ช้ำใจเมียหลวง หนิง ปณิตา ตอบข่าวลือสามี จิน จรินทร์ เตรียมหาทนายให้มือที่ 3 สู้คดีกับเมีย เรื่องหย่า ขอเคลียร์กับลูกก่อน
วันที่ 4 กรกฎาคม 2566 ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง หนิง ปณิตา พร้อมทนาย พิทักษ์ สุขสมวงศ์ เปิดใจกับสื่อมวลชน หลังมาตามศาลนัดไกล่เกลี่ยครั้งที่ 2 ในคดีฟ้องละเมิดเรียกค่าเสียหายจากบุคคลที่ 3 แต่ด้านคู่กรณีไม่ได้เดินทางมาตามนัดหมายเป็นครั้งที่ 2 เพียงส่งทนายส่วนตัวมาเท่านั้น ซึ่งทางศาลจะมีนัดสืบพยานอีกครั้งในวันที่ 4 ตุลาคม นี้
โดย ทนายพิทักษ์ สุขสมวงศ์ ทนายความของ หนิง ปณิตา เผยว่า “วันนี้คู่กรณีไม่ได้มา คู่กรณีเลื่อนไปเหมือนเดิม คือไม่ประสงค์มา ศาลท่านก็เลยนัดให้สืบพยานไปเลยวันที่ 4 ต.ค. เขาขอเป็นวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ แต่ศาลท่านบอกไม่อนุญาต ท่านบอกไม่มีเหตุผล ท่านต้องการให้เข้ามาคุยกัน”
หนิงยังยืนกรานความต้องการเดิมไหม ?
“จริง ๆ ณ วันนี้คือคนเรามันจะมีธงอยู่แล้ว เรามีธงที่เราจะฟ้องร้องค่าเสียหาย ทั้งหมดเท่าไหร่ แต่พอเวลามันผ่านไป เราก็คุยกับพี่ๆ เขาก็บอกว่าจบ ๆ มันไปเถอะ แต่ทุกครั้งที่มันจะจบ ๆ ไป มันก็จะมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เรารู้สึกว่ากลับมาธงเดิมก็แล้วกัน ก็แบบนั้นค่ะ มันเป็นอย่างนี้มาไม่รู้กี่รอบแล้ว พอจะจบ ๆ ให้ ก็กลับมาธงเดิมแล้วกัน”
แสดงว่ามีประเด็นใหม่เกิดขึ้นหรือเปล่า ?
“ในประเด็นว่ามันมีเรื่องราวอะไร หนิงขอว่าหนิงไม่ไปลงรายละเอียดแล้วกัน เอาเป็นว่าหนิงก็ยังเป็นธงเดิมของหนิงอยู่ อย่างวันนี้ถ้าเขาไม่มา เขาก็คงมอบหมายบางอย่างให้ทนายมาเจรจา ซึ่งสิ่งที่เจรจาถ้าทุกคนรู้ก็คงรู้สึกว่า หือ หนิงเองนั่งอยู่ก็ หือ แล้วหนิงก็กลับไปที่ธงเดิมของหนิง”
ทนายฝั่งเขาว่ายังไงบ้าง ?
“ก็สงสารทนายเขาเหมือนกันค่ะ ทนายเขาก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน เขาก็เข้าใจความรู้สึกของเราทุกอย่าง แต่อยู่ในหมวกของทนายเขา เขาก็พยายามที่จะเจรจาให้มาพูดคุย ซึ่งหนิงก็บอกว่าหนิงรอได้ถึงเย็นนะ”
แสดงว่าข้อเสนอของเขาไม่โอเคใช่มั้ย ?
“หนิงขออนุญาตไม่ไปลงถึงรายละเอียดแล้วกัน แต่ในส่วนของหนิงก็คงยังอยู่ในธงเดิม ซึ่งมันก็เป็นธงที่สมเหตุสมผลกับสิ่งที่เขาเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หนิงต้องสูญเสีย ครอบครัวค่ะ”
แสดงว่าอีกฝ่ายหนึ่งไม่มีความรู้สึกอยากจะขอโทษกับเราเลยใช่ไหม ?
