เด็ก 14 เจ็บอัณฑะ พบกลายเป็นสีดำ หมอต้องตัดทิ้งเพราะสาเหตุนี้
ช็อก! หนุ่มวัย 14 ปี เจ็บอัณฑะจนทรมาน ผ่านไป 3 วัน กลายเป็นสีดำ ทนไม่ไหวต้องไปหาหมอ ก่อนถูกวินิจฉัยว่าต้องตัดทิ้ง
สำนักข่าวต่างประเทศ Ettoday ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวของ เด็กหนุ่มวัย 14 ปีรายหนึ่ง ที่พบว่าตัวเองมีอาการปวดบวมบริเวณลูกอัณฑะซ้ายขึ้นมาแบบไม่มีสาเหตุ แต่เขาพยายามข่มความเจ็บปวดเอาไว้ และทนทรมานนานถึง 3 วันเต็ม
ต่อมาพ่อได้ตัดสินใจพาเด็กไปพบแพทย์ หลังลูกเผยว่าอัณฑะของตัวเองกลายเป็นสีดำ ด้านแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะอย่าง ดร. ฮวง (Huang Weilun) ถึงกับตกตะลึง เมื่อถอดกางเกงเด็กหนุ่มออกมา เพราะอัณฑะของเด็กบวมและแข็ง ทั้งยังเป็นสีดำจนน่ากลัว
แพทย์เผยว่าสาเหตุที่ทำให้อัณฑะของเด็กหนุ่มอยู่ในสภาพนี้ เกิดจากการบิดตัวของสายอสุจิ ทำให้เลือดไม่ไหลเวียน ซึ่งเปรียบเทียบให้เห็นภาพได้ง่าย ๆ เช่น การนำยางมารัดนิ้วทิ้งไว้ โดยจะเห็นได้ว่าผลลัพธ์คือนิ้วบวม แข็ง และค่อย ๆ เปลี่ยนสีไปเนื่องจากไม่มีเลือดไหลเวียนนั่นเอง
สำหรับหนทางรักษา แพทย์เผยว่าเด็กหนุ่มคนนี้จำเป็นจะต้องได้รับการผ่าตัด เพื่อเอาอัณฑะออกจากร่างกาย เนื่องจากเนื้อเยื่อตายจากการถูกปล่อยทิ้งไว้นานเกินไป
ดร.ฮวง อธิบายว่า เด็กหนุ่มถูกตัดอัณฑะข้างซ้ายออก ส่วนอัณฑะด้านขวาถูกเย็บเก็บไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการบิดตัวในอนาคต ซึ่งในปัจจุบันเด็กหนุ่มฟื้นตัวได้ดีและไม่มีภาวะแทรกซ้อนแต่อย่างใด
สำหรับอัณฑะข้าวขวาที่เหลืออยู่ แพทย์เผยว่ามันจะทำหน้าที่ในการผลิตอสุจิได้ตามปกติ ทว่าแพทย์ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า การมีอัณฑะข้างเดียวจะส่งผลต่อการเจริญพันธุ์ของเด็กหรือไม่.