ข่าว

เดือด 3 ทนาย ซัดข้อกฎหมาย ‘ธรรมราช’ อ้างปกป้องศาสนา แทงสวนให้มีหน้ามีตาในสังคม

เดือด 3 ทนาย โต้ ธรรมราช อ้างตัวปกป้องพุทธศาสนา หลังได้แต่งตั้งรับผิดชอบคดีน้องไนซ์ เตรียมฟ้องหมิ่นทนายไพศาล ทนายแก้ว ทนายเกิดผล ปมน้ำผึ้งหยดเดียวโพสต์ถามเชิงเหยียดเพศสภาพ แพรรี่ ไพรวัลย์

กลายเป็นปัญหาน้ำผึ้งหยดเดียว จากกรณีที่ ทนายธรรมราช ทนายความที่ได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามาดูแลด้านกฎหมายให้กับ อาจารย์น้องไนซ์ โพสต์ข้อความพาดพิงถึง แพรรี่ ไพรวัลย์ ในหลายโพสต์ ต่างกรรมต่างวาระ โดยเฉพาะประเด็นเขียนข้อความพาดพิง “มหาเปรียญ 9 เขาไม่ได้สอน ให้สึกออกมาใส่วิกแต่งหญิง”

Advertisements

ต่อมาดราม่านี้ลากยาว เมื่อฝ่ายทนายธรรมราชออกมาท้าดีเบตกับ 3 ทนายความชื่อดัง ไล่ตั้งแต่ ทนายเกิดผล แก้วเกิด , ทนายแก้ว ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล และ ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ โดยเคสของ “ทนายเกิดผล” คู่กรณีเคยออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กยืนยันเตรียมจะฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ที่มากล่าวหาทนายธรรมราชว่า ชอบบูลลี่เพศสภาพคนอื่น

ธรรมราช อ้างว่าการกระทำดังกล่าวของทนายเกิดผล เป็นการใส่ความตนต่อบุคคลที่สามด้วยการโฆษณาทำให้ได้รับความเสียหาย​ ยืนยันให้ไปเจอกันที่ชั้นศาล

ล่าสุดในรายการ เคลียร์ ชัด ชัด ได้เชิญทนายทั้ง 3 ราย พร้อมกับต่อสายหา “ทนายธรรมราช” เพื่อเคลียร์ประเด็นที่เตรียมจะฟ้องร้องเอาผิดของทั้ง 2 ฝ่าย โดยเริ่มมา อั๋น ภูวนาท ในฐานะผู้ดำเนินรายการได้ยิงคำถามไปที่นักกฎหมายทั้งสามคนว่า ได้ไปพาดพิงอะไรถึงอีกฝ่ายก่อน รวมถึงปัญหาเริ่มต้นจากอะไร

ทนายแก้ว กล่าวว่า กรณีที่ตนโพสต์เป็นการตักเตือนพฤติกรรมของทนายความบางท่าน ที่มีการโพสต์ข้อความไม่เหมาะสม เนื่องจากกฎหมายของสภาทนายความมีกฎที่เรียกว่าข้อบังคับของสภาฯ วางกรอบไว้ถึงกรณีการประพฤติตน ต้องอยู่ในหลักศักดิ์ศรี ไม่ทำตนในทางเสื่อมเสีย

Advertisements

กรณีนี้ ทนายแก้วจึงมองว่าเป็นเรื่องปกติที่มีการโพสต์เตือนกันได้ปกติ ส่วนทนายธรรมราชอยากจะรับก็รับ

รายการเคลียร์ชัดชัดชัด โฟนอินทนายธรรมราช
ภาพ FB. @clearshudshud

ขณะที่ ทนายธรรมราช ชี้แจงเรื่องที่บูลลี่ “แพรรี่” เรื่องเพศสภาพ เจ้าตัวยืนกรานผ่านปลายสายโดยปฏิเสธว่าไม่ได้บูลลี่ที่แปลว่าระรานคู่กรณีแต่อย่างใด ขณะที่เมื่อถูกถามกรณีแพรรี่บวชเรียนได้เปรียญ 9 ประโยค แล้วสึกออกมาแต่งหญิง ทางทนายธรรมราชคิดว่าเป็นสิ่งที่ผิดหรือถูก ?

แขกรับเชิญปลายก็ตอบโดยอ้าง “การบวช” คือ เพื่อขัดเกลากิเลส คนที่ขัดเกลากิเลสมา 18 ปี ถามว่าออกมาแล้วแต่งตัวอย่างนี้ คนจะมองพุทธศาสนายังไง !

