คอกาแฟดำหลายคนคงเคยงุนงง เมื่อก้าวเข้าร้านกาแฟคาเฟ่อเมซอน แฟรนไชน์ยอดนิยม หวังจะสั่งอเมริกาโน่แก้วโปรดเข้มๆ ให้ตาตื่น แต่กลับพบว่าเมนูนี้ดันหายไปจากป้ายอย่างไร้ร่องรอย
เมื่อสั่งกับพนักงานก็ตอบกลับมาว่า ไม่มีค่ะ มีแต่แบล็กคอฟฟี่ แล้วเกิดอะไรขึ้นกับอเมริกาโน่? ทำไมคาเฟ่อเมซอนถึงไม่ขายชื่อเมนูกาแฟดำคลาสสิกนี้ Thaiger มีสมมุติฐานมาเสนอ
กลยุทธ์ทางการตลาด สร้างความแตกต่าง
หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า คาเฟ่อเมซอนต้องการสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยไม่ต้องแข่งขันกับร้านกาแฟเจ้าอื่นตรงๆ เมนู “อเมริกาโน่” นั้น หาได้ทั่วไป แทบทุกแบรนด์มีขาย คาเฟ่อเมซอนจึงเลือกสร้างเมนู “แบล็คคอฟฟี่” ขึ้นมาแทน ซึ่งมีรสชาติและราคาใกล้เคียงกัน
สำหรับเมนูแบล็กคอฟฟี่เย็น ขายที่ราคา 60 บาท ไลท์คอฟฟี่ฮันนีเย็น 60 บาท เอสเปรสโซเย็น 60 บาท
อ้าว แล้วแบล็กคอฟฟี่ ต่างจากอเมริกาโน่ยังไง
ข้อแตกต่างหลักอยู่ที่วิธีการชงซึ่งส่งผลต่อรสชาติที่ออกมาต่างกัน แบล็กคอฟฟี่ หรือ กาแฟดำ เป็นกาแฟที่ชงโดยใช้น้ำร้อนผ่านผงกาแฟ ดึงรสชาติออกมา (กาแฟดริปก็เป็นซับเซตย่อยในนี้) ส่วนอเมริกาโน่ใช้เอสเปรสโซ่เป็นฐาน เอสเปรสโซ่คือกาแฟเข้มข้นที่ชงด้วยเครื่องชงพิเศษ อเมริกาโน่จะผสมเอสเปรสโซ่กับน้ำร้อน ทำให้กาแฟมีรสชาติเบาลง แต่เข้มข้นกว่ากาแฟดริป
ดังนั้นถ้าใครอยากได้ความเข้มข้นที่มากกว่าแนะนำให้เดินเข้าร้านอเมซอน ขณะที่ใครไม่ใช่สายกาแฟจ๋าๆ ทนกินรสแข็งไม่ไหว ลองหาร้านอื่น ๆ จะได้อเมริกาโน่ที่รสบางกว่า
ดังนั้นการที่คาเฟ่อเมซอนไม่ขายเมนู “อเมริกาโน่” อาจมีหลายสาเหตุ ทั้งกลยุทธ์ทางการตลาด กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ต้นทุน และความคุ้นเคยของลูกค้า แต่ลูกค้าที่ต้องการดื่มอเมริกาโน่ ก็ยังสามารถสั่งได้ โดยแจ้งพนักงาน
ปล. อเมซอนยังพิเศษกว่าร้านอื่นอีกนะ เพราะกาแฟดำสามารถเพิ่มส่วนผสมอื่นได้ด้วยเพื่อนำความหวานตัดข้ม เช่น แบล็กคอฟฟี่น้ำผึ้งมะนาว แบล็คคอฟฟี่น้ำผึ้งเป็นต้น