ข่มขืน ดญ. 12 ทางทวารหนัก ชายหื่นลวงกินขนม สืบนครบาล ทุ่มเท ปลอมตัวเป็นพุ่มไม้จับสำเร็จ
หนมน้า คนร้ายลวงเด็กหญิงวัย 12 กินขนม ก่อนข่มขืนทางทวารหนัก กบดานบ้านริมทุ่งนา สืบนครบาล ใช้แผนทหารราบ ปลอมตัวเป็นพุ่มไม้ ใส่ชุดลายพราง จนจับสำเร็จ
เมื่อวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาลจับกุม นายนภดล หรือ บังดีน อายุ 20 ปี ชาว อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ จ.1611/2567 ลงวันที่ 11 ธ.ค. 67 โดยกล่าวหาว่าร่วมกันเป็นธุระจัดหาบุคคลอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยใช้อุบายหลอกลวง ใช้กำลังประทุษร้าย, พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร, กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยการร่วมเพศทาง อวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือช่องปาก หรือการใช้สิ่งอื่นกระทำกับอวัยวะเพศ หรือทหารหนักของผู้อื่น โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านริมแม่น้ำไม่มีเลขที่ หมู่ 17 ต.ดอนฉิมพลี อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา
นายนภดลวางแผนลวงเด็กหญิงวัย 12 ปี ด้วยการหลอกพาไปกินขนม ก่อนลงมือขืนใจ ต่อมาแม่ของเด็กเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ประชาสำราญ ให้ดำเนินคดีกับคนร้าย
ผู้เสียหายได้เล่าว่า ลูกสาวของผู้เสียหายมีความสนิทกับเพื่อนชายนามว่า “รี่” ผ่านทาง Facebook ซึ่งคุยกันมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง กระทั่งฝ่ายชายขอนัดพบกับเด็ก โดยอ้างว่าจะพาไปนั่งเล่นกินขนม ด็กหลงเชื่อนัดหมายกัน
เมื่อวันที่ 1 ก.ย.67 นายรี่ได้มาที่จุดนัดพบใกล้บ้านของเด็กสาวย่านหนองจอก แต่ปรากฏว่าไม่ได้มาเพียงคนเดียว แต่ได้พา นายชาร์รีป อายุ 26 ปี มาด้วย จากนั้นพากันไปที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน จ.นครนายก เมื่อไปถึงได้ตั้งวงนั่งกินขนมกันจนเมื่อขนมใกล้หมด ฝ่ายชาย 2 คน ก็เสนอตัวจะไปซื้อขนมมาเพิ่ม จากนั้นชายทั้ง 2 ได้ออกไปจากรีสอร์ต ปล่อยให้เด็กอยู่ที่รีสอร์ตตามลำพัง เวลานั้นเด็กสาวไม่ได้คิดอะไรเพราะกลุ่มคนร้ายพามากินขนมจริงๆ
หลังจากชายทั้งสองออกไปซื้อขนมอยู่พักหนึ่ง แต่ไม่ได้กลับมา 2 เช่นเดิม กลับมีชายอีก 1 รายมาเพิ่ม คือ นายนภดล หรือบังดีน ผู้ต้องหา พร้อมกับขนมอีกจำนวนมาก จากนั้นชายทั้ง 3 และเด็กสาว ก็นั่งทานขนมกันอยู่รอบหนึ่ง
ผ่านไปราวครึ่งชั่วโมงนายรี่และนายชาร์รีปได้ออกจากห้องพักไป อ้างว่าไปดูรถจักรยานยนต์ สถานการณ์นั้นทำให้เด็กอยู่เพียงลำพังสองต่อสองกับนายนภดล ทำให้นายนภดลใช้กำลังประทุษร้าย ลงมือข่มขืนกระทำชำเราเด็กสาว หลังก่อเหตุเด็กสาวได้ร้องขอกลับบ้าน นายนภดลจึงขี่รถจักรยานยนต์กลับไปปล่อยเด็กทิ้งข้างทางย่านหนองจอกก่อนจะหลบหนีไป หลังจากนั้นเด็กได้เล่าเหตุการณ์ให้แม่ฟัง ก่อนจะพากันเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน
จากการสอบสวนของ ร.ต.อ.วัชรินทร์พบว่า การก่อเหตุของกลุ่มคนร้าย แม้จะมีผู้ลงมือข่มขืนเพียงคนเดียว แต่จากพฤติการณ์มีลักษณะ “ล่อลวงด้วยขนม” ให้เด็กสาวไปถูกนายนภดลกระทำชำเรา
หลังจากพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับคนร้าย พล.ต.ต.ธีรเดช ส่งชุดสืบนครบาลลงพื้นที่สืบสวนติดตามในทันที โดยสืบทราบจากสายลับว่าคนร้ายวนเวียนอยู่ในพื้นที่ย่านหนองจอก จึงนำกำลังเฝ้าติดตามกว่าหลายวัน กระทั่งพบชายต้องสงสัยตำหนิรูปพรรณคล้ายคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ ชุดสืบสวนรีบขับรถติดตามไปหลายกิโลเมตร ก่อนจะตลาดกัน
จนต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่มาไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนกระทั่งโชคเข้าข้างเมื่อกล้องวงจรปิดโครงการของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีต ผบ.ตร. สามารถบันทึกภาพคนร้ายนั่งรถโดยสารมาที่งานคอนเสิร์ตที่ไบเทคบางนา ชุดสืบสวนเร่งตามเบาะแสรอยเท้าไปจนกระทั่งทราบแหล่งกบดานของคนร้ายในละแวก ต.ดอนฉิมพลี อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา
แต่ชุดสืบสวนก็ต้องพบกับอุปสรรคที่เกือบจะเป็นทางตัน เมื่อแหล่งกบดานของคนร้ายมีสมรภูมิที่ได้เปรียบชุดสืบสวนอย่างสุดขีด ทำให้โอกาสที่ชุดสืบสวนจะพิสูจน์ทราบตัวคนร้ายได้เกือบจะเป็น 0% แต่ทว่าก็หาวิธีการสืบสวนที่แหกทุกกรอบของสารวัตรแจ๊ะได้งัดแผน “ทหารราบ” พรางกายสไตล์ Pubg คลานต่ำผ่านทุ่งนาเข้าไปกว่า 300 เมตร ก่อนจะใช้กล้องส่องทางไกลส่องเข้าไปเห็นคนร้ายหลบอยู่ใต้ถุนบ้าน หลังจากนั้นชุดสืบสวนไม่รอช้า นำกำลังบุกเข้าไปจับกุมได้ในทันที
ในชั้นจับกุม นายนภดลให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ทำผิดจริง โดยวันเกิดเหตุคือวันที่ 1 ก.ย.67 เวลาประมาณ 23.30 น. ขณะนั้นตนนอนอยู่ที่บ้าน ได้มีเพื่อนชื่อนายมี่ (ผู้ต้องหาอีกคน) ได้โทรทางเฟซบุ๊กมาหาตน บอกว่าออกมายัง มีคนมารอ พร้อมส่งรูปผู้หญิงหันข้างมาให้ตน
ตนจึงรีบขี่รถจักรยานยนต์ออกไปที่ห้องพักของนายมี่ย่านประชาสำราญ เมื่อไปถึงเจอนายมี่อยู่กับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งในห้อง จึงเรียกนายมี่ออกมาคุยนอกห้องว่าไปพาน้องเค้ามาจากไหน นายมี่บอกว่าคุยกันมาหลายวันแล้ว วันนี้ลองชวนน้องออกมา บอกจะพาไปเลี้ยงขนม น้องก็มากินขนม ให้ตนลองเข้าไปคุยเอง
ตนจึงเข้าไปเข้าไปในห้องอีกครั้ง ก่อนจะมีเพศสัมพันธ์ด้วยหลายครั้ง แต่น้องไม่ตอบ ตนจึงออกอุบายว่าถ้าน้องยอมจะพาไปซื้อขนม จากนั้นจึงกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่จำนวน 1 ครั้ง จากนั้นน้องบอกว่าอยากกลับบ้าน
ตนเกรงว่าจะเกิดปัญหาจึงขี่รถจักรยานยนต์กลับที่บ้าน โดยเมื่อกลับไประหว่างทางได้พบกับกลุ่มคนน่าจะเป็นผู้ปกครองของเด็กสาว จึงรีบส่งแล้วรีบขี่รถหนีไปเพราะกลัว ซึ่งไม่กี่วันถัดมาและในวันนี้ขณะถูกจับกุมเอง หันมาเห็นหน้าสารวัตรแจ๊ะกับหมวกสีเทาก็รู้ชะตาตัวเองแล้วว่ามันจบแล้ว ซึ่งระหว่างถูกจับกุม นายชาร์รีป ยังส่งข้อความมาเยาะเย้ยตน
พล.ต.ต.ธีรเดชกล่าวว่า ในคดีนี้คนร้ายใช้วิธีการหลอกไปกินขนมก่อนกระทำมิดีมิร้ายกับเด็กสาววัยเพียง 12 ปี ซึ่งทางคดีมีพยานหลักฐานยืนยันมัดแน่น และผู้ต้องหาก็ให้การรับสารภาพ จึงขอเตือนภัยไปยังพ่อแม่ผู้ปกครอง โปรดดูแลบุตรหลานของท่านให้ดี โดยเฉพาะบุตรสาว ในปัจจุบันโลกโซเชียลมีเดียทำให้การติดต่อสื่อสารกับเพศตรงข้ามทำได้ง่าย โดยที่เราไม่อาจรู้ว่าลูกของเราเล่นอะไรในโทรศัพท์และสนทนาอยู่กับใครบ้าง ความด้อยประสบการณ์และยังไม่บรรลุนิติภาวะของเยาวชนเปิดโอกาสให้ถูกล่อลวงไปกระทำมิดีมิร้ายได้ง่าย
พล.ต.ต.ธีรเดชกล่าวต่อว่า หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใดพบความผิดปกติ ไม่ว่าจะทางพฤติกรรม หรืออารมณ์ ของบุตรหลานของท่าน ให้รีบตรวจสอบอย่างใส่ใจ อย่าปล่อยผ่าน และหากท่านใดมีเบาะแสในลักษณะนี้สามารถแจ้งมาได้ที่เพจ สืบนครบาล IDMB ได้ตลอด 24 ชั่วโมง แม้มิใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ และ พล.ต.ท.สยาม
หลังจับกุมขยายผลได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ประชาสำราญ ดำเนินคดีตามกฎหมา
ด้านเพจเฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ ได้กล่าวยกย่องชื่นชมความทุ่มเทของปฏิบัติการ “หนมน้า” สืบนครบาล ที่ลงทุนพรางตัวเป็นพุ่มไม้ ว่า เอาซี้ “ปฎิบัติการณ์ หนมน้า” พ.ศ.นี้ต้อง ยกให้สืบนครบาลทำได้ทุกอย่างแม้การพรางตัวเป็นพุ่มไม้จับคนร้าe…