หนุ่มวัย 22 พาแฟนสาวเที่ยวรีสอร์ต เปิดห้องเบอร์ 4 จ๊ะเอ๋ ! สามีเก่าห้องเบอร์ 5 สุดท้ายโดนตีหัวเจ็บ
หนุ่มพาแฟนสาวเช่ารีสอร์ตเปิดห้องเบอร์ 4 บังเอิญจ๊ะเอ๋ แฟนเก่าฝ่ายหญิงเช่าห้องเบอร์ 5 อยู่ก่อน 2 วัน เกิดเขม่น วานลูกน้องเคาะห้องใช้ปืนตบเลือดสาด
กลางดึกที่ผ่านมา (1 พ.ค.67) สภ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเหตุ ชายถูกกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 7 คน บุกเข้ามาทำร้ายร่างกาบถึงในห้องพักของรีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.สตึก โดยบุกเข้ามาในห้องพร้อมกับใช้ปืนหลายกระบอกมารุมตบจนได้รับบาดเจ็บ ศีรษะแตก ต้องเย็บ 4 เข็ม หลังเกิดเรื่องผู้เสีหายเข้าแจ้งความเพื่อให้ตำรวจติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี
สุริยา คนเจ็บอายุ 22 ปี เล่าว่า ตนกับแฟนสาวมาพักที่ห้องพักเบอร์ 4 ตามปกติ จากนั้นมีวัยรุ่นพักอยู่ข้างห้องมาเคาะประตู
คนเจ็บเล่าต่อว่าเมื่อเปิดประตูมา วัยรุ่นถามชื่อบอยหรือไม่ ? เป็นแฟนใหม่หรือไม่ ? ซึ่งทางผู้เสียหายก็ตอบรับกลับไปว่า “ใช่”
จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นเริ่มขับรถมาที่ห้องเบอร์ 5 หลายคน แล้วมาเคาะประตูห้อง มาขอบุหรี่สูบบ้าง เข้ามาถามนั่นนี่รวมแล้วประมาณ 6 ครั้ง โดยหนล่าสุดนอกจากมาเคาะหน้าห้องแล้วบังได้พยายามกระชากตัวนายสุริยาคนเจ็บออกจากห้องด้วย ทหใ้จึงเกิดการผลักวัยรุ่นกลุ่มใดังกล่าวให้ออกไป แต่กลุ่มวัยรุ่นดันเข้ามาในห้อง จากนั้นแต่ละคนซึ่งมีปืนทุกคนเอาปืนมาตบหน้าและศีรษะ จนหัวแตกดังกล่าว
ขณะที่ บี (นามสมมุติ) แฟนสาววัย 23ปี ของนายสุริยา ก็ได้เล่าว่า ก่อนหน้านี้เธอเองเคยคบหาเป็นแฟนกับ “นายจุ่น” คนที่ใช้ปืนตบแฟน
ต่อมานายจุ่นโดนคดีอาวุธปืนและยาเสพติด ศาลสั่งจำคุกกว่า 2 ปี และเมื่อประมาณ 6 เดือนที่ผ่านมา ได้คบหากับนายสุริยา มาเป็นแฟนคนใหม่ มารู้อีกทีว่าแฟนเก่าได้ออกจากเรือนจำมาเมื่อเดือนธันวาคม 66 พยายามให้คนทักมาแต่ไม่ได้สนใจเพราะมีแฟนใหม่แล้ว
ด้านเจ้าของรีสอร์ต กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ มีชาย 2 คนเข้ามาเปิดห้องเบอร์ 5 พักได้ 2 วันแล้ว ต่อมาช่วงค่ำวันที่ 1 พ.ค. ได้มีหนุ่มสาว 2 คน เข้ามาเปิดห้องเบอร์ 4 ตนก็เปิดให้ตามปกติ กระทั่งมีผู้หญิงวิ่งมาขอคมวาม่ชวยเหลือ บอกว่าโดนทำร้ายให้โทรศัพท์แจ้งตำรวจ โดยไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรกัน
อย่างไรก็ตามหญิงสาวยังยอมรับว่า เป็นเหตุบังเอิญที่มาเจอกับแฟนเก่าที่ต้องพักห้องติดกันแบบนี้ ถ้ารู้จะไม่มาเด็ดขาด แต่ก็อยากจะให้ตำรวจติดตามแฟนเก่ามาดำเนินคดี เพราะบ้านเมืองมีกฎหมาย ทั้งนี้ ตำรวจกำลังเร่งติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุซึ่งตอนนี้กำลังหลบหนีมาดำเนินคดีต่อไป.
ที่มา : มติชน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง