‘เรืองไกร’ ร้อง กกต. ต่อ จี้เอาผิด ‘พิธา’ ปมขายที่ดินมีพิรุธ
เรืองไกร ยื่นหนังสือร้อง กกต. จี้เอาผิด พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ปมขายที่ดินมีพิรุธ ตรวจสอบแตกต่างจากข้อมูลการโอนหุ้นไอทีวีหรือไม่
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ตามที่สำนักข่าวอิศรา ได้ลงข่าวเกี่ยวกับที่ดิน กับ หุ้นบริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน) ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล โดยตลอดนั้น ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริงตามมาอย่างต่อเนื่อง แต่ข้อเท็จจริงที่สำนักข่าวนำมาลงข่าว มีความแตกต่างกันระหว่างการโอนที่ดิน และการโอนหุ้น จนเป็นเหตุที่ต้องนำข้อเท็จจริงดังกล่าวขอให้ กกต. ตรวจสอบต่อไป ด้วยเหตุนี้ จึงได้ส่งหนังสือไปถึง กกต.ทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อมูลการขายที่ดินของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มีความแตกต่างจากข้อมูลการโอนหุ้นไอทีวีหรือไม่ อย่างไร ดังนี้
1.ปรากฏข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการที่ดินของนายพิธา ซึ่งสำนักข่าวดังกล่าวนำมาเปิดเผยนั้น ปรากฏว่ามีข้อมูลที่มีเหตุอันควรสงสัยหลายที่ แต่ไม่มีพิธีกรข่าว นักเล่าข่าว หรือผู้ที่แสดงความเห็นและอารมณ์เพื่อชี้นำสังคมเกินไปจากข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายอีกหลายๆคนที่เคยจับผิดข้อมูลบันทึกการประชุมกับคลิปเสียงออกมาตั้งข้อสังเกตแต่อย่างใด ดังนั้น เพื่อให้มีการตรวจสอบเปรียบเทียบข้อมูลการขายที่ดินกับข้อมูลการโอนหุ้นไอทีวี ซึ่งข้อมูลของสำนักข่าวอิศรานำมาลงอย่างต่อเนื่อง น่าจะเป็นประโยชน์ในการส่งให้ศาลรัฐธรรม นูญต่อไป
“ขอให้ กกต. ตรวจสอบข้อมูลการขายที่ดินของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ โฉนดที่ 13543 เลขที่ดิน 501 หน้าสำรวจ 1516 ต. วังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรี ขันธ์ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2566 ดังนี้ ทำไมในหลังโฉนดที่ดิน รายการจดทะเบียนเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2560 ระบุว่า ประเภทการจดทะเบียน คือ ผู้จัดการมรดก (ตามคำสั่งศาลแพ่งกรุงเทพใต้ คดีหมายเลขแดงที่ 1860/2550 ลว. 16 มีนาคม 50) ผู้ให้สัญญา คือ นายพงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์(ตาย) ผู้รับสัญญา คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (ผู้จัดการมรดก นายพงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์)
นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า ทำไมในหลังโฉนดที่ดิน รายการจดทะเบียนเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2560 ลำดับต่อมา ระบุว่า ประเภทการจดทะเบียน คือ โอนมรดก ผู้ให้สัญญา คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (ผู้จัดการมรดก นายพงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์) ผู้รับสัญญา คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ทำไมบันทึกถ้อยคำการชำระภาษีอากร เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2566 ระบุในข้อ 1. ว่า ข้าพเจ้าผู้โอนได้อสังหาริมทรัพย์นี้ มาโดย (1) การรับโอนมรดกเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2549 ทำไมหนังสือสัญญาขายที่ดิน เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2566 ข้อ 4. ระบุว่า ผู้ขายได้ที่ดินมาโดย การรับโอนมรดก เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 2549 ไม่ค้างชำระภาษีบำรุงท้องที่
นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า ข้อ 2. ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการที่ดินของนายพิธา ข้างต้น ทำไมจึงแตกต่างจากข้อเท็จจริงการเป็นผู้ถือหุ้น ไอทีวี ตามแบบ บมจ.006 ตามรายงานการประชุมผู้ถือหุ้น ตั้งแต่ปี 2551 ถึงปี 2566 ซึ่งมีการระบุชื่อผู้ถือหุ้นคือ นายพิธา โดยไม่มีการระบุวงเล็บท้ายชื่อว่า “(ผู้จัดการมรดก นายพงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์)” ไว้แต่อย่างใด รายละเอียดปรากฏตามที่สำนักข่าวอิศรา หัวข้อ ดูชัด ๆ หุ้น ITV ‘พิธา’ 42,000 หุ้น ปี 2551-2566 ไม่ระบุ ‘ผจก.กองมรดก’ ได้มานำลงข่าวไว้แล้ว ทั้งนี้ ต่อมา เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 นายพิธา ได้โอนหุ้นออกไปแล้ว
ข้อ 3. ข้อสังเกต การระบุในบันทึกถ้อยคำการชำระภาษีอากร เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2566 ข้อ 1. ว่า ข้าพเจ้าผู้โอนได้อสังหาริมทรัพย์นี้ มาโดย (1) การรับโอนมรดกเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2549 และการระบุในหนังสือสัญญาขายที่ดิน เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2566 ข้อ 4. ระบุว่าผู้ขายได้ที่ดินมาโดยการรับโอนมรดก เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2549 นั้นถูกต้องหรือไม่ เนื่องจากเป็นวันที่ 18 กันยายน 2549 เป็นวันที่นายพงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์ ตาย และเป็นวันก่อนที่ศาลแพ่งจะมีคำสั่งตั้งผู้จัดการมรดก เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2550 และในวันที่ 18 กันยายน 2549 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย ดังนั้น รายการจดทะเบียนที่ดินดังกล่าว แตกต่างจากทะเบียนผู้ถือหุ้น บมจ.006 หรือไม่ อย่างไร