เศรษฐา เคารพการตัดสินใจ ปานปรีย์ เผยสัมพันธ์ส่วนตัวรู้จักกันมานานกว่า 10 ปี ชี้การปรับเปลี่ยนหน้าที่ในตำแหน่งรัฐมนตรีย่อมมีคนที่พอใจและไม่พอใจ
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล วันนี้ (29 เม.ย.67) ถึงกรณี นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หลังจากถูกปรับออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี โดยนายเศรษฐา กล่าวว่า ส่วนตัวเคารพการตัดสินใจของนายปานปรีย์
นายกรัฐมนตรียังบอกด้วยว่า ตนกับนายปานปรีย์รู้จักกันมาเป็น 10 ปี “เป็นเพื่อนกัน” ส่วนตัวรักชอบกันดี แต่การปรับเปลี่ยนหน้าที่ในตำแหน่งรัฐมนตรีย่อมมีคนที่พอใจและไม่พอใจ มีคนสมหวังและไม่สมหวัง ตนอยากให้โฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ที่ดี 7-8 เดือนที่ผ่านมา นายปานปรีย์มาแล้วเป็นประโยชน์กับประเทศชาติ คิดว่ารัฐมนตรีคนใหม่ที่จะมารับหน้าที่แทนก็จะสานต่อ
นอกจากนี้ เศรษฐา ทวีสิน ยังอ้างอีกว่าได้ส่งข้อความส่วนตัวไปหานายปานปรีย์ในกลุ่มบัญชีโซเชียลที่เกี่ยวกับต่างประเทศ หลังจากถูกผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็นก่อนที่จะปรับ ครม. ส่วนตัวของนายกฯ ได้มีการพูดคุยหรือแจ้งกับนายปานปรีย์ ก่อนหรือไม่ และหลังที่นายปานปรีย์ลาออกได้มีการพูดคุยกันแล้วหรือไม่ ?
ประเด็นนี้อ้างอิงจากรายงานของเดลินิวส์ ระบุ นายเศรษฐยืนยันว่าได้ส่งข้อความไปหานายปานปรีย์ โดยเนื้อหาระบุตามที่ให้สัมภาษณ์วันนี้ (29 เม.ย.) ว่า “ผมขอโทษถ้าผมทำให้พี่ไม่สบายใจเรื่องอะไร และก็ขอขอบคุณที่ช่วยงานกันมา ได้คุยเมื่อวันศุกร์ได้มีการเชิญหลาย ๆ ท่านเข้ามาคุยกัน ท่านปานปรีย์ก็เป็นหนึ่งในที่เรียกมาคุยกัน วันนั้นขอให้เป็นเรื่องของการสนทนากันของคนสองคนแล้วกัน ผมมั่นใจว่าผมพูดอะไรไป ผมในฐานะนายกรัฐมนตรีชัดเจนในเรื่องของการบอกกล่าวใครไป ยืนยันว่ารับผิดชอบ”.
ทั้งนี้ ในส่วนของรายงานข่าวจากเว้บไซต์รัฐบาล ที่เปิดเผยรายละเอียดสัมภาษณ์นายกฯ ที่ตึกไทยคู่ฟ้าวันนี้ (29 เม.ย.67) ด้วยว่า การปรับคณะรัฐมนตรี ได้มีการแจ้งและเชิญรัฐมนตรีมาพูดคุยกัน ซึ่งนายปานปรีย์ ก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่ได้เชิญมาพูดคุยและขอไม่เปิดเผย เพราะเป็นการพูดคุยกันระหว่างบุคคลสองคน ตนเองมั่นใจว่า ได้พูดสิ่งไหนไปและตนเองในฐานะนายกรัฐมนตรีก็มีความชัดเจนในเรื่องที่บอกกล่าวสิ่งไหนไป
หลังจากนี้จะนำรายชื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ก็จะทำหน้าที่ดูแลกระทรวงการต่างประเทศก่อน ตามการมอบหมายงานของคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ ยอมรับว่ามีบุคคลใหม่ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้ทาบทาม เพราะต้องมีการตรวจสอบจากคณะกรรมการคัดกรองเกี่ยวกับเรื่องคุณสมบัติ จึงไม่อยากบอกออกไปก่อน เพราะอาจจะสมหวังหรือผิดหวังได้ ทั้งนี้ ต้องเคารพในกระบวนการขั้นตอนต่าง ๆ ที่มีมา และยืนยันว่าตนเองเข้าใจว่ารัฐมนตรีหลายคนที่สมหวัง และอาจจะไม่พอใจ แต่ยืนยันว่าตนเองรับผิดชอบในเรื่องนี้ และก็ต้องมีการพูดคุยกัน
ส่วนจะเป็นคนนอกพรรคหรือคนในพรรคที่จะมาแทนตำแหน่งนั้น นายกฯ ระบุว่า พูดลำบาก แต่บุคคลนี้อยู่ในแวดวงการทูตและการเมืองมาก่อน โดยอยู่เบื้องหลังการทำงานของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด และจิตวิญญาณยึดโยงพี่น้องประชาชน ส่วนกรณีที่นายปานปรีย์ ระบุเหตุผลลาออกว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จำเป็นต้องควบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีด้วยนั้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็มีเหตุมีผล แต่หลายหน่วยงานก็ต้องมีการประสานการทำงานร่วมกัน ซึ่งปัจจุบันก็มีรองนายกรัฐมนตรี 6 คนแล้ว และเชื่อว่าก็เพียงพอ หากทุกกระทรวงต้องควบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีก็คงเป็นไปไม่ได้ ตนเองไม่อยากมานั่งอธิบายอะไรมาก เพราะบางรัฐบาลก็ไม่มีรองนายกรัฐมนตรีควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แต่ตนเองจะอำนวยความสะดวกในการช่วยเหลือผลักดันงานต่าง ๆ ที่ต้องประสานข้ามกระทรวง และทุกคนก็ทำงานเป็นทีมได้
ดังนั้นการควบรองนายกรัฐมนตรีจึงอาจไม่จำเป็น แต่ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละบุคคล ซึ่งรัฐบาลนี้ก็มีวิถีการทำงานที่แตกต่างกันไป แต่ขอให้ยึดโยงเป็นมิตร และมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ย้ำหากทำผิดหรือทำสิ่งใดไม่พอใจ ได้ขอโทษไปแล้ว อาจเป็นเรื่องของความเห็นต่าง แต่ทั้งหมดนี้ตนเองก็รับผิดชอบ และจะดำเนินงานต่อไปด้วยจุดมุ่งหมายคือเอาประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ประวัติ ปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตรองนายกฯ กล้าหัก เศรษฐา ลาออกทุกตำแหน่ง
- ชลน่าน ปลิว รายชื่อคณะรัฐมนตรีเศรษฐา 1/1 โปรดเกล้าฯ แล้ว ออก 4 เข้าใหม่ 6
- เศรษฐา-ภูมิธรรม ร่วมทานมื้อเที่ยง ทักษิณ ท่ามกลางกระแสปรับ ครม.
