แค่เตือนขับรถดี ๆ เจอถือเอ็ม16 ไล่ล่า หนีตายหวัง ตร.ช่วย กลับยกมือไหว้คู่กรณี
หนุ่มพังงา เจอขับกินเลนตรงทางโค้ง เตือนขับรถให้ดีหน่อย ต่อหน้าลูก อีกฝ่ายไม่พอใจ ขู่เอาถึงตาย ถือปืนเอ็ม 16 ไล่ล่า ต้องหนีซ่อนบังกะโล แถมขอความช่วยเหลือตำรวจ ดันเห็นยกมือไหว้คู่กรณี จนต้องโร่หา สายไหมต้องรอด
“สวนเลนมาแล้วก็เกือบจะชนกันตรงโค้งนะ แล้วผมก็ด่าไป แล้วก็ขับรถมาที่หอพัก แล้วทีนี้แกก็ไปตามผู้ใหญ่ 2 คนนั้นมา แล้วก็เดินมาหาผม ผมก็บอกว่า เด็กนั้นขับรถแบบนั้น ๆ นะ แล้วเขาก็ให้เด็กนั้นขอโทษผม พอหลังจากขอโทษเสร็จ ผมก็บอกว่าคราวหลังก็ขับรถให้มันดี ๆ นะ เขาก็ม่พอใจ ถามว่า มึงพูดอะไรนะ ! ๆ แล้วก็มารุมต่อยผมเลย”
เนื้อหาบางส่วนที่เพจข่าวสด เผยแพร่บทสัมภาษณ์ของนายเกียรติภูมิ หนุ่มจ.กระบี่ อายุ 23 ปี ผู้เสียหาย เล่าให้กับสื่อมวลชนฟังในวันแถลงข่าวพร้อมกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ และทีมงานสายไหมต้องรอด
หลังจากเมื่อ 1 ส.ค.67 ต้องเจอกับเหตุการณ์เฉียดตาย คู่กรณีซึ่งมีเรื่องบาดหมางกันมาตั้งแต่บนท้องถนน ขับรถตามกลับมาทำร้ายถึงที่พัก
เกียรติภูมิ บอกว่าตอนเกิดเรื่องขับรถอยู่แถวที่พัก แต่จู่ ๆ รถคู่กรณีขับมาเกือบเฉี่ยวชนตรงบริเวทางโค้ง จึงพูดด้วยภาษาใต้และกล่าวเตือน เนื่องจากคู่กรณีอายุน้อยและขับรถกินเลนเข้ามา
แต่ต่อมาคู่กรณีไม่พอใจ มีการไปแจ้งบิดา กระทั่งมีผู้ใหญ่ 2 คน มาเคาะที่ห้อง
ตอนมาถึงคู่กรณีมีการให้ลูกชายขอโทษ พอได้ยินดังนั้นผู้เสียหายจึงพูดเตือนไปอีกครั้งหนึ่ง ว่า “ให้ขับรถดี ๆ” ต่อหน้าพ่อ ซึ่งเป็นชนวนเหตุทำให้ไม่พอใจ มองว่าไปสอนอีกฝ่าย ก่อนมีการถามกลับมาว่า พูดอะไรนะ ย้ำ ๆ และก็ปรี่เข้ามารุมทำร้าย
ตอนเกิดเรื่องชกต่อยกัน พออีกฝ่ายเริ่มสู้ไม่ได้ ก็ไปเอาอาวุธมีดมา ผู้เสียหายจึงยกมือไหว้ขอโทษ แต่คู่กรณียังกลับไปเอาอาวุธปืน M16 และย้อนกลับมาที่ห้องพัก มาไล่ล่าและยิงปืนขู่ที่หน้าห้องพัก ผู้เสียหายจึงตัดสินใจวิ่งหนีตายไปซ่อนตัวที่บังกะโล
กระทั่งเห็นรถตำรวจสายตรวจ จึงไปขวางและโบกรถขึ้นไป แต่ระหว่างทางตอนที่อยู่กับเจ้าหน้าที่สายตรวจ ก็ยังเห็นคู่กรณีจับกลุ่มถือปืนโชว์อยู่แถวข้างทาง
เท่านั้นไม่พอ ผู้เสียหายยังอ้างว่า ตอนที่ตำรวจลงไปหากลุ่มดังกล่าว ยังปรากฎภาพผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ยกมือไหว้คู่กรณีก่อนเลยเป็นอันดับแรก
ได้ยินคำกล่าว “สวัสดีดีครับ พี่โอ๋” แต่อีกฝ่ายไม่คุยกับตำรวจและขับรถออกไป ทราบต่อมาว่าเป็นคนดูที่-เฝ้าที่บนกาะ เหมือนกลุ่มคนมีสี
ต่อมาตอนที่ตำรวจพาไปซ่อนตัว ภรรยาผูเสียหายยังโทรมาถามเป็นยังไง พร้อมกับเล่าเรื่องที่หัวหน้าแผนกแจ้งว่า ผู้ก่อเหตุไปยิงขู่ที่หน้าบ้านด้วย ทำให้จึงเกิดความกังวลถึงความปลอดภัยของทั้งตนเองและครอบครัว
ทั้งนี้ นายเอกภพ ในฐานะผู้เข้ามาช่วยติดตามความคืบหน้าก็ระบุ คดีนี้ ผู้ก่อเหตุเดินถือปืนเอ็ม 16 ร่อนไปทั่วเกาะได้โดยไม่ถูกจับกุม ตนจึงอยากจะถามว่า แล้วแบบนี้สังคมจะอยู่กันยังไง
นายเอกภพ ยืนกรานเรื่องแบบนี้ไม่สามารถปล่อยไว้ได้ การลากปืนเอ็ม16 เห็นอย่างชัดเจนเสียงปืนดังสนั่น แล้วจับไม่ได้จริง จนท. คงต้องเอาปี๊บคลุมศีรษะกันแล้ว จะใหญ่โตแค่ไหนก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน.
อ้างอิงข้อมูลจากไทยรัฐทีวี ระบุ หลังเกิดรื่องได้มีการแจ้งความตำรวจ สภ.เกาะยาว ตั้งแต่เกิดเหตุชกต่อย ซึ่งตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่ทำได้เพียงยุติความขัดแย้งเบื้องต้น
ผู้เสียหายย้ำว่าพอมาเจอกับพ่อของเด็กคู่กรณี สิ่งแรกที่ตำรวจทำคือยกมือไหว้ขอให้ยุติเรื่อง ทั้งที่เห็นว่าพ่อของเด็กถือปืน M16 อยู่ในมือ แต่กลับไม่ดำเนินการตามกฎหมายแต่อย่างใด พร้อมกับแนะนำตนให้หลบไปอยู่ที่ปลอดภัย
เท่านั้นไม่พอ ตำรวจยังแนะนำอีกว่าให้มาขอความช่วยเหลือจากเพจสายไหมต้องรอดที่กรุงเทพฯ เนื่องจากตำรวจในพื้นที่คงช่วยอะไรไม่ได้.
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- อนุทิน ลั่นจัดการเด็ดขาด มาเฟียต่างชาติ หงุดหงิดเห็นคนไทยถูกรังแก
- กัน จอมพลัง ช่วยภรรยาทหาร ร้อง กองทัพ ถูกนอกใจไม่พอ ยังเจอซ้อมต่อหน้าลูก
- เตือนภัยแท็กซี่ โชเฟอร์หนุ่ม ถูก 3 โจ๋รุมซ้อมน่วม หิ้วทิ้งกลางถนน