ด้าน อาจารย์จตุรงค์ จงอาษา โต้แย้งข้อมูลของคู่กรณี ยืนยันว่าขาดความรู้เรื่องศาสนาอีกมาก เพราะหากศึกษานักธรรมโทสักหน่อยก็จะทราบว่า “พระอรหันต์บางประเภท” มีภาวะ LGBTQ สูงมาก ตัวอย่าง “พระวักกลิ” ที่หลงในกายพระพุทธเจ้า จนพระพุทธเจ้าต้องไล่ออกจากสำนัก แต่สุดท้ายกลับตัวกลับใจเป็นพระอรหันต์ในที่สุด

“คุณยังไม่รู้เลยว่ามีบทบาทในศาสนาเราอยู่แค่ไหน เป็นถึงพระอรหันต์ตั้ง 2-3 รูป คุณยังไม่รู้เลย แล้วมานั่งเหยียดเพศสภาพเขา” อ.จตุรงค์ กล่าว ก่อนที่จากนั้นจะเสริมอีกว่า วันที่แพรรี่บวชนั้น 8-9 ขวบ เขาไม่รู้หรอกตัวตนเขาเป็นอะไร วันหนึ่งบวชไป 18 ปี เขารู้ตัวว่าเขาเป็นเขาก็สึก ซึ่งก็ทำถูกต้องแล้ว เพราะการเป็นตัวของตัวเองแบบนี้ย่อมดีกว่าเป็นตอนที่อยู่ในคราบผ้าเหลือง

จตุรงค์ จงอาษา สัมภาษณ์กรณีธรรมราชคดีน้องไนซ์ แพรรี่
อ. จุตรงค์ (แฟ้มภาพ Facebook @jongarsaj)

ตัดภาพกลับมาที่ธรรมราช เมื่อถูกจี้ประเด็นที่กำลังเปิดศึกรอบด่านแบบนี้ ต้องการพิสูจน์อะไร ? เจ้าตัวก็โร่อธิบายที่ในรายการสัญญาณมักขาดหายบ่อยครั้งว่า ตนเป็นทนายความที่ได้รับแต่งตั้ง ต้องการพิสูจน์ความจริงที่มีการนำเสนอข่าวบางมุม บางประเด็น เช่น กล่าวหาน้องไนซ์ว่าอ้างตนเป็นพระพุทธเจ้ามาเกิด ประเด็นนี้ทำให้สังคมโจมตี รวมถึงการตัดต่อภาพด้วย

“คุณอั๋น ผมคุยกับพ่อแม่ของน้องไนซ์แล้วว่า วันนี้คือจะไม่คุยถึงเรื่องน้องไนซ์ ไปว่ากันในชั้นศาล วันนี้ตอนคุยกันว่าด้วยเรื่องผมกับทนายเกิดผล แล้วเรื่องอื่น ในเรื่องของน้องไนซ์ถ้าท่านพูด ..พูดไป เดี๋ยวไปว่ากันในชั้นศาล” ทนายธรรมราช ระบุ ก่อนจะย้ำที่ตนออกมาเคลื่อนไหวไม่ใช่เพราะ “หิวแสง” แต่เพราะได้รับแต่งตั้งในฐานะทนายความถูกต้องตามกฎหมาย

ทนายธรรมราช โพสต์ท้าดีเบต 3 ทนาย
ภาพ FB. @ทนายธรรมราช The Lawyer of legality.
ทนายไพศาล เดือดธนายธรรมราช
ภาพ FB. @clearshudshud

ทนายแก้ว เผยเตรียมส่งเรื่องให้สภาทนายความ คาดใช้เวลา 1-2 สัปดาห์ ทราบผล

ช่วงท้ายมีการถาม ทนายแก้ว ดร.มนต์ชัย กรณีเดินหน้าเกี่ยวกับสภาทนายความซึ่งแขกรับเชิญก็ได้ระบุ หลังจากได้พูดคุยกับผู้ใหญ่ในคณะกรรมการสภาทนายความ ถึงพฤติกรรมของทนายความต้องเป็นไปตาม “บุคคลที่มีศีลธรรม” ไม่ไปละเมิดสิทธิคนอื่น

ทนายแก้ว เผยตอนนี้อยู่ในขั้นตอนระหว่างคุยกับ “คุณแพรรี่” เพื่อที่จะนัดหมายเตรียมเอกสารไปจนหนังสือมอบอำนาจอะไรก็ตาม เพื่อไปร้องกับสภาทนายฯ ในกรณีของธรรมราชที่อ้างว่าเป็นการแสดงคำถาม ส่วนจะผิดหรือไม่ผิด ? ก็ถือเป็นการพิจารณาของคณะกรรมการฯ ที่จะตัดสิน และน่าจะใช้เวลา 1-2 สัปดาห์

ขณะที่ ทนายเกิดผล แก้วกำเนิด ยืนยันในรายการกรณีที่อีกฝ่ายจะฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท ตนไม่กังวลใด ๆ อยากจะฟ้องก็ฟ้องได้เลย ต่างคนต่างใช้สิทธิ

“จริง ๆ ทนายที่มาร่วมรายการทั้ง 3 ท่าน ไม่มีใครอยากเสียเวลาคุยกับธรรมราชหรอก ผมว่าโตกว่านี้คงจะคุยกันได้รู้เรื่องกว่านี้ ครับ” ทนายเกิดผล ทิ้งท้าย.

ขอบคุณคลิป : Youtube : @shinachannel

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button