7 ตร. รุมกระทืบคนบริสุทธิ์ เข้าใจผิดแหกด่าน รอง ผบช.น. ยัน ไม่ไว้หน้า
เผยความคืบหน้า คดีตำรวจ 7 นาย รุ่มกระทืบลูกตํารวจ ทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ ตาช้ำแดงก่ำ หลังเข้าใจผิดแหกด่านตรวจ รอง ผบช.น. ยืนยันดำเนินคดีตรงไปตรงมา
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ได้ออกมายืนยันเกี่ยวกับการจับกุมและดำเนินคดีกรณี ตำรวจจราจร 7 นาย ทำร้ายประชาชนได้รับบาดเจ็บ ในพื้นที่ เกษตร-นวมินทร์ โดยระบุว่าผลการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรง กองบังคับการตำรวจจราจร พบว่ามีมูลตรงกับข้อมูลที่ญาติผู้เสียหายให้ไว้
ผู้ต้องสงสัยทั้ง 7 คน รับสารภาพว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการทำร้ายประชาชนจริง โดยในช่วงเย็นวันนี้ผู้บังคับบัญชาได้ควบคุมตัวพวกเขาไปมอบตัวกับพนักงานสอบสวนที่ สถานีตำรวจบางเขน เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย โดยเบื้องต้นจะถูกตั้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับอันตราย ส่วนข้อหาอื่น ๆ จะพิจารณาเพิ่มเติมหากพบว่ามีการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมายอื่นด้วย
รองผบช.น. เอาผิดจริง ไม่สนลูกใคร
พล.ต.ต.นพศิลป์ ยืนยันว่ากองบัญชาการตำรวจนครบาลจะไม่ให้การปกป้องหรือช่วยเหลือผู้กระทำผิด และจะไม่บิดเบือนคดีอย่างที่หลายฝ่ายกังวล โดยจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา
เพราะข้อเท็จจริงนั้นมีเพียงหนึ่งเดียว การกระทำของตำรวจทั้ง 7 นายเป็นความผิดพลาดที่ขาดการตรวจสอบให้รอบคอบว่า
รถที่ฝ่าด่านนั้นเป็นรถของผู้กระทำความผิดหรือไม่ แม้ผู้เสียหายจะเป็นคนที่ขับรถฝ่าด่าน แต่ตำรวจก็ไม่มีสิทธิ์ใช้ความรุนแรงในการดำเนินการ
ในกรณีที่มีการตั้งคำถามว่าทำไมตำรวจ 4 ใน 7 คนแต่งชุดนอกเครื่องแบบในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ พล.ต.ต.นพศิลป์ ชี้แจงว่า ช่วงเวลาดังกล่าวมีการตั้งด่านตรวจวินัยจราจรโดยกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ซึ่งมีตำรวจประจำด่านทั้งหมด 15 นาย ขณะนั้นได้พบรถที่มีปัญหาเมาแล้วขับ
เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวผู้ขับเข้าด่าน แต่ผู้ขับกลับขับรถฝ่าด่านไป โดยก่อนหน้านั้นเพียง 5 นาที ผู้ได้รับบาดเจ็บได้เข้าด่านตรวจเพื่อวัดระดับแอลกอฮอล์ 3 ครั้ง และไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ แต่เนื่องจากรถไม่มีป้ายภาษี จึงถูกตักเตือนและปล่อยตัวไป
เมื่อผู้ต้องสงสัยเมาแล้วขับ ซึ่งขับรถยนต์ที่มีลักษณะเหมือนกันกับรถของผู้เสียหายฝ่าด่านไป ตำรวจจึงตะโกนแจ้งว่ามีรถแหกด่าน เป็นรุ่นและสีเดียวกันกับรถของผู้เสียหาย
ตำรวจ 4 คนที่อยู่ในจุดดังกล่าวแม้จะหมดเวลาเวรแล้ว แต่ยังคงสมัครใจขับรถตามไปพร้อมกับตำรวจในเครื่องแบบอีก 3 คน จากนั้นเกิดเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายตามที่ญาติผู้เสียหายได้ระบุไว้
แม้ผิดจริงแต่ไม่ควรใช้ความรุนแรง
ทั้งนี้ พล.ต.ต.นพศิลป์ เน้นย้ำว่า ตำรวจมีหลักการและยุทธวิธีในการปฏิบัติหน้าที่ โดยเริ่มจากการใช้วาจาก่อน หากพบว่ามีแนวโน้มว่าฝ่ายตรงข้ามจะใช้กำลัง ตำรวจก็จะดำเนินการตามขั้นตอนและสัดส่วนที่เหมาะสม
รอง ผบช.น. ยังแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมฝากไปถึงครอบครัวของผู้ได้รับบาดเจ็บว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาลและผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นรู้สึกเสียใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมให้การช่วยเหลือผู้เสียหายอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังทราบว่าผู้เสียหายเป็นลูกของตำรวจเช่นกัน แต่ไม่ว่าจะเป็นลูกตำรวจหรือประชาชนทั่วไป เหตุการณ์เช่นนี้ไม่ควรเกิดขึ้นในสังคม
ทางด้านของเพจ Drama-addict ก็ถึงกับออกมาโพสต์แสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์นี้ว่า “เถื่อน” พร้อมกับโพสต์ภาพจากกล้องวงจรปิด และภาพข่าวช่อง 3 เผยให้เห็นดวงตาบนใบหน้าของผู้เสียหายที่แดงก่ำจากการโดนรุมทำร้ายโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- พ่อระยำ! ถ่ายคลิป หลอกลูกสาวอมจู๋ ซื้อทาโร่ให้กิน เพจต้นอ้อ รับเรื่องแล้ว เร่งหาตัวเด็ก
- บุกจับ อ.นงน้อย ติ๊กต๊อกใบ้หวย ชวนเล่นพนันออนไลน์ รับเดือนละ 1.5 หมื่น
- เปิดวาร์ป ‘เซียงเซียง พรสรวง’ สาวใช้ต่างด้าวผู้น่าสงสารใน “ทิชา” ตีบทแตกคนดูอินตาม
อ้างอิง : Drama-addict