ปวดใจ! หนุ่มร้อง ถูกพนักงานขโมยเหยี่ยวมูลค่าเกือบ 2 แสน คดีไม่คืบ
หนุ่มร้อง ถูกพนักงานขโมยเหยี่ยวมูลค่าเกือบ 2 แสน คดีไม่คืบ แม้มีหลักฐานสารภาพ ตั้งรางวัล 1 แสนบาท เผยรักและผูกพันมาก
นายเอ (นามสมมติ) อายุ 25 ปี และแฟนสาว เดินทางเข้าร้องเรียนกับ ทนายโป้ง หรือ เกียรติคุณ ต้นยาง สส.พรรคประชาชน เขต 7 จ.นนทบุรี ขอความช่วยเหลือ หลังถูกพนักงานในบริษัท อายุ 45 ปี ก่อเหตุขโมยนกเหยี่ยวสายพันธุ์แฮริสฮอว์ค อายุประมาณ 1 ปี มูลค่าเกือบ 200,000 บาท นำไปปล่อยต่อให้คนรู้จัก มีคลิปหลักฐานที่พนักงานคนดังกล่าวรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง แจ้งความมานานกว่า 3 เดือน แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้า ซ้ำยังถูกเจ้าหน้าที่เรียกเงิน
นายเอ เล่าว่า ตนเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท ดำเนินงานโดยใช้เหยี่ยวไล่นกพิราบในโรงงานต่าง ๆ เมื่อบริษัทหรือลูกค้าจ้างงาน จะส่งเหยี่ยวพร้อมผู้ดูแลไปทำงานในสถานที่นั้น ๆ โดยเมื่อวันที่ 4 ส.ค. ที่ผ่านมา ตนได้รับรายงานจากพนักงานควบคุมเหยี่ยวว่า เหยี่ยวของบริษัทหลุดหายไปจากบ้านพักที่ใช้เก็บเหยี่ยว ตนสงสัยเพราะที่บ้านพักมีมาตรการป้องกันแน่นหนา มีอุปกรณ์คล้องขาเหยี่ยว จึงไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียง พบพนักงานคนดังกล่าว ได้ออกจากพื้นที่ในช่วงเวลาประมาณ 05.00 น.
ต่อมาตนได้รับรูปภาพจากเพื่อนในวงการเหยี่ยว ว่ามีคนพยายามขายเหยี่ยวตัวหนึ่งให้ แต่เหยี่ยวนั้นไม่มีเอกสารหรืออุปกรณ์คล้องขา ตนเห็นภาพแล้วรู้ได้ทันทีว่าเป็นเหยี่ยวของตนที่หายไป จึงรวบรวมหลักฐานและแจ้งความที่ สภ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ในวันที่ 6 ส.ค.
หลังแจ้งความ ตนได้ติดตามคดีหลายครั้ง ทางพนักงานสอบสวนแจ้งว่าไม่มีงบค่าน้ำมันในการติดตามหานก พร้อมเรียกเงินจำนวน 10,000 บาท เพื่อเป็นค่าน้ำมัน ตนจำใจให้เงินสดเพื่อหวังจะได้เหยี่ยวคืน แต่หลังจากนั้นตำรวจยังไม่ดำเนินการ รอจนถึงตอนนี้เป็นระยะเวลา 3 เดือน ยังไม่มีความคืบหน้า
พนักงานยอมรับว่าขโมยนกไปจริง แต่ไม่ยอมรับว่านำไปขาย อ้างว่าไม่ได้เงิน จากนั้นมีการสาวไปถึงคนที่รับนกไป จึงให้พนักงานไปพูดคุยกับคนรู้จักเพื่อขอนกคืน แล้วทำการถ่ายคลิปไว้ ปรากฏว่าคนที่รับนกไปอ้างว่าปล่อยนกเหยี่ยวตัวดังกล่าวให้คนอื่นไปแล้ว ยังติดต่อคนที่ปล่อยไปไม่ได้ แถมยังอ้างว่าอาจจะต้องนำเงินไปซื้อกลับคืน โดยผู้ก่อเหตุได้รับสารภาพทุกอย่างผ่านคลิปเสียง ตนจึงนำหลักฐานนี้ส่งให้ตำรวจอีกครั้ง แต่ยังไม่มีการดำเนินคดีแต่อย่างใด
การมาร้องเรียนครั้งนี้ เพราะตนและแฟนสาวรักเหยี่ยวตัวนี้มาก ซื้อมาตั้งแต่ตัวเล็ก ๆ ราคา 70,000 บาท ทำการฝึกจนเก่งสามารถออกงานได้ ทำรายได้ให้ตนประมาณ 100,000 บาท ต่อเดือน พอตอนนี้เหยี่ยวหายไป ตนก็สูญรายได้ ทั้งยังรักและคิดถึงมาก เพราะกว่าจะฝึกให้เชื่องและมีความสามารถต้องใช้เวลาและความอดทน
แฟนสาวผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนรักและผูกพันกับเหยี่ยวมาก หลังจากหายตัวไปตนขับรถตามหาอย่างต่อเนื่องจาก จ.นครปฐม ถึง จ.อยุธยา อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด หากผู้ที่นำน้องไฟต์เตอร์ไปยอมคืน อาจจะไม่ดำเนินคดีใด ๆ หากใครพบเห็นตนมีรางวัลให้ 100,000 บาท สำหรับผู้ที่นำเหยี่ยวตัวนี้กลับมา
ด้านทนายโป้ง กล่าวว่า เมื่อดูพยานหลักฐานแล้ว ควรออกหมายเรียกผู้ต้องหาในความผิดฐานลักทรัพย์นายจ้างได้แล้ว ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี และปรับสูงสุด 1 แสนบาท เนื่องจากมีข้อมูลและหลักฐานพอสมควร
ส่วนเรื่องที่ผู้เสียหายอ้างว่า ตำรวจมีการรับเงินค่าน้ำมันในการจับกุมคนร้าย ตนยังไม่ปักใจเชื่อ จึงอยากฝากถึงผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอยุธยา ให้ลงมาตรวจสอบคดีที่ สภ.นครหลวง ว่าความคืบหน้าเป็นอย่างไร เพราะประชาชนมีความรักและผูกพันกับเหยี่ยวที่เลี้ยง ฝึกฝนมาตั้งแต่ตัวน้อย ๆ และยังเป็นเครื่องมีในการทำมาหากินสร้างรายได้เยอะพอสมควร
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง