มาตัง เดอะสตาร์ ไลฟ์สดแฉอดีตคนดูแล หลังพบพฤติกรรมคุกคามพื้นที่ส่วนตัว จนชีวิตไม่มีความสุขและไม่อยากร้องเพลงอีกต่อไป หนักสุดถึงขั้นคิดจบชีวิตตัวเอง จะได้ไม่ต้องเจอกันอีก
กลายเป็นประเด็นที่สังคมยังให้ความสนใจ กรณีของ มาตัง นับดาว หรือ มาตัง เดอสตาร์ 11 ที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้ออกมาเผยปมในใจ หลังตกเป็นเหยื่อจากผู้ใหญ่คนเดียวกันกับ สไมล์ ภาลฎา หรือ สไมล์ เดอะสตาร์ 8 จนกลายเป็นปมในใจของตนเองมานานนับ 8 ปี
ล่าสุด เมื่อวานนี้ (18 กันยายน 2566) มาตัง เดอะสตาร์ ก็ได้ออกมาไลฟ์สดผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว ระบุว่า หลังจบการแข่งขันประกวดร้องเพลงรายการหนึ่ง ตนก็ได้เข้ามาเป็นศิลปินฝึกหัดให้ค่ายเพลงนี้ ตอนนั้นแต่ละคนไม่ได้มีผู้จัดการเป็นของตัวเอง และด้วยความที่ตนเป็นคนต่างจังหวัด จึงมีพี่คนหนึ่งยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ทั้งเรื่องเพลง สคริปต์เพลง และการแต่งตัว โดยที่ไม่หวังค่าตอบแทน ตนจึงไว้ใจเต็มร้อยมาก ๆ
สำหรับเหตุการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยน คือเมื่อตอนที่ตนเรียนอยู่ชั้นม.ปลาย เริ่มมีความรักและพูดคุยกับเพื่อนเพศตรงข้าม ซึ่งปกติถ้าจะทำอะไร ก็จะรายงานพี่เขาทั้งหมดเพื่อความสบายใจในฐานะที่เป็นคนดูแลเรา เมื่ออีกฝ่ายรู้ว่าตนคุยกับผู้ชายอื่น ตอนแรกก็ยอมรับแต่พอเวลาผ่านไปกลับไม่โอเค แต่ต้องบอกก่อนว่าตนกับผู้ชายไม่เคยนัดเจอกันนอกโรงเรียน เจอกันแค่ในโรงเรียน และมีอาจารย์รับรู้
ต่อมา เหตุการณ์เริ่มแย่ลง เมื่อพี่เขาเริ่มคุกคามพื้นที่ส่วนตัว เช็กมือถือว่าแชตอะไรกันบ้าง กระทั่งพี่เขามาหาที่โรงเรียน เรียกตนกับแฟนมาถามว่าจะเลิกกันไหม ก็เลิกกันแต่ก็ยังมีคุย ๆ กันบ้าง พี่เขาก็เลยแอบมาดูที่โรงเรียน ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตนพูดนั้นเกินไปหรือไม่ ตอนนั้นอายุ 15 และรู้สึกแบบนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้รู้สึกจิตตกมาก ๆ ถึงขนาดอยากจบชีวิตตัวเอง พ่อแม่จะได้สบายใจ และจะได้ไม่ต้องเจอพี่เขาอีก
ช่วงม.ปลาย ตนมีซ้อมวอลเล่ย์บอลเสร็จประมาณ 2 ทุ่ม พี่เขาก็เดินบุ่มบ่ามเข้ามาจนเราตกใจ เพื่อเข้ามาชาร์จเรา และทุกครั้งที่อีกฝ่ายมาส่งตนกลับคอนโดฯ ก็จะต้องมีเวลาเคลียร์ใจกัน 1 ชั่วโมง ซึ่งไม่รู้ว่าจะต้องเคลียร์อะไรทุกวัน นอกจากนี้เขายังฟอลโลว์ไอจีเพื่อนของเราทุกคน เพื่อดูว่าอยู่โรงเรียนเราทำอะไรบ้าง
มาตัง เสริมต่ออีกว่า พี่คนนี้เป็นผู้หญิง เขาจะเข้ามาทำความรู้จักเพื่อนของเราทั้งหมด พยายามหว่านล้อมเพื่อน ๆ ด้วยการเสนอบัตรให้ไปเจอดาราในช่องที่เพื่อนชื่นชอบ ตนเก็บเรื่องทั้งหมดมาตั้งแต่ม.4 เพราะพี่เขาเป็นคนมีตำแหน่งใหญ่ในค่ายดังกล่าว ไม่ใช่ดารา เป็นแค่ผู้ใหญ่ในค่าย ซึ่งทุกอีเวนต์จะมีเขาไปอยู่ด้วย
มีอยู่ช่วงหนึ่งเราคบกับผู้ชายอีกคน ตอนที่จะเลิกกันก็มีไปกินข้าว ดูหนัง พี่เขาก็ถามว่าแค่กินข้าวแน่นะ ซึ่งตอนเย็นเขาก็มารอรับพาเรากลับคอนโด พอไปถึงเขาก็จูงมือเราไปที่บันไดหนีไฟ แล้วหยิบมือถือให้เราดูเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะที่เรากำลังซื้อตั๋วและเดินเข้าโรงหนัง คือเขาไปขอภาพจากกล้องวงจรปิดมาเลย เราแทบไม่อยากเชื่อสายตา
ช่วงหนึ่งของการไลฟ์สด มาตัง นับดาว ก็ถึงกลับปล่อยโฮออกมา หลังจากที่เริ่มเปิดใจว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ตนที่ชอบร้องเพลง ไม่อยากร้องเพลง ไม่อยากไปงานอีเวนต์ เฝ้าถามตัวเองทุก ๆ วันว่าเมื่อไหร่กูจะตาย ทุกวันนี้ยังคงคงว่าเวลาไปเดินตลาดนัด พี่เขาจะแอบตามมาดูไหม ระแวงทุกอย่าง ไม่มีความสุขสักวันเดียว ถามว่าเขาทำกับเราเชิงชู้สาวหรือไม่ ไม่ใช่ แต่เขาคุกคามพื้นที่ส่วนตัวเรา มีหลายเหตุการณ์ตั้งแต่ม.4 จนถึง ม.6 มันนานกว่าจะหลุดออกมาจากเขาได้
ซึ่งในช่วงท้ายของการไลฟ์สด มาตังยังเสริมอีกด้วยว่า ก่อนจะออกมาพูด คุณแม่ก็โทร.มาถามว่าจะออกมาพูดจริงหรือ ที่ตนออกมาในครั้งนี้ก็เพื่อยืนยันว่า สิ่งที่พี่สไมล์เจอคือเรื่องจริง เพราะเป็นคนเดียวกันที่ทำกับตน ตามที่พี่สไมล์เล่า เขามาในคราบแม่ ตัวติดกับเรามาก ถามว่าตอนนี้เรายังอยู่ในค่ายหรือไม่ ก็ยังอยู่ และชีวิตเขายังดีสุด ๆ
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงคำบอกเล่าจาก มาตัง เดอะสตาร์ ถึงเหตุการณ์ในอดีตที่เธอต้องใช้ความพยายามและอดทนอย่างมากเพื่อที่จะก้าวผ่านไปให้ได้ หลังจากนี้ต้องมาติดตามกันต่อว่า คู่กรณีที่ถูกเธอพูดถึงนั้นจะออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงในฝั่งของตนเองบ้างหรือไม่ ซึ่งถ้าหากมีความคืบหน้า ทีมงาน Thaiger จะรีบอัปเดตให้ทราบทันที
View this post on Instagram
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-
โผล่อีกราย “มาตัง” เดอะสตาร์ 11 เผยเคยโดนแบบ “สไมล์” เป็นปมในใจ 8 ปี
-
ประวัติ “มาตัง ระดับดาว” เดอะสตาร์ 11 ที่กวาดคะแนนสูงสุดในประวัติศาสตร์
