อ.เจษฎา ตอบแล้ว “กล้วยตาก” น้ำตาลสูงกว่า “ทุเรียน” จริงไหม โต้เพจดังให้ข้อมูลผิด

ปริศนาไขกระจ่าง กล้วยตาก vs ทุเรียน น้ำตาลไม่ได้ต่างกันเยอะอย่างที่คิด อ.เจษฎา โต้กลับเพจข่าวจังหวัด ให้ข้อมูลคลาดเคลื่อน จนประชาชนเข้าใจผิด แชร์ว่อนโซเชียล
ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ นักสื่อสารวิทยาศาสตร์ในโลกออนไลน์ ได้ออกมาแชร์โพสต้นเรื่องเกี่ยวกับข้อมูลดังกล่าว พร้อมชี้แจงข้อมูลที่สืบค้นจากรายการ “ชัวร์ก่อนแชร์” ของสำนักข่าวไทย อสมท. ได้หาข้อมูลเรื่องนี้ โดยสัมภาษณ์ รศ.ดร.รัชนี คงคาฉุยฉาย ผู้อำนวยการสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า มาเพิ่มเติมที่ได้ใจความว่า
จากการวิเคราะห์ของสถาบันโภชนาการของมหาวิทยาลัยมหิดล กล้วยตากนั้น มีน้ำตาลเพียง 15% เท่านั้น ไม่ใช่ 64.1% อย่างที่แชร์กัน หรือถ้าหากจะเยอะขนาดนั้น ก็อาจจะเป็นกล้วยตากอบน้ำผึ้งเป็นได้ ส่วนกล้วยไข่และกล้วยหอมนั้นก็ไม่ได้มีน้ำตาลที่สูงเท่าทุเรียนแต่อย่างใด
แต่ถ้าน้ำตาลสูงมากก็อาจจะเป็นเพราะกล้วยหอมนั้นมีความสุกงอมอย่างมาก อย่างตัวทุเรียนเองจากการวิเคราะห์จากสถาบันก็มีน้ำเพียงแค่ 7%, 8% และ 10% เพียงเท่านั้น หรือแล้วแต่ตามสายพันธ์
ประเด็นของผลไม้อื่น ๆ ในโพสที่แชร์มานั้นมีความจริงอยู่บางส่วน เช่น แตงโมกับฝรั่งนั้น เป็นเรื่องจริงที่แตงโมมีน้ำตาลน้อยกว่าฝรั่ง โดยฝรั่งทั่วไปมีน้ำตาลประมาณ 12-13% ขณะที่แตงโมมีเพียง 7-8% เท่านั้น
โดยสรุปแล้วคือ ผลไม้นั้นสามารถรับประทานได้ตามปกติ เพียงแต่ให้เฝ้าระวังสำหรับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับระดับน้ำตาล และผักสามารถกินได้ตามปกติเช่นกัน เพราะโดยธรรมชาติผักจะมีน้ำตามต่ำอยู่แล้วครับ

“(รีโพสต์) “กล้วยตาก มีน้ำตาลสูง ห้ามกิน” จริงหรือไม่ ? มีการแชร์ข้อความกันในไลน์ว่า “นำ้ตาลในกล้วยตากจะมากกว่าทุเรียนเกือบเท่าตัว กล้วยไข่และกล้วยหอมสูสีกับทุเรียนเลย ส่วนแตงโมน้อยกว่าฝรั่ง”
“ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานควรหลีกเลี่ยง ผักและผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลเกินกว่า 20%” ... แล้วตามลิสต์ของปริมาณน้ำตาลในผลไม้อีกหลายชนิด เช่น กล้วยตาก 64.1% ทุเรียน 34.7% กล้วยไข่ 34.1% ฯลฯ …
เรื่องนี้ จริงเท็จแค่ไหน ? รายการ “ชัวร์ก่อนแชร์” ของสำนักข่าวไทย อสมท. ได้หาข้อมูลเรื่องนี้ โดยสัมภาษณ์ รศ.ดร.รัชนี คงคาฉุยฉาย ผู้อำนวยการสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า
– กล้วยตาก ที่สถาบันเคยวิเคราะห์นั้น มีน้ำตาลอยู่ประมาณ 15% เท่านั้น ไม่ได้เยอะอย่างที่แชร์กัน หรือถ้าจะเยอะขนาดนั้น ก็อาจจะเป็น “กล้วยตากอบน้ำผึ้ง”
– อย่างไรก็ตาม การกินพวกผลไม้ตากแห้งนั้น มักจะได้รับสารอาหารในรูปน้ำตาล ส่วนพวกวิตามินซี และวิตามินอื่นๆ นั้น มักจะสูญเสียไปจากการตากแดด
– กล้วยไข่และกล้วยหอมนั้น ไม่ได้มีน้ำตาลสูงพอๆ กับทุเรียน อย่างที่แชร์กัน ถ้าจะให้มีน้ำตาลสูงมากๆ ก็อาจจะต้องเป็น “กล้วยหอมสุกงอม” …ส่วนทุเรียนเองนั้น ก็มีน้ำตาลอยู่แค่ระหว่าง 7%, 8% หรือ 10% ขึ้นกับแต่ละสายพันธุ์ (ไม่ใช่ 30%) โดยที่พันธุ์ “ก้านยาว” อาจมีไขมันเยอะ
– ส่วนแตงโมกับฝรั่งนั้น เป็นเรื่องจริงที่แตงโมมีน้ำตาลน้อยกว่าฝรั่ง โดยฝรั่งทั่วไปมีน้ำตาลประมาณ 12-13% ขณะที่แตงโมมีเพียง 7-8%
– ที่บอกให้ระวังผักและผลไม้ที่มีน้ำตาลสูงนั้น สำหรับ “ผัก” แล้ว ไม่เป็นความจริง เพราะผักมีน้ำตาลน้อยมากสามารถกินผักได้เยอะ โดยไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องพลังงาน
-.. ส่วนผลไม้ ก็รับประทานได้ แต่ให้ระวังเฉพาะในคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับระดับน้ำตาล สรุปรวมๆ ว่า อย่าพึ่งตกใจในเรื่องที่แชร์กันมานี้ และไม่ควรแชร์ต่อครับ
ข้อมูลจาก https://tna.mcot.net/tna-233288
ภาพจาก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปราจีนบุรี “
อ้างอิง: Jessada Denduangboripant