“ฮเยริ” ขอโทษ ปมโพสต์ดราม่า ถึงแฟนเก่า รยูจุนยอล- ฮันโซฮี
เคลื่อนไหวแล้ว ฮเยริ ออกมาโพสต์ขอโทษ กรณีโพสต์พาดพิงแฟนเก่า รยูจุนยอล และสาวใหม่ ฮันโซฮี ยอมรับใช้อารมณ์มากเกินไป
จากกรณีข่าวดราม่าสะเทือนวงการบันเทิงเกาหลีใต้ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของท็อปสตาร์ ฮเยริ รยูจุนยอล และฮันโซฮี หลังมีข่าวว่าฮันโซฮี กำลังออกเดทกับรยูจุนยอล แฟนเก่าของสาว ฮเยริ ที่เคยคบหากันมานานถึง 7 ปีเต็ม จนนำไปสู่ข้อโต้แย้งเรื่องความเหมาะสม ล่าสุด ฮเยริโพสต์ขอโทษแล้ว
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2567 หลังมีการปล่อยข่าวว่าฮันโซฮีกำลังเดทกับรยูจุนยอลที่ฮาวาย ฮเยริก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความในไอจีว่า “น่าสนใจดีหนิ” ทำให้สาวฮันโซฮีต้องออกมาโต้ตอบ จนกลายเป็นประเด็นร้อน
ล่าสุดในวันที่ 18 มีนาคม 2567 ฮเยริก็ได้ออกมาขอโทษ พร้อมชี้แจ้งเรื่องที่เกิดขึ้น ดังนี้
“สวัสดีค่ะ นี่ฮเยริเองนะคะ
ก่อนอื่น ฉันอยากขอโทษอย่างจริงใจสำหรับการการกระทำที่นำไปสู่ข้อโต้แย้งที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เนื่องจากอารมณ์ส่วนตัวของฉัน ฉันคิดว่าฉันไม่ได้พิจารณาถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ของฉันอย่างถี่ถ้วน ฉันจึงอยากขอโทษอย่างจริงใจต่อใครก็ตามที่ได้รับผลกระทบในแง่ลบเพราะฉัน
เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว มีข่าวว่าความสัมพันธ์แปดปีของฉันสิ้นสุดลง ซึ่งมันไม่ใช่การตัดสินใจในช่วงเวลาสั้น ๆ และแม้ว่าข่าวการเลิกราจะออกมา แต่เราก็ได้พูดคุยกัน (เกี่ยวกับสถานการณ์ของเรา)
อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้ติดต่อหรือพบกันเลยตั้งแต่การสนทนาครั้งนั้น และสี่เดือนต่อมา ฉันคิดว่าอารมณ์ของฉันหลังจากเห็นข่าวต่าง ๆ ไม่ได้ผ่านการพิจารณาในฐานะนักแสดงฮเยริ แต่เป็นแค่ฮเยริคนหนึ่งเท่านั้น ฉันขอโทษอีกครั้งที่ได้ทำร้ายผู้อื่นด้วยอารมณ์ที่หุนหันพลันแล่นของฉัน
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ฉันไม่ได้อธิบายเหตุผลในการกระทำของฉัน เพราะฉันคิดว่าบทสนทนาของเราเป็นเรื่องส่วนตัวมากเกินไป และมันจะมีแต่เพิ่มความเหนื่อยล้าให้กับสาธารณชน และหากสิ่งนี้ทำให้เกิดความสับสนแก่ใครก็ตาม ฉันก็ขออภัยด้วยค่ะ
ต่อไปฉันจะระมัดระวังคำพูดและการกระทำของตัวเองมากขึ้น ขอบคุณค่ะ”
ทั้งนี้ทางด้านของฮันโซฮีเอง ก็ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยเธอยอมรับถึงข้อผิดพลาดของตัวเองและตั้งใจจะขอโทษฮเยริเช่นเดียวกัน โดยในปัจจุบันฮันโซฮีได้ตั้งค่าไอจีเป็นไพรเวทเรียบร้อยแล้ว.
ภาพจาก hyeri_0609
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม