โต้กลับ ป่าตองไม่ใช่เมืองร้าง ยันอัตราการเข้าพักโรงแรมยังดียังดี
โต้กลับคนโพสต์ ป่าตองเมืองร้าง ยันไม่จริง แต่ยอมรับนักท่องเที่ยวลดบ้าง เนื่องจากสถานการณ์วิกฤติมีอยู่ทั่วโลก.โรงแรมทั่วไปคนเข้าพักอยู่ที่ 75% ส่วนโรงแรมที่เปิดรับคนจีนโดยเฉพาะยอดลดลง
จากกรณีทีมีการโพสต์ข้อความ ผ่านโซเชียล กรณีข้อความเกี่ยวกับบรรยากาศการท่องเที่ยวในพื้นที่ป่าตอง จ.ภูเก็ต ในลักษณะที่ระบุว่าการท่องเที่ยวภูเก็ตซบเซาสุดในรอบ 10 ปี มีการประกาศขายโรงแรม สถานประกอบการ จนมีการแชร์กันไปจำนวนมา รวมทั้งสื่อหยิบยกไปพาดหัวข่าวในลักษณะว่าป่าตองเมืองร้าง
อย่างไรก็ตามหลังมีการโพสต์ข้อความออกไปและกลายเป็นกระแสในสังคมโซเชียล จนกลางเป็นที่วิพากวิจารณ์ กันไปอย่างกว้างขวางมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับข้อความดังกล่าว
ล่าสุด นายภูริตมาศวงศ์ศา ผู้ประกอบการโรงแรมในพื้นที่ ป่าตอง ซึ่งเป็นกูรูด้านการท่องเที่ยว ได้ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว ซึ่งมีทั้งภาพบรรยากกาศการท่องเที่ยวในพื้นที่ป่าตอง และข้อความ ที่ระบุ ว่า “ ผมเฝ้ามองเรื่องภูเก็ตเงียบเป็นเมืองร้างที่มีใครบางคนนำไปโพสต์และมีความเห็นที่แตกต่าง … เพราะในความจริงไม่ได้เป็นไปอย่างนั้นเลย … นักท่องเที่ยวอาจจะลดลงบ้าง
เนื่องจากสถานการณ์วิกฤติมีอยู่ทั่วโลก โดยเฉพาะในแถบยุโรป … เที่ยวบินลดลงเนื่องจากชาเตอร์ไฟล์ของกลุ่มทัวร์จีนลดน้อยลง แต่เที่ยวบินหลักจากเมืองจีนยังคงบินอยู่ปกติ
โรงแรมโดยทั่วไปมีอัตราการเข้าพักอยู่ที่ 75% โดยเฉลี่ย แต่โรงแรมที่เปิดมาเพื่อรับกลุ่มทัวร์จีนโดยเฉพาะอาจจะได้รับผลกระทบโดยตรง คือ มีอัตราการเข้าพักน้อย .โดยรวมสำหรับธุรกิจโรงแรมก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี แม้อัตราการเข้าพักจะลดน้อยลงกว่าปีที่แล้วบ้าง 5 – 10%
สถิตินักท่องเที่ยวในภาพรวมผมมีข้อมูลที่สรุปมาจากการเก็บข้อมูลของท่าอากาศยานภูเก็ตและททท. (ขออนุญาตนำข้อมูลมาเผยแพร่นะครับ) พบว่าเที่ยวบินลดลง แต่ผู้โดยสารเพิ่มมากขึ้น ด้วยเหตุผลจากการเพิ่มขนาดเครื่องบินให้ใหญ่ขึ้นและลดเที่ยวบินลง อย่างไรก็ตาม กำลังซื้อของนักท่องเที่ยวในปัจจุบันลดลงเพราะตลาดและพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป
ตลอดสามปีที่ผ่านมา เราเริ่มคุ้นกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และกำลังซื้อจากนักท่องเที่ยวจีนที่ใช้จ่ายด้วยอาลีเปย์ หรือ wechat (**ที่มีหลายกลุ่มบอกว่านักท่องเที่ยวจีนไม่ใช้จ่ายเงิน เป็นทัวร์ศูนย์เหรียญ ผู้ประกอบการไม่ได้อะไร) …
แต่เหตุการณ์เดือนกรกฏาคม ก็สร้างความตึงเครียดให้พอสมควรกับตลาดในกลุ่มนี้ และเกิดผลกระทบในวงกว้างกับผู้ประกอบการที่รับนักท่องเที่ยวกรุ๊ปจีนโดยเฉพาะ
แต่ในขณะเดียวกัน ตลาดกลุ่มอื่นๆก็ยังคงดำเนินไปตามปกติ และ มีที่เพิ่มเติมเข้ามาก็คือตลาดอินเดียที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แม้ว่าการจับจ่ายใช้สอยจะต่ำกว่าตลาดอื่นๆ …
ผมทราบมาว่าเวลานี้ ทาง ททท. เองก็พยายามผลักดันให้เกิดตลาดใหม่ๆที่มีศักยภาพเกิดขึ้นเพื่อมาทดแทนบางกลุ่มตลาดที่กำลังหันไปท่องเที่ยวยังประเทศเพื่อนบ้านกันมากพอสมควร นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวบางกลุ่มตลาดลดลงไป
ผมมีภาพถนนคนเดินย่านเมืองเก่าภูเก็ตและหาดป่าตอง มาลงให้ชมกันนะครับ ว่าการท่องเที่ยวของภูเก็ตไม่ได้เลวร้ายอย่างที่โหมกระพือโดยหนังสือพิมพ์ส่วนกลางฉบับหนึ่ง …
ดังนั้น การตลาดเฉพาะตัวของผู้ประกอบการจึงขึ้นอยู่กับการกระจายความเสี่ยงของกลุ่มตลาดซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องตระหนักและใช้มันให้เกิดประโยชน์ … เพื่อไว้รับมือกับสถานการณ์ที่ผันแปรของทิศทางการท่องเที่ยวที่มีคู่แข่งเพิ่มมากขึ้นในละแวกใกล้บ้านเรา …
ขณะที่นางกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการสำนักงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)สำนักงานภูเก็ต กล่าวในการประชุม ประชุมคณะกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยว ประจำเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอันดามัน ครั้งที่ 3/2561
ซึ่งมีนายธัญญวัฒน์ ชาญพินิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธาน ว่า จังหวัดภูเก็ตยังคงมีอัตราการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในภูเก็ตเมื่อเปรียบเทียบกับปี 60 ถือว่ายังดี
ซึ่งจากการสอบถามผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต สถานการณ์ท่องเที่ยวในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2561 พบว่ามีอัตราการเข้าพักของนักท่องเที่ยวร้อยละ 71.77 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา สัดส่วนนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติอยู่ที่ 14.75 : 85.25 ผู้เยี่ยมเยือนรวม 1,034,908 คน-ครั้ง ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของผู้เยี่ยมเยือน 8,211.80 บาท/คน/วัน ทำให้มีสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 40,391.47 ล้านบาท
โดยที่พักบริเวณหาดมีการจองเข้าพักสูงถึงร้อยละ 84.78 นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในเดือนนี้ส่วนใหญ่ยังคงเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน รัสเซีย ออสเตรเลีย เกาหลี อินเดีย ตามลำดับ สำหรับตลาดจีนจำนวนนักท่องเที่ยวจาก ตม.ภูเก็ตขาเข้าอยู่ที่ 130,221 คน ลดลง 3,516 คนเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
และ จำนวนนักท่องเที่ยวจากท่าอากาศยานภูเก็ต 355,429 คนเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.63 โดยยังมีสถานพักแรมบางแห่งแจ้งว่ามีกรุ๊ปนักท่องเที่ยวจีนแจ้งยกเลิก การจองเฉลี่ยประมาณ 5% ส่วนตลาดกลุ่ม FIT ตลาดนี้ยังคงเดินทางเข้าพื้นที่ปกติ