สุดสลดใจ! นายแพทย์หนุ่มวัยชาวญี่ปุ่น 26 ปี เจองานหนัก ต้องทำโอที 207 ชั่วโมงในเดือนเดียว ทนสภาพการทำงานไม่ไหวจึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย
เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2023 รายงานจากเว็บไซต์สำนักข่าว CNN ระบุเรื่องราวน่าเศร้าสลดใจอย่างยิ่งที่เกิดแก่ครอบครัวของชาวญี่ปุ่นครอบครัวหนึ่ง ซึ่งสมาชิกในครอบครัววัย 26 ปี พ่วงตำแหน่งนายแพทย์ ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองลงหลังจากที่เจอภาระงานอย่างหนักติดต่อกันนานกว่า 1 เดือน
ตามรายงานของสื่อท้องถิ่นประเทศญี่ปุ่น นายแพทย์คนดังกล่าวมีชื่อว่า “ทาคาชิมะ ชิงโงะ” (Takashima Shingo) ทำหน้าที่เป็นแพทย์ประจำบ้านอยู่ที่ศูนย์การแพทย์โกนัน เมืองโกเบ จังหวัดเฮียวงะ ประเทศญี่ปุ่น โดยนายแพทย์ทาคาชิมะได้ตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเอง หลังจากที่ต้องเผชิญกับการทำงานล่วงเวลา (OT) กว่า 207 ชั่วโมง ในระยะเวลาเพียง 1 เดือน และไม่มีวันหยุดพักผ่อนเลย 3 เดือน
ด้านครอบครัวของนายแพทย์ทาคาชิมะเปิดข้อมูลว่า ทาคาชิมะ ชิงโงะ เริ่มทำงานที่ศูนย์การแพทย์โกนันเมื่อช่วงเดือนเมษายน 2020 หลังจากนั้นผ่านไป 2 ปี ทาคาชิมะก็ได้รับเลือกให้เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในแผนกระบบทางเดินอาหาร โดยเขาต้องตรวจรักษาผู้ป่วยและทำการฝึกอบรมโดยไม่ได้หยุดพักเลย กระทั่งในวันที่ 17 พฤษภาคม 2022 หลังจากกลับมาถึงบ้าน ทาคาชิมะก็ตัดสินใจฆ่าตัวตายในที่สุด
นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยอีกด้วยว่า ทาคาชิมะมีอาการซึมเศร้าหลังจากที่ทำงาน ณ ศูนย์การแพทย์โกนันมาสักระยะหนึ่งแล้ว แถมก่อนหน้าที่ปลิดชีวิตตัวเอง ทาคาชิมะยังเคยพูดกับครอบครัวตัวเองบ่อย ๆ อีกด้วยว่าภาระงานของเขาหนักเกินไป เหตุนี้จึงทำให้ครอบครัวปักใจเชื่อว่าสภาพแวดล้อมในที่ทำงานเป็นเหตุให้ทาคาชิมะต้องฆ่าตัวตาย
แม่ของทาคาชิมะกล่าวว่า “ลูกชายของฉันจะไม่ได้เป็นคุณหมอใจดี และไม่ได้รักษาคนไข้หรอืช่วยเหลือสังคมได้อีกต่อไปแล้ว ทั้งนี้ก็หวังว่าระบบงานการแพทย์ในอนาคตจะมีการปรับปรุงไม่ให้หมอทุกคนต้องทำงานหนักเหมือนลูกชายของฉัน และต้องมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก”
นอกจากนี้ทางด้านพี่ชายของทาคาชิมะยังเผยความรู้สึกด้วยว่า การทำงานล่วงเวลาของน้องชายกว่า 207 ชั่วโมง ในระยะเวลา 1 เดือนนั้น เป็นตัวเลขที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ อีกทั้งเขายังให้ความเห็นว่าทางศูนย์การแพทย์ฯ ไม่น่าจะมีระบบการจัดการเรื่องแรงงานอย่างชัดเจนมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว ทางด้านศูนย์แพทย์ฯ ที่ทาคาชิมะเคยทำงานอยู่ ก็ได้ออกมาตอบโต้กลับว่า “มีหลายครั้งที่แพทย์ใช้เวลาศึกษาด้วยตัวเอง และพักผ่อนตามความต้องการทางสรีรวิทยา” นอกจากนี้โฆษกอีกคนหนึ่งยังกล่าวเสริมว่า “การทำงานของแพทย์มีอิสระสูง จึงทำให้ไม่สามารถกำหนดเวลาทำงานที่ชัดเจนได้”
มีรายงานหลายฉบับบ่งชี้ว่าอาชีพแพทย์ในประเทศญี่ปุ่นนั้นต้องเจอกับสภาวะการทำงานหนักสูงมาก โดยฌแพาะชั่วโมงการทำงานล่วงเวลาที่มีจำนวนตัวเลขสูงเกินกว่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งแม้ว่าการปฏิรูปกฎหมายแรงงานปี 2018 จะทำให้ชั่วโมงการทำงานลดลงก็จริง แต่ก็ลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนชั่วโมงการทำงานล่วงเวลาก็ยังผันผวนอยู่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
