สั่งยุติขนย้าย “กากแคดเมียม” เที่ยวแรก 258 ตัน ชั่วคราว ! เหตุโซ่ขาดต้องปรับแผนใหม่
โซ่ขนขาด ระหว่างเตรียมทดลองย้ายกากแคดเมียม ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กำกับดูแลการย้ายถุงบิ๊กแบ๊กเที่ยวแรก 258 ตัน เกิดชะงัก ปัญหาตอนลำเลียงลงรถพ่วงเข้าโกดัง ร้อนคณะทำงานต้องประชุมแผนกันใหม่
รายงานความคืบหน้าการขนย้าย “กากแคดเมียม” ส่งกลับคืนบ่อฝังกลบเที่ยวแรก 270 ตัน เมื่อวันที่ 29 เม.ย.2567 ที่ผ่านมา คาดแล้วเสร็จภายใน 17 มิ.ย. 67 โดยหลังจากขบวนรถ 10 คันขนกากแคดเมียมชุดแรกจากสมุทรสาคร-กทม. จำนวน 258 ตัน เดินทางถึง จ.ตาก
อ้างอิงข้อมูลของไทยพีบีเอส ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม หนึ่งในคณะทำงานกำกับดูแลการย้ายถุงบิ๊กแบ็กกากแคดเมียม ได้สำรวจโกดังเก็บและเตรียมทดลองลำเลียงถุงบิ๊กแบ็กลงจากรถพ่วง เพื่อเปลี่ยนถ่ายไปใส่รถบรรทุกอีกคันที่จะลำเลียงเข้าโกดัง
ปรากฎว่า ระหว่างรถแบคโฮ ยกถุงแคดเมียมขึ้นยังไม่พ้นจากกระบะ “โซ่ได้เกิดขาดออกจากกัน 2 เส้น จนถุงบิกแบ๊กร่วงลงบนรถบรรทุก ส่งผลให้คณะทำงานฯ ต้องรีบสั่งให้ยุติการลำเลียงทันที ตอนนี้อยู่ระหว่างหารือปรับแผนใหม่ ขณะผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านขอให้ เจ้าหน้าที่ปรับแผนหาวิธีที่ดีที่สุดโดยเร็ว
ระหว่างนี้ รถบรรทุกยังจอดอยู่ในโรงงาน และคณะทำงานฯ ได้ประชุมหาแนวทางใหม่.
ต่อมาประเด็นสั่งยุติการขนย้ายกากแคดเมียมชั่วคราว ถูกวิพากษ์วิจารณ์และแชร์ข่าวปัญหาดโซ่ขาดกันจำนวนมากบนโซเชียล อาทิ เพจสรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ลงข้อมูลพร้อมภาพรถบรรทุกในสถานที่ขนย้าย จ.ตาก ซึ่งไม่นานเฟซบุ๊กเพจ Drama-addict ก็ได้แชร๋ข่าวนี้พร้อมกัยกับเขียนแจ้งเตือนประชาชนว่า “ยุติการขนย้ายแคดเมียมกลับตากชั่วคราว เพราะตอนขนย้ายถุงโซ่ขาด เตรียมการกันมากี่วันนะ”.
ทั้งนี้ ในส่วนแผนการขนย้ายโดยรัฐบาล ก่อนหน้านี้ กระทรวงอุตสาหกรรม ได้เห็นชอบแผนการขนย้ายกากแคดเมียมที่เสนอโดย บมจ. เบาด์แอนด์บียอนด์ กำหนดให้เริ่มการขนย้ายกากแคดเมียมจาก “โรงงานเจแอนด์บี เมททอล สมุทรสาคร” และโรงงานล้อโลหะไทย กรุงเทพฯ ในช่วงค่ำของวันจันทร์ที่ 29 เม.ย.67
ตามแนวทางและวิธีการที่คณะกรรมการอำนวยการ และคณะทำงานขนย้ายกากแคดเมียมและกากสังกะสีกำหนด โดย นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ติดตามการเดินทางและตรวจสอบกระบวนการขนย้าย ณ บริษัท เจแอนด์บี เมททอล ด้วยตนเอง
พาหนะในการขนย้ายจะใช้แบบผสมผสาน ประกอบด้วย รถเทรเลอร์ท้ายเรียบพร้อมวัสดุปิดปกคลุมกากแร่ กับรถ 10 ล้อพ่วงล้อมคอก โดยรถ 1 คัน จะบรรจุกากแร่แคดเมียมในถุง Double Bag จำนวน 20 ถุง หรือประมาณ 30 ตัน มีระบบ GPS ติดตามและบันทึกข้อมูลตลอดการเดินทาง พร้อมมีตำรวจนำขบวนทั้งขาไป – ขากลับ และมีแผนรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินกรณีเกิดอุบัติเหตุ สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ทำการขนย้าย
ในรายงานแผนขนย้าที่ออกโดยรัฐบาลยังระบุด้วยว่า ทุกขั้นตอนจะสวมชุดป้องกันการสัมผัสกับกากแคดเมียม โดยที่ บริษัทเจแอนด์บี สมุทรสาคร จะเริ่มขนย้ายกากแคดเมียมเที่ยวแรกด้วยรถเทรลเลอร์ท้ายเรียบ จำนวน 4 คัน สามารถขนย้ายได้จำนวน 80 ถุง น้ำหนักรวม 120 ตัน
และบริษัท ล้อโลหะไทย กรุงเทพ จะใช้รถ 10 ล้อพ่วงล้อมคอก จำนวน 6 คัน สามารถขนย้ายได้จำนวน 100 ถุง น้ำหนักรวม 150 ตัน ซึ่งก่อนออกเดินทางรถทุกคันจะมีการตรวจสอบความปลอดภัย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการรั่วไหลฟุ้งกระจายของกากแคดเมียม หลังจากนั้น จะเริ่มทยอยขนที่เหลืออีกประมาณ 12,800 ตัน จากสมุทรสาคร และชลบุรีทุกวัน จนถึงวันที่ 17 มิถุนายน 2567 (รวมระยะเวลาขนย้ายประมาณ 36 วัน) ซึ่งกากแคดเมียมทั้งหมดจะถูกนำไปพักไว้ที่โรงพักคอยของ บมจ. เบาด์แอนด์บียอนด์ จังหวัดตาก เพื่อรอการซ่อมแซมปรับปรุงโรงเก็บแร่ ไม่ให้มีน้ำเข้ามาได้ โดยทำการปูวัสดุรองพื้นป้องกันการรั่วซึมบ่อฝังกลบ หมายเลข 5 ให้เสร็จเรียบร้อย แล้วจึงนำกากทั้งหมดมาฝังกลบ และทำการปิดบ่อดังกล่าวภายในวันที่ 30 กันยายน 2567
ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม ย้ำว่า การขนย้ายต้องปลอดภัยได้มาตรฐานตลอดเส้นทาง (ที่มา : กรมประชาสัมพันธ์).
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เสี่ยเจษ เจ้าของโรงงานกากแคดเมียม เข้าให้ปากคำ รับมีคนจีนรอซื้อที่ลาว
- ชัชชาติ ยังไม่พบน้ำ-ดิน ปนเปื้อนสารแคดเมียม ไม่กระจายทางอากาศ
- สก.ก้าวไกล รับเป็นญาติเจ้าของโรงงานซุกแคดเมียม ยันไม่เกี่ยวข้องธุรกิจ