ทลายโกดังทุนจีน ปลอมเครื่องสำอางแบรนด์ดัง 36 รายการ ขายทางออนไลน์
ด่วน! ตำรวจบุกทลายโกดังทุนจีน ปลอมเครื่องสำอาง ขายผ่านแอปพลิเคชั่นออนไลน์ แบรนด์ดังโดนสวมรอยเพียบ มูลค่ารวมกว่า 3 ล้านบาท
วันนี้ (29 ม.ค. 67) ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) และคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้บุกไปยังโกดังเครื่องสำอางและสกินแคร์เถื่อน ซึ่งปลอมแปลงสินค้าแอบอ้างเป็นแบรนด์ดัง วางขายผ่านช่องทางออนไลน์ พบมีสินค้านับหมื่นชิ้น จำนวนกว่า 36 รายการ แถมมีทุนจีนอยู่เบื้องหลัง
จากกรณีที่มีผู้ร้องเรียนไปยังตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เกี่ยวกับสินค้าปลอมที่วางจำหน่ายในแอปพลิเคชั่น TikTok ผ่านร้าน LUNA-TH เนื่องจากมีเจ้าของผลิตภัณฑ์ “ครีมทารักแร้ ยี่ห้อ ELA RAE” สงสัยว่าเนื้อครีมของร้านดังกล่าว มีลักษณะผิดปกติ นำไปสู่การรวบรวมหลักฐานและบุกทลายโกดังทุนจีน
เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าครีมทารักแร้ที่ถูกร้องเรียน เป็นสินค้าลอกเลียนแบบ ทำให้มีลักษณะที่ต่างจากสินค้าจริงหลายประการ เช่น กลิ่น ความเหนียว ความสะอาด และราคาที่ถูกผิดปกติ เป็นต้น
เมื่อทราบว่าสินค้าที่ถูกจำหน่ายเป็นของปลอม เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้สืบหาโกดังจัดเก็บสินค้า พร้อมขอหมายค้นจากศาลอาญามีนบุรี ก่อนจะนำกำลังเข้าบุกค้นโกดังทุนจีนในเขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา
พบมีสินค้าปลอม 16 รายการ ไม่มีการจดแจ้งอีก 20 รายการ รวม 36 รายการ กว่า 14,000 ชิ้น มูลค่า 3 ล้านบาท โดยมีผู้แสดงตนเป็นคนดูแลโกดังชื่อ น.ส.ชไมพร อยู่ในการควบคุมตัวด้วย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบว่า โกดังทุนจีนแห่งนี้ เป็นพื้นที่สำหรับ Fulfillment หรือการเก็บแพ็คและส่งของให้ลูกค้า โดยมีชาวจีนชื่อ Mr. Shanke เป็นเจ้าของโกดัง ซึ่งจะใช้วิธีตามเทรนด์สินค้ายอดนิยมในจีน แล้วจัดหาสินค้ามาแพ็ครอส่งขายให้คนไทย ซึ่งจะใช้โกดังนี้เป็นที่พักของก่อนจัดส่งตามออเดอร์
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบว่า ทุนจีนรายนี้เปิดรายออนไลน์มากถึง 9 ร้าน เพื่อกระจายการโฆษณา และเมื่อมีการสั่งซื้อสินค้าก็จะมอบหมายให้น.ส.ชไมพร เป็นผู้ดูแลออเดอร์ ซึ่งพบมียอดสินค้าต่อวันมากถึง 5,000-10,000 ชิ้น
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ระบุว่า ในส่วนของผลิตภัณฑ์หลายรายการที่ตรวจพบ เช่น ยาสีฟัน Amway Glister, Cerave, ครีมกันแดด Biore, น้ำหอม Victoria, ครีมทามือตราม้า และอื่นๆ อยู่ระหว่างติดต่อให้เจ้าของผลิตภัณฑ์ทำการตรวจสอบเพิ่มเติม
ส่วนตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ตรวจยึด พนักงานสอบสวนจะส่งตรวจพิสูจน์กับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ต่อไป ซึ่งหากพบว่ามีการปลอมแปลงสินค้าจริง ก็จะดำเนินการตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง 2558 ฐาน “ขายเครื่องสำอางที่ไม่ปลอดภัยในการใช้” ต่อไป.