อดีตอัยการอาวุโส รับช่วย ‘บอส อยู่วิทยา’ ในฐานะเพื่อนมนุษย์ ไม่ได้ซักบาท
ชัยณรงค์ แสงทองอร่าม อดีตอัยการอาวุโส ยอมรับสาเหตุที่ช่วย บอส อยู่วิทยา ทำในฐานะเพื่อนมนุษย์ และเป็นเพื่อนหลาน ไม่ได้เงินซักสลึง
จากกรณีที่ นายวัชรินทร์ ภานุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) และ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าคดีอาญาฟ้อง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผบ. ตร. ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 กับพวก รวม 8 คน ตามมติของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ส่งมา ในกรณีเปลี่ยนแปลงสำนวนและลดความเร็วรถของนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส อยู่วิทยา ที่ขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่งานจราจร สน.ทองหล่อ เสียชีวิต คดีดังเมื่อปี 2555
โดยนายวัชรินทร์ กล่าวว่า ตามที่ ป.ป.ช.มีหนังสือถึงอัยการสูงสุด แจ้งมติที่ขอให้ดำเนินคดีอาญา ฟ้อง พล.ต.อ.สมยศ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1, พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5, พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี ผู้ถูกกล่าวหาที่ 7, นายเนตร นาคสุข ผู้ถูกกล่าวหาที่ 10, นายชัยณรงค์ แสงทองอร่าม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 9, นายธนิต บัวเขียว ผู้ถูกกล่าวหาที่ 12, นายชูชัย หรือพิชัย เลิศพงศ์อดิศร ผู้ถูกกล่าวหาที่ 13, รศ.ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 19 ซึ่งอัยการสูงสุดได้พิจารณาและดำเนินคดีอาญาฟ้องผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 8 คน ตามมติของ ป.ป.ช. นั้น
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ที่ผ่านมา นาย ชัยณรงค์ แสงทองอร่าม อดีตอัยการอาวุโส เปิดเผยภายหลังเดินทางมาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง หลังตกเป็นจําเลยในคดีดังกล่าวว่า วันนี้รู้สึกดีใจและเสียใจ ซึ่งเรื่องนี้เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 63 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งนายวิชา มหาคุณ ตรวจสอบมหากาพย์ คดี บอส อยู่วิทยา ซึ่งวันนี้ 29 ส.ค. 67 รวมระยะเวลา 49 เดือน หรือ 4 ปี 1 เดือนพอดี ยอมรับตนรู้สึกอึดอัดใจและเสียใจมาก เพราะตนไม่ใช่ผู้กระทําความผิด แต่ถูกคณะกรรมการชุดต่างๆ ทั้ง ป.ป.ช. อัยการสูงสุด ที่ไม่ให้ความเป็นธรรมและกีดกั้นเพื่อพิสูจน์ความจริง จนมาวันนี้รู้สึกดีใจ เพราะศาลยุติธรรมจะเป็นที่เพิ่งสุดท้าย โดยตนจะนําพยานหลักฐานทั้งหมดที่ได้จากการฟ้องอดีต ก.อ. ในคดีหมิ่นประมาทฯ ซึ่งตอนนี้ตนได้รวบรวมพยานหลักฐานจนพบว่ามีการตัดต่อเทปจาก 1 ใน 8 ผู้ต้องหา ทําให้ ป.ป.ช. อัยการ และอัยการสูงสุด นําหลักฐานดังกล่าวมาเอาผิดตนเอง ซึ่งตนได้มีการแจ้งความเอาผิดใน 7 คดี กับทุกคนที่เกี่ยวข้องทั้งอดีตและปัจจุบันรวมทั้งนายตํารวจที่ตัดต่อเทปไว้ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้แล้ว
พร้อมยอมรับว่า ตนได้เข้าไปช่วยให้คําปรึกษาคดี บอส อยู่วิทยา เนื่องจากเป็นเพื่อนของหลานสาว โดนยืนยันว่าตนไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆทั้งสิ้น แม้แต่สลึงเดียว ได้เพียงนํ้าใจเท่านั้น
“ขาหนึ่งเป็นอัยการ อีกขาเป็นเพื่อนมนุษย์ เมื่อเพื่อนเดือดร้อนตนจะเข้าไปช่วยไม่ได้เลยหรืออย่างไร ก่อนจะช่วยตนได้ศึกษาข้อกฎหมายมาอย่างดี อีกทั้งตนเป็นอัยการมานานกว่า 30 ปี การเข้ามาช่วยให้คําปรึกษาสามารถทําได้ เพราะตนไม่มีอํานาจในการพิจารณาคดี”
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมในจริยธรรมของข้าราชการ ในกระบวนการยุติธรรมนั้น นายชัยณรงค์ กล่าวด้วยนํ้าเสียงจริงจังว่า “สังคมจอมปลอมพร้อมยกตัวอย่างเรื่องของตัวเองว่าเหตุใดจึงไม่มีใครให้ความเป็นธรรม ในเรื่องที่ถูกปลอมแปลงเทป ซึ่งตนเตรียมที่จะเปิดเทปตัวเต็มในวันที่ 23 ก.ย.นี้ หลังศาลไต่สวนมูลฟ้องคดีนายตํารวจตัดต่อเทป ครั้งที่ 4 เสร็จ ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง