข่าว ช่องดังย่านรถติด ถูกเลิกจ้าง คอมเมนต์เฉลยชัดมาก
- นายกสมาคมนักข่าวบันเทิง ขอโทษ เจนี่ ปมฉายานักแสดง ลบแล้ว