ครอบครัวร้องสื่อ หลานสาวอายุ 14 ถูกครูข่มขืน ให้เงิน 5,000 ปิดปากเด็ก
ครอบครัวร้องสื่อ หลานสาวถูกครูข่มขืน ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ก่อนให้เงิน 5,000 บาทเพื่อปิดปากเด็ก เด็กเล่ากลัวถูกป้าตีเลยเพิ่งเล่า
ผู้สื่อข่าวได้รับร้องเรียนจากนางฉวีทอง อายุ 46 ปี และนางสมพร อายุ 42 ปี ชาว ต.ผักไหม อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นญาติของเด็กหญิงเอ (นามสมุติ) อายุ 14 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ศีขรภูมิ หลังจากที่เหยื่อ ถูกครูผู้ชายคนหนึ่งเรียกเข้าไปหลังห้อง บังคับถอดกางเกงและลงมือข่มขืน ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2566 แต่ผู้ปกครองเพิ่งทราบเรื่อง หลังจากที่เด็กบอกเป็นครั้งแรก
หลังจากที่ถูกข่มขืนทางโรงเรียนและทางคณะกรรมการสถานศึกษาตลอดจนผู้ใหญ่บ้านต่างปิดปากกันเงียบกริบ พร้อมกับนำเงินให้กับเด็กจำนวน 5 พันบาทเพื่อปิดปากไม่ให้ไปบอกใครจนกระทั่งป้าทราบข่าว ซึ่งทางครอบครัวระบุว่า หากไม่มีความคืบหน้า จะพาหลานสาวไปร้องกับ ผอ.เขตการศึกษาที่รับผิดชอบให้ดำเนินการต่อไป
นาง ฉวีทอง กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองเป็นป้าของเด็กหญิงคนดังกล่าว หลังจากที่แม่ของเด็กได้เสียชีวิตลง พ่อก็หนีไปมีภรรยาใหม่ปล่อยให้ตนดูแลและได้ส่งเรียน กศน.ภายในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลผักไหม จริงๆแล้ว ตนเองไม่ทราบมาก่อนเรื่องของเด็ก เพราะไม่ค่อยได้คุยกัน เมื่อเดือนสิงหาคม 2566 หลานของตนเองได้ไปช่วยงานผ้าป่าโรงเรียนของคนในหมู่บ้าน ในระหว่างที่นำเครื่องเสียงมาช่วยงานได้มีครูคนหนึ่งเรียกให้หลานเข้าไปหลังห้องเรียนและได้ข่มขู่ให้ถอดกางเกงออก จนกระทั่งได้ลงมือข่มขืน ซึ่งเรื่องทั้งหมดหลานเป็นคนพูดให้ฟัง ต่อมามีผู้นำหมู่บ้านและกรรมการสถานศึกษาได้เข้ามาพูดคุยกันต่อรองขอร้องไม่ให้เรื่องดังกล่าวบานปลายและไม่ให้ถึงตัวเอง จึงได้นำเงินให้จำนวน 5 พันบาท ซึ่งตนเองก็ได้ยินก็ไม่พอใจ ทำไมเป็นถึงผู้หลักผู้ใหญ่ ถึงนำเงินมาจ่ายให้เพียง 5 พัน ในขณะที่ตนเองไม่ทราบเรื่องดังกล่าวมาก่อนเลย
หลังจากนั้น ตนเองได้มาสอบถามเด็กก็ให้การว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ซึ่งหลังเกิดเหตุหลานก็ไม่กล้ามาบอกกับป้า กลัวป้าจะด่าและตี จนกระทั่งเรื่องแดงมาแบบนี้ ตนเองจึงไม่ยอม โดยได้พาหลานมาแจ้งความไว้ที่ สภ.ศีขรภูมิ พร้อมกับจะได้พาเด็กไปร้องกับ ผอ.เขตสำนักงานประถมศึกษาเขต 1 ในวันที่ 9 เม.ย.67 ที่จะถึงนี้ เพราะตนเองคิดว่าเรื่องดังกล่าว มันไม่ให้ความเป็นธรรมกับเด็กเลย อีกอย่างเราเป็นถึงผู้ปกครองของเด็กก็น่าจะเรียกไปพูดคุย แต่กลับให้มันบานปลายอย่างนี้ ค่าของคนมีเพียง 5 พันบาทเท่านี้หรือ
ขณะที่เด็กหญิงผู้เสียหายเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า สาเหตุที่ตนเพิ่งมาบอกญาติเป็นเพราะว่า กลัวป้าดุด่าและถูกตีตลอดจนอายผู้คนภายในหมู่บ้าน ซึ่งตนเองกำลังศึกษาอยู่และกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง