ข่าวกีฬาทีมชาติไทยฟุตบอลไทย

ประวัติ มาซาทาดะ อิชิอิ โค้ชฟุตบอลทีมชาติไทยคนใหม่ ผลงานทำสโมสรสุดโหด

ทำความรู้จัก มาซาทาดะ อิชิอิ หลังมีข่าวเตรียมเป็นโค้ชฟุตบอลทีมชาติไทยคนใหม่ จากอดีตนักเตะตำนานลีกญี่ปุ่น สู่เส้นทางการเป็นยอดโค้ชฟุตบอลในแดนสยาม

ควันหลงหลังจากศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กลุ่ม C นัดที่ 2 ที่ทีมชาติไทยบุกไปเอาชนะทีมชาติสิงคโปร์ได้ถึงถิ่น 3-1 เก็บ 3 แต้มแรกได้สำเร็จ แต่แฟนบอลหลายคนจับสังเกตบรรยากาศที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก แถมมาโน โพลกิ้ง เฮดโค้ชทัพช้างศึกยังหลั่งน้ำตาหลังจบเกม โดยล่าสุด Mainichi สื่อจากญี่ปุ่น ได้รายงานว่า มาซาทาดะ อิชิอิ จะถูกแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย โดยจะประกาศอย่างเป็นทางการภายในอีก 1-2 วัน

Advertisements

ต่อมามีข่าวทางการยืนยันแล้วว่า มาโน่ โพลกิ้ง แยกทางกับทีมชาติไทยเซ่นผลงานไม่ดี และสมาคมฟุตบอลได้ประกาศแต่งตั้ง มาซาทาดะ อิชิอิ ขึ้นมาแทนอย่างเป็นทางการ

วันนี้ Thaiger จะขอพาทุกคนไปทำความรู้จักอดีตโค้ชบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดจากแดนปลาดิบคนนี้กัน

เปิดประวัติ มาซาทาดะ อิชิอิ ว่าที่เฮดโค้ชทีมชาติไทย
ภาพจาก : J.League เจลีก ลีกฟุตบอลอาชีพแห่งประเทศญี่ปุ่น

เปิดประวัติ มาซาทาดะ อิชิอิ ว่าที่เฮดโค้ชทีมชาติไทย

มาซาตาดะ อิชิอิ เกิดเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2510 ที่เมืองอิจิฮาระ จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยจุนเต็นโด หลังจากเรียนจบ อิชิอิ จึงได้เข้าร่วมทีมเอ็นทีที คันโต แห่งเจแปนซอกเกอร์ลีก (เจลีก ในปัจจุบัน) โดยอยู่กับทีม 2 ปี ได้รับโอกาสลงเล่นถึง 43 นัด ต่อมาจึงได้ย้ายซบซูมิโตโมะ เมทัล (คาชิม่า แอนท์เลอร์สในปัจจุบัน) ในปี 2534

เขาได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่องกับต้นสังกัดใหม่ ในปี 2536 อิชิอิ โชว์ผลงานอันสุดยอดด้วยการพาทีมจบอันดับ 2 ของเจลีก พร้อมทั้งคว้าแชมป์ฟุตบอลเอ็มเพอเรอร์ คัพ เขาลงเล่นให้กับคาชิม่า แอนท์เลอร์สเป็นเวลา 7 ปี ลงสนามไป 109 นัด ซัดไป 3 ประตู ในช่วงท้ายของการค้าแข้ง เขาได้ย้ายสู่อวิสปา ฟูกูโอกะในปี 2541 พร้อมแขวนสตั๊ดหลังจากจบฤดูกาลด้วยวัยเพียง 31 ปี

จากอดีตนักเตะ สู่การกลับมาเป็นกุนซือทีมเก่าสมัยค้าแข้ง
ภาพจาก : KICKOFF

จากอดีตนักเตะ สู่การกลับมาเป็นโค้ชทีมเก่าสมัยค้าแข้ง

หลังจากแขวนสตั๊ด อิชิอิเคยหันหลังให้วงการฟุตบอลด้วยการไปเป็นพนักงานศูนย์อาหาร ก่อนจะกลับมาเดินทางในสายโค้ชกายภาพของคาชิม่า แอนท์เลอร์ส อดีตต้นสังกัดสมัยตอนยังเป็นผู้เล่นในปี 2545 เขาได้ทำงานตำแหน่งนี้เป็นเวลาถึง 10 ปีเต็ม ก่อนที่เขาจะได้รับโอกาสในการเป็นผู้ช่วยเฮดโค้ชในปี 2555 และในปี 2558 โตนีนโย เซเรโซ ถูกปลดจากตำแหน่ง อิชิอิ จึงได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีมชาวญี่ปุ่นคนแรกของสโมสรในรอบ 21 ปี

Advertisements

ผลงานในการคุมทีมของ อิชิอิ เรียกได้ว่าไม่ธรรมดา เขาพาทีมเข้าชิงเจลีกคัพในปี 2558 และพาทีมคว้าแชมป์เจลีกอย่างยิ่งใหญ่ในปี 2559 พร้อมได้รับสิทธิ์ในการเข้าแข่งขัน FIFA Club World Cup 2016 โดยทัวร์นาเมนต์นั้นเขาทำทีมเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ได้ปะทะแข้งกับทีมระดับโลกอย่าง เรอัล มาดริด แถมยังสู้ได้อย่างสนุกสูสี จบเวลา 90 นาที เสมอ 2-2 แต่สุดท้ายก็ต้านไม่ไหว พ่ายแพ้ทีมราชันชุดขาวในช่วงต่อเวลาพิเศษ 4-2 หลังจากนั้นผลงานทีมภายใต้การคุมบังเหียนของเขาก็ย่ำแย่ลง ทำให้เขาถูกปลดออกจากตำแหน่งในปี 2560

แต่เขาก็ว่างงานไม่นาน ในเดือนพฤศจิกายน 2560 อิชิอิ ได้เข้ารับตำแหน่งกุนซือของโอมิยะ อาร์ดีจา (เอ็นทีที คันโต ในอดีต) ทีมที่เขาเริ่มต้นอาชีพฟุตบอล แต่ผลงานไม่สู้ดีนัก อิชิอิ ทำทีมตกชั้นไปยังเจลีก 2 แต่ก็ยังได้รับโอกาสต่อในปี 2561 สุดท้ายเขาทำทีมจบอันดับที่ 5 หมดสิทธิ์เลื่อนชั้น ทำให้เขาลาออกจากตำแหน่งหลังจบฤดูกาล

การผจญภัยครั้งใหม่ในดินแดนขวานทอง
ภาพจาก : Samutprakan City

การผจญภัยครั้งใหม่กับสมุทรปราการ ซิตี้

อิชิอิ ได้ออกเดินทางเพื่อค้นหาเส้นทางใหม่ในการเป็นกุนซือ ด้วยการข้ามน้ำข้ามทะเลมาที่ประเทศไทย เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2562 สมุทรปราการ ซิตี้ ทีมจากไทยลีกในสมัยนั้น (ปัจจุบันอยู่ในไทยลีก 2) แถลงข่าวเปิดตัว มาซาทาดะ อิชิอิ อดีตกุนซือระดับแชมป์เจลีก ในตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีม ท่ามกลางความงุนงงของแฟนบอลที่เขาเลือกมาคุมทีมระดับกลางตาราง

ด้วยมันสมองของเขา ทำให้ทัพเขี้ยวสมุทร ทะยานขึ้นไปจบอันดับ 6 ของไทยลีกฤดูกาล 2562 อีกทั้งยังปั้นบรรดานักเตะภายใต้สังกัดตน ส่งติดทีมชาติไทยหลายคน อาทิ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์, ธีระพล เยาะเย้ย, ปฏิวัติ คำไหม และคนอื่น ๆ ที่เขาได้ปลุกปั้นขึ้นมา ไทยลีกฤดูกาลต่อมา 2563-64 สมุทรปราการ ซิตี้ประสบปัญหาด้านการเงิน ทำให้ต้องขายตัวหลักออกไปเกือบหมดทีม ทำให้ อิชิอิ ต้องดันเยาวชนของทีมจำนวนมากขึ้นชุดใหญ่เพื่อสู้ศึกไทยลีก

แน่นอนว่าด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ทำให้สมุทรปราการ ซิตี้ จบที่อันดับ 13 ในเลกแรก และในวันที่ 1 ธันวาคม 2564 ต้นสังกัดประกาศแยกทางกับ อิชิอิ ด้วยความยินยอมของทั้งสองฝ่าย ฝากผลงาน 1 ฤดูกาลครึ่ง ด้วยผลงานคุมทีม 50 นัด ชนะ 21 เสมอ 10 แพ้ 19

สถานีต่อไป เฮดโค้ช บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ภาพจาก : BURIRAM UNITED

สถานีต่อไป เฮดโค้ช บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ยอดโค้ชอย่าง อิชิอิ ตกงานได้ไม่นาน วันที่ 1 ธันวาคม 2566 เขาได้เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และประเดิมคุมทีมนัดแรกในการแข่งขันรีโว่ ลีกคัพ 2564-65 รอบ 32 ทีม และเขาก็ได้สำแดงเดชด้วยการพาทัพเซาะกราวคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ในประเทศ (ไทยลีก, เอฟเอคัพ และลีกคัพ) อีกทั้งฤดูกาลต่อมา 2565-2566 เขาก็ช่วยทีมป้องกัน 3 แชมป์ได้สำเร็จ

ต่อมาทางบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดได้ดึงตัว อาเธอร์ ปาปาส เข้าสู่ทีมในตำแหน่งผู้อำนวยการเทคนิคกีฬา และจุดนี้เองเริ่มทำให้ อิชิอิ ถูกลดบทบาทในการสั่งการข้างสนามอย่างชัดเจน ในวันที่ 13 สิงหาคม 2566 เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ประกาศส่ง อิชิอิ ไปทำหน้าที่ประธานพัฒนาเทคนิคฟุตบอลของทีมชาติไทย ตามคำขอของ มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ พร้อมยังทำตำแหน่งเฮดโค้ชของบุรีรัมย์ฯ ต่อไป

จากการทำงานที่ต่างคนต่างทำ ระหว่าง มาโน โพลกิ้ง กุนซือทีมชาติไทย และ มาซาทาดะ อิชิอิ ประธานพัฒนาเทคนิค ในที่สุดเขาจึงขอลาออกจากตำแหน่งดังกล่าวในทีมชาติไทย รวมถึงตำแหน่งเฮดโค้ชของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นอันสิ้นสุดการทำงานกับทั้ง 2 ตำแหน่งของเขา

อ้างอิงจาก วิกิพิเดีย, Main Stand

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Best Writer

นักเขียนบทความประจำ Thaiger จบการศึกษาจากคณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาภาษาไทย มีความเชียวชาญด้านวงการเพลงไทย ภาพยนตร์ อนิเมะ ชื่นชมติดตามข่าวสารสังคม กีฬา เทคโนโลยี แตกประเด็น สรุปเรื่องราวมาร้อยเรียงผ่านข้อความสู่สายตาผู้อ่าน ช่องทางติดต่อ best.t@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button