ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นักการเมืองอดีตเจ้าพ่ออ่างทองคำ ร่ายยาวถึง ทักษิณ ชินวัตร ชี้ไม่ควรติดคุก 1 ปี ส่วนคดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ ย้ำหัวใจสำคัญนอนซังเต คือ จำกัดอิสรภาพ
วานนี้ (9 ก.ย.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทยและอดีตนักธุรกิจคนดัง ออกมาเขียนเนื้อหาโดยเป็นการวิเคารพห์ภายหลังที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ถูกศาลฎีกาฯ ตัดสินจำคุก 1 ปี และส่งตัวเข้าเรือนจำราชทัณฑ์ทันทีนั้น
ชูวิทย์ เริ่มจากจั่วหัวถึงเสรีภาพที่ยิ่งใหญ่ก่อนจะลงรายละเอียดที่ศาลฎีกาตัดสินให้ทักษิณกลับไปติดคุก 1 ปี “โดยไม่ถือว่า ระยะเวลาที่เคยอยู่ ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เป็นระยะเวลาในการคุมขัง“
นายชูวิทย์อ้างว่า คนที่เคยติดคุกอย่างตัวเองแม้ไม่เห็นด้วย แต่ย่อมต้องเชื่อฟัง เพราะเป็นศาลฎีกา ถึงแม้จะอยู่สุขสบายแค่ไหน คุกก็คือคุก จะได้กินหูฉลาม ได้นอนฟูก แต่อีกฝ่ายย้ำว่ามันก็คือคุกอยู่ดี !
“หัวใจสำคัญที่สุดของการติดคุก คือ การจำกัดเสรีภาพอันเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ของมนุษย์ทุกคน การที่คุณทักษิณอยู่โรงพยาบาลตำรวจมา 6 เดือน จึงถือว่า ไร้อิสรภาพ เพราะไม่สามารถไปไหนได้ เมื่อศาลไม่นับให้กลายเป็นติดคุกฟรี !“
”อย่างผมถูกควบคุมตัวที่โรงพัก 3 วัน ราชทัณฑ์ยังนับเป็นวันคุมขัง นำไปตัดจำนวนวันต้องโทษลงได้”
“อันนี้ผมพูดตามความรู้สึกของคนคุกนะครับ ความยุติธรรมที่ต้องวัดกันด้วย เสรีภาพ คนไม่เคยติดอาจบอกว่า ไม่นาน แค่ 1 ปี เอง แต่สำหรับคนที่ติดคุกมาก่อนจะรู้ว่า เวลา 1 วัน ในคุก มันยาวนานกว่านอกคุกมาก เพราะเสรีภาพเขานับกันเป็นรายชั่วโมง”
อดีตเจ้าพ่ออ่างทองคำชี้แจงต่อ โดยเฉพาะคนอย่างอดีตนายกฯ ทักษิณ ที่ปัจจุบันอายุ 76 ปี การกลับมาโดยเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวและยอมเดินไปศาลซึ่งต้องใส่ชุดนักโทษขึ้นรถย้ายเรือนจำ
สำหรับบางคนอาจสะใจ แต่สำหรับนายชูวิทย์แล้ว เจ้าตัวระบุชัดเจนต้องนับถือหัวใจของนายทักษิณ เนื่องด้วยสถานการณ์ที่พลิกผัน พอดิบพอดีกับที่อีกฟากส่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล พรรคภูมิใจไทยขึ้นเป็นนายกฯ สวนทางอดีตนายกฯ ต้องติดคุกแทน
ด้วยเหตุนี้ ชูวิทย์จึงอ้างมุมวิเคราะห์ส่วนตัวชี้ชัดว่า ตนจึงมองสถานการณ์หลังจากนี้ โดยคิดกลับกันกับคนส่วนมากว่านี่อาจเป็นการ “พลิกวิกฤตอย่างแท้จริง“ ของพรรคเพื่อไทย ภายใต้ภาวการณ์ที่แม้แต่พรรคส้มยังป้อแป้กับอุดมการณ์ที่กลับไปกลับมา กับการโหวตที่สุดประหลาด “เป็นฝ่ายค้านที่โหวตให้ไปเป็นรัฐบาลเพื่อยุบสภา“ และพรรคภูมิใจไทยที่ไม่มีอะไรจะขายในททางการเมือง
ดังนั้นการติดคุกของทักษิณ อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการเมืองไทย “คนไทยมีนิสัยอยู่อย่าง ไม่ชอบเห็นคนถูกรังแก”
ความเห็นดังกล่าวของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ สอดคล้องกับไทยพีบีเอส ซึ่งอ้างว่า การกลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของ “ทักษิณ” ผู้นำจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย คดีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานที่ผ่านมานั้น ไม่ใช่จุดอวสานของตระกูลชินวัตร แต่ถือเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อรอเวลากลับมาสู้ใหม่ แบบไร้ข้อครหา โดยมี “เดิมพัน” อยู่ที่การรักษาพรรคฯ ไม่ให้แตก ป้องกันฐานที่มั่นและมวลชนคนเสื้อแดงให้อยู่ต่อ
ข้อมูลจากราชทัณฑ์ระบุว่า อดีตนายกฯ จะต้องถูกกักตัวอยู่ในแดนแรกรับตามระยะเวลากักโรคให้ครบกำหนด จากนั้นเข้าสู่การจำแนกแดนขังว่าจะถูกส่งตัวไปไหน
ส่วนขั้นตอนการให้ออกไปขังสถานที่อื่นที่ไม่ใช่เรือนจำ ตามขั้นตอนยังไม่สามารถพิจารณาได้ เนื่องจากขึ้นอยู่กับการพิจารณาของเรือนจำและคณะกรรมการ ฯ
สำหรับอดีตนายกฯ ทักษิณ ถือเป็นผู้ต้องขังสูงอายุ วัย 76 ปี หากคณะกรรมการพิจารณาและผ่านเกณฑ์ใดเกณฑ์หนึ่ง ในการถูกคุมขังนอกเรือนจำจะต้องมีการเสนอให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นผู้พิจารณาลงนามในคำสั่ง
ทั้งนี้ หากนับโทษตามที่ศาลฎีกากำหนดโทษจำคุก 1 ปี แต่ไม่ได้หมายความว่า ต้องรับโทษจำคุกเป็นเวลา 12 เดือน เนื่องจากการนับวันเวลาตามปีปฏิทินปกตินั้น ระยะเวลา 1 ปี หรือ 12 เดือน จะมีจำนวน 365 วัน หรือ 366 วัน ซึ่งต่างกับการนับวันเวลาตามกฎหมายที่ว่า ความจริงแล้วระยะเวลาต้องโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 21 กำหนดให้ระยะเวลา 1 เดือน เท่ากับ 30 วัน เท่ากับว่า 12 เดือน จะมี 360 วัน เหตุเพราะหากนับตามปฏิทินปกติจะทำให้จำเลยต้องรับโทษเพิ่มขึ้น 5-6 วัน ซึ่งไม่ยุติธรรมกับตัวจำเลย ดังนั้น โทษจำคุก 1 ปี จึงไม่เท่ากับ 12 เดือน
ด้าน ช่อ พรรณิการ์ คณะก้าวหน้า กล่าวถึงประเด็นของนายทักษิณหลังรับฟังคำสั่งศาลด้วยเช่นกัน โดยเธอระบุ ”วางเรื่องการเมืองทั้งหมดไว้ชั่วคราว“
ภาพคุณปิฎก สามีคุณแพทองธาร ถือเสื้อสูทของคุณทักษิณกลับออกมาจากศาลฎีกา พร้อมกับสมาชิกครอบครัวชินวัตร ในขณะที่คุณทักษิณถูกนำตัวไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เป็นภาพที่น่าเศร้าใจอย่างยิ่ง
”ในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ในฐานะผู้ที่ต้องคดีความหลายคดีจากการทำงานการเมืองและถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิตโดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ช่อขอส่งกำลังใจให้กับคุณแพทองธารและครอบครัวค่ะ“
”เชื่อว่าจากนี้ไปพรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าทำงานฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง เพื่อผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนชาวไทย ตามที่คุณแพทองธารได้ให้สัมภาษณ์ไว้ในวันนี้“.
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ชูวิทย์ ถาม อนุทิน ไหนเป็น ครม. เพื่อยุบสภา ใช้ระบบโควต้าหารเก้าอี้รัฐมนตรี
- อนุทิน สงสาร ทักษิณ ติดคุก 1 ปี ระดับท่าน! ไม่ควรลงเอยสภาพนี้
- เปิดชีวิต ทักษิณ ในเรือนจำ รวยหมื่นล้าน ใช้เงินได้หมื่นบาท ต้องปรับตัวอย่างไรตามกฎเหล็กราชทัณฑ์
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
