ข่าวข่าวการเมือง

ศิริกัญญา ถามจีดีพีไตรมาส 3 โต 1.5% วิกฤตหรือยัง ? เศรษฐา รีทวีต

ศิริกัญญา กางข้อมูลตัวเลขสภาพัฒน์ จีดีพีไตรมาส 3 ปีนี้ เติบโต 1.5 เปอร์เซนต์ สรุปปัญหาอยู่ที่ส่งออก การลงทุนของรัฐที่หดตัวลง ภาคเอกชนโตน้อย ไม่ใช่วิกฤตเศรษฐกิจอย่างที่รัฐบาลประโคมข่าว

วันที่ 20 พ.ย.2566 ศิริกัญญา ตันสกุล หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล แสดงความเห็นซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากข้อถกเถียงของโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่ต้องออกพ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ด้วยเหตุผลวิกฤตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย

ไหม ศิริกัญญา ออกมาเขียนความเห็นของเธอล่าสุดผ่านบัญชีเอ็กซ์ (X.) @SirikanyaTansa1 โดยเริ่มจากจั่วหัวด้วยการตั้งคำถามว่า “GDP ไตรมาส 3 โต 1.5% วิกฤตรึยัง ?” จากนั้นร่ายยาวต่อเรื่องของตัวเลขเศรษฐกิจของไทยแท้จริงแล้ว วิกฤตหรือไม่ อย่างไร พร้อมกับนำตัวเลขข้อมูลสถิติผลิตภัณฑ์มวลรวมจาก สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ “สภาพัฒน์” มาประกอบ

“คงต้องย้ำอีกครั้งว่า เราจะไม่ต้องมาเถียงเรื่องวิกฤตหรือไม่วิกฤต กันเลย ถ้ารัฐบาลไม่เลือกใช้วิธีการออก พ.ร.บ. กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อมาทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เพราะการที่จะออก พ.ร.บ. เงินกู้ได้นั้น รัฐบาลจำเป็นต้องพิสูจน์ให้ได้โดยชัดเจนว่า ตอนนี้มีความจำเป็น เร่งด่วน เพื่อแก้วิกฤตอย่างต่อเนื่อง และตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีไม่ทัน จริงหรือไม่”

“ไม่มีใครเถียงว่าเศรษฐกิจไทยแย่ เศรษฐกิจไทยโตช้า และโตต่ำกว่าที่คาด ดิฉันเองก็เห็นด้วยและพูดเรื่องนี้มาโดยตลอด แต่คำถามที่คาใจใครหลาย ๆ คนในตอนนี้คือ สรุปแล้วเศรษฐกิจไทย “วิกฤต” รึยัง ?

“วันนี้มีตัวเลขออกมาจากสภาพัฒน์ฯ ว่า GDP ไทยในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ โตขึ้น 1.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน ต้องอธิบายก่อนว่า ตัวเลข GDP นั้น วัดได้จากทั้งฝั่งรายจ่าย (expenditure) และฝั่งการผลิต (production) ซึ่งตัวเลขรวมจะต้องตรงกัน”

“ฝั่งการผลิตอธิบายได้อย่างตรงไปตรงมา ก็คือภาคอุตสาหกรรม (เป็น sector ที่ใหญ่ที่สุด) เกิดหดตัวลง -4% เลยดึงใน GDP ของไทยโตต่ำ ที่ติดลบหนักที่สุดคืออุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก โดยเฉพาะ Hard Disk Drive และชิ้นส่วนแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนภาคบริการขยายตัวได้ดีมากในด้านที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว-โรงแรมและร้านอาหาร โตขึ้นถึง 14.9% การค้าปลีกและค้าส่งขยายตัว 3.3% ขนส่งโต 6.8%”

“ส่วนฝั่งรายจ่ายที่เราคุ้นเคย คำนวณได้ตามสูตร C+I+G+X-M (การบริโภคภาคเอกชน + การลงทุนภาคเอกชน + การใช้จ่ายภาครัฐ + การส่งออก – การนำเข้า) จากตัวเลขวันนี้ เราจะเห็นว่าตัวเลขภาคเอกชนโตขึ้นถึง 8.1% การลงทุนภาคเอกชนโต 3.1% แต่ stock สินค้าก็ลดลงมาก แสดงว่ายังไม่ได้มีการผลิตเพิ่ม ซึ่งสอดคล้องกับฝั่งการผลิตที่ภาคอุตสาหกรรมหดตัว ภาครัฐหดตัวลงทั้งการบริโภค -4.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน (จากการที่ปีก่อนมีการเบิกค่ารักษาโควิด แต่ปีนี้ไม่มี จึงหดตัว) การลงทุนภาครัฐก็หดตัว -2.6% และถึงแม้การส่งออกสินค้าจะหดตัวตามคาดที่ -3.1% แต่การส่งออกภาคบริการกลับโตถึง 23% ส่วนการนำเข้าก็หดตัวแรงที่ -10.2%”

จุดยืนศิริกัญญา โครงการเงินดิจิทัล
แฟ้มภาพ Facebook @MoveForwardPartyThailand

สรุปก็คือ ปัญหาของเศรษฐกิจไทยเป็นเรื่องของการส่งออกที่หดตัวตามเศรษฐกิจโลก การลงทุนของรัฐที่หดตัวลง และการลงทุนภาคเอกชนที่ถึงแม้จะโตขึ้น แต่ก็ถือว่าโตน้อยเมื่อเทียบกับการเติบโตของปีก่อน ไม่ใช่ “วิกฤตเศรษฐกิจ” อย่างที่รัฐบาลพยายามประโคมข่าว (ซึ่งก็แปลกดี เพราะไม่เคยเห็นรัฐบาลของประเทศไหนอยากจะให้เกิดวิกฤตขึ้นในประเทศ หรือมีท่าทีดีใจที่เห็น GDP โตต่ำ)

คำถามคือ เมื่อรัฐบาลมองเห็นปัญหาของเศรษฐกิจไทยผ่าน data เหล่านี้แล้ว รัฐบาลจะยังคงฝืนกระตุ้นภาคการบริโภคผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ตอยู่หรือไม่ ทั้ง ๆ ที่ก็เห็นกันอยู่ว่าภาคการบริโภค โตกว่า 8%.

ต่อมาหลังจากทวิตของศิรกัญญาเผยแพร่ไม่นาน บัญชีเอ็กซ์ของ เศรษฐา ทวีสิน ก็มีการเคลื่อนไหว โดยเป็นการตอบกลับความเห็นของผู้ใช้บัญชีท่านหนึ่งซึ่งได้ลงคลิปวันที่ ไหม ศิริกัญญา มาออกรายการกรรมกรข่าว คุยนอกจอ กับสรุยทธ สุทัศนะจินดา และนายแพทย์ สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ

ข่าวเศรษฐา
ภาพ X. @Thavisin

โดยนายกฯ ได้เขียนข้อความแสดงความเห็นสั้น ๆ ว่า “1.5% Q3, ในขณะที่ประเทศคู่แข่งในอาเซี่ยนโตอย่างต่ำ 2 เท่าของเรา….วิกฤตครับ”.

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button