วัยรุ่นต่างถิ่นเปิดศึก รัวยิงในร้านขายใบกระท่อมเจ้าถิ่น เสียงดังสนั่นอำเภอ ผู้ต้องหาปฏิเสธปมขายกระท่อมทับที่ไม่จริง หลังกระสุนโดนหนุ่ม 18 ดับ สาหัสอีก 1
วานนี้ (24 ม.ค.67) เมื่อเวลา 00.04 น. ได้รับแจ้งว่ามีวัยรุ่นใช้อาวุธปืนยิงกัน เหตุเกิดที่บริเวณหน้าร้านมือถือ ถนนไชยวาน-ศรีธาตุ หมู่ 12 ต.ไชยวาน อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไชยวาน ไปถึงสถานที่เกิดเหตุ พบผู้ถูกยิงเป็นชาย อายุ 18 ปี ต่อมาทราบชื่อ นายประทับทอง ขันธวิชัย ถูกยิงเข้าที่บริเวณชายโครงด้านขวา และต่อมาได้เสียชีวิต
ผู้บาดเจ็บอีกราย นายอัครชัย ศรีลาวงษ์ อายุ 22 ปี เพื่อนของผู้ตาย ถูกกระสุนเจาะเข้าที่บริเวณขาซ้ายท่อนล่าง ได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
จากการสอบสวนทราบว่า ในวันเกิดเหตุที่อำเภอไชยวาน กลุ่มวัยรุ่น 2 หมู่บ้านยกพวกมาทะเลาะวิวาทกัน เรื่องเปิดขายน้ำกระท่อมในถิ่นตัวเอง มีการถือมีด ถือไม้ตะโกนท้าทายกันกลางถนน ก่อนมีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด
ต่อมาเมื่อตรวจสอบหลักฐานจากกล้องวงจรปิด จึงสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้จำนวน 6 คน จาก 7 คน ยังเหลืออีก 1 คน ที่หลบหนีไป
ล่าสุด อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ข่าว อมรินทร์ทีวี นายสมควร สุวรรณจักร หรือ “แครอท” อายุ 27 ปี หนึ่งในผู้ก่อเหตุ ยอมรับว่าเป็นคนเปิดฉากยิงจริง โดยใช้อาวุธ 2 กระบอก รอบแรกยิงด้วยปืนลูกซอง 3 นัด รอบที่ 2 ยิงด้วยปืน .22 หมดแม็ก โดยปืนทั้ง 2 กระบอกซื้อต่อมาจากคนในหมู่บ้านราคา 10,000 บาท
ส่วนสาเหตุทั้งหมดเพราะกลุ่มผู้ตายที่มีกันอยู่ประมาณ 20 คน มาหาเรื่องก่อน ตะโกนถามว่า “เฮ้ย พวกมึงมากันเยอะหรอ” ทั้ง ๆ ที่พวกผู้กอ่เหตุมากันแค่ประมาณ 10 คน
จากนั้น ผู้ต้องหาอ้างว่า กลุ่มผู้ตายกระโดดเข้ามาทำร้าย ตัวเองจึงตัดสินใจเลยชักปืนออกมารัวยิง โดยอ้างว่าทำไปเพราะป้องกันตัว
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้ต้องหารายนี้ยอมรับว่าเสียใจ แต่ไม่ได้ตั้งใจยิงให้ตาย แค่ยิงไปเพราะป้องกัน และอยากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตกับผู้บาดเจ็บ ส่วนกับครอบครัวตัวเอง ก็รู้สึกเสียใจ เพราะตนมีลูก 4 คน ไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้มีโอกาสออกมาเจอหน้าลูกอีกไหม สงสารลูก หลังจากนี้คงต้องฝากเมียเลี้ยงไปก่อน เพราะตัวเองก็ต้องรับผิดชอบตามกฏหมาย
เบื้องต้นจากการสอบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงอีก 1 คนคือ “นายไกรวิทย์ โกมลพันธุ์“ หรือ ”นายเก่ง“ อายุ 18 ปี และยังมีอีก 1 คนซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างหลบหนี ชื่อ ”นายวิทยา อินทร์ชมชื่น“ อายุ 30 ปี โดยทั้งหมดถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และ ข้อหาเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน.