“จำกรณีน้องน้ำหวานได้ไหมคะ ที่เป็นข่าวเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ตอนนี้หนิงกับน้ำหวานกลายเป็นเพื่อนกันไปแล้ว และวันที่หนิงจะชนะทุกอย่างแล้วด้วย ดันเป็นวันที่หนิงยกทุกอย่างให้ เพราะนั่นคือสิ่งที่น้องน้ำหวานทำให้หนิงเห็นว่าเขาน่ารัก จริงใจ ทุกวันนี้เขาก็ยังเป็นน้องสาวที่ดีของหนิงคนนึง คือคนเราทุกคนมันผิดพลาดกันได้ หนิงเองก็ไม่ใช่คนที่ไม่เคยผิด ทุกคนผิดพลาดกันได้หมด แต่เมื่อผิดพลาดแล้วและเราอยากจะแก้ไข เราต้องแก้ไขสิ่งเหล่านี้ด้วยความจริงใจและยอมรับความผิดจริง ๆ ไม่ใช่พยายามที่จะโทษว่าเป็นเพราะอย่างโน้นอย่างนี้ เพราะถ้ามันมีความคิดแบบนี้แล้ว เรื่องราวมันก็ไม่มีวันจบ แล้วมันยิ่งทำให้ฝ่ายตรงข้ามรู้สึกเจ็บปวด”
วันที่ 4 ตุลาคม ต้องทำอะไรบ้าง ?
“วันที่ 4 หนิงมาสืบพยานในตอนเช้า ทางคู่กรณีสืบพยานในตอนบ่ายค่ะ”
เรามั่นใจในพยานหลักฐานทุกอย่างของเราใช่ไหม ?
“แน่น (ยิ้ม) ใช้คำว่ายิ่งกว่ามั่นใจดีกว่าค่ะ ถ้าหนิงตัดสินใจว่าหนิงจะฟ้องแล้ว หนิงก็ต้องมั่นใจว่าสิ่งที่หนิงมีอยู่ในมือ มันเป็นสิ่งที่มีประโยชน์กับหนิง และที่สำคัญคือกฎหมายมันก็ชัด ๆ อยู่แล้ว และทนายหนิงก็เก่งมากด้วย”
เหมือนก่อนหน้านี้เขาก็ฝากทาง ธัญญ่ามา เรารับรู้แล้วรู้สึกยังไงบ้าง ?
“อันนี้ขอแก้ข่าวแทนพี่ญ่าด้วยนะ มันก็มีบางกระแสไปโจมตีพี่ญ่าว่ามาเป็นคนกลางทำไม ทั้ง ๆ ที่พี่ธัญญ่าก็อยู่ในเวย์เดียวกับหนิง ทำไมถึงไม่เข้าข้างหนิง คือหนิงจะบอกว่าพี่ญ่าเป็นกำลังใจและซัพพอร์ตให้หนิงเสมอ ๆ ตลอด พี่ญ่าแค่นำสิ่งที่เขาต้องการขอร้องมาบอก ทั้งหมดทั้งมวลมันจะเป็นยังไง มันก็อยู่แค่การตัดสินใจของหนิงและพี่ญ่าก็จะพูดกับหนิงว่า พี่แค่บอกสุดท้ายเราก็ดูกันไป พี่ก็ต้องดู หนิงเองก็ต้องดูว่าเจตนาเป็นยังไง
เพราะเอาจริง ๆ ถ้าเป็นตัวพี่ก็ไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ เพราะพี่ก็โดนมากับตัว แต่พอตอนนี้พวกเราไม่ได้อยู่ในเวย์ที่เป็นเด็ก เราจะฟาดฟันเอาชนะอย่างเดียว เราก็โตขึ้นแล้ว ถ้าคนที่ทำผิดแล้วพร้อมที่จะรับผิดอย่างจริงใจ แล้วพยายามที่จะแก้ไข ถ้าเราจะไม่เปิดโอกาสให้เลย เราก็จะดูเป็นคนอยากจะเอาแต่ชนะอย่างเดียว วันนี้เราเป็นแม่ของลูก จะสอนลูกให้ได้ดีเราก็ต้องพยายามที่จะแก้ไขตัวเราให้ดีในหลาย ๆ เรื่อง ซึ่งเราก็ไม่ได้เป็นคนดี แต่มันคือเราพยายามจะเรียนรู้และทำให้มันดีที่สุดเท่าที่จะดีได้”
การที่เขาอยากขอโทษ เรารู้สึกว่าเพียงพอไหม ?
“อย่างที่หนิงบอกว่าคำขอโทษเพียงพอไหม มันไม่เพียงพอหรอกค่ะ แต่ถ้ามันเป็นการขอโทษและการที่พยายามทุกอย่าง อย่างจริงใจที่หนิงสัมผัสได้ว่ามันไม่แอบแฝงอะไรเลย ยกตัวอย่างง่าย ๆ จากคดีเก่า วันนี้หนิงบอกว่าเขาเป็นน้องที่หนิงรักคนนึง อันนั้นอ่ะเพียงพอ แต่กว่าจะไปถึงจุดนั้นได้ก่อนอื่นเลย ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงคุณต้องสำนึกในความผิดของคุณก่อน
ถ้าตราบใดที่คุณไม่สำนึกในความผิดของคุณสิ่งเหล่านี้มันก็จะไม่เกิดขึ้น มันก็จะยืดเยื้อกันต่อไป เพราะว่าหนิงเองจะไม่คุยแล้ว ทุกอย่างมันทำลายความรู้สึกหนิง ฉะนั้นถ้าทุกอย่างมันทำร้ายความรู้สึกหนิงก็ให้กฎหมายเป็นตัวจัดการ แล้วหนิงก็จะได้ถอยออกมาอีกสเต็ปนึง ไปสร้างพลังงานดี ๆ ที่จะต้องทำอะไรดี ๆ ดีกว่า”
ทาง “จิน” เป็นคนหาทนายให้ทางนั้น ?
“จริง ๆ คำถามนี้ควรไปถามพี่จิน เพราะถ้าเป็นคำถามมาจากหนิง แล้วหนิงเป็นคนตอบ ก็จะบอกว่าแล้วเธอมีหลักฐานอะไร แล้วถ้าหนิงบอกว่ามีพยานบุคคลล่ะ เขาก็จะบอกว่าบุคคลนั้นโกหก ไปถามคุณจินแล้วกันค่ะ แต่ก็เป็นสิ่งที่ทำให้หนิงเจ็บปวดมากที่สุดค่ะ”
ก่อนหน้านี้มีภาพครอบครัวออกมา ?
“ทุกคนก็จะรู้ดีอยู่แล้วว่าในส่วนประเด็นของครอบครัว หนิงพยายามทำทุกอย่างในหน้าที่ของการเป็นทั้งพ่อและแม่ของน้องณิรินให้ดีที่สุดในวันนี้ และก็พยายามที่จะดึงทุก ๆ อย่าง ให้สถานการณ์ที่เด็กคนนึงที่เขาไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไร แต่เขาต้องมาเจอกับความเปลี่ยนแปลงบางอย่างในครอบครัว ให้เขาได้อยู่ในสถานการณ์เดิม ๆ สิ่งแวดล้อมเดิม ๆ ที่ไม่กระทบกับใจเขามาก นั่นคือสิ่งที่แม่คนนึงพยายามที่จะต้องทำให้ดีที่สุด แล้วมันก็เป็นสิ่งที่ทำให้เขามีความสุขมาก เขาเองเป็นคนโพสต์รูปนั้น แล้วเขาก็คอลแล็ปมาที่หนิง เพราะเวลาหนิงโพสต์รูปอะไรกับเขาก็จะคอลแล็ปไปที่เขา หนิงปฏิเสธไม่ได้ที่จะกดตอบรับ แล้วเขาก็ถามก่อนโพสต์
ยิ่งน้องเป็นเด็กที่สตรองและแข็งแรงเท่าไหร่ พวกเราทุกคนยิ่งต้องแคร์ความรู้สึกเล็กๆ ของเขา หนิงรู้ว่าทุกคนอยากจะได้อะไรจากปากหนิง แต่ว่าอย่างที่หนิงบอกไง หนิงยังไม่ได้คุยกับลูก ทุกสิ่งทุกอย่างทั้งหมด เชื่อเถอะว่าไม่ว่าหนิงจะตัดสินใจทำอะไรก็แล้วแต่ หนิงจะตัดสินใจช้าๆ อย่างมีสติ แล้วให้กระทบกับลูกน้อยที่สุด เพราะเขาต้องมาเจอการเปลี่ยนแปลงในทุก ๆ เรื่อง แบบที่เขาไม่มีความจำเป็นต้องมาเจอเรื่องที่มันคือเรื่องของผู้ใหญ่ 2 คน แต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้กับคำว่าครอบครัว
เมื่อผู้ใหญ่ 2 คนมีปัญหากัน มันก็ย่อมส่งผลกระทบถึงเด็กโดยปริยาย เดี๋ยวเราไว้นัดกันใหม่ ขอหนิงพูดคุย ทำความเข้าใจกับลูกให้ชัดเจนกว่านี้ หนิงไม่หนีพวกพี่ เพราะหนิงก็ยังต้องพึ่งพวกพี่อยู่ในหลายๆ เรื่อง แล้วพวกพี่ก็มาโดยที่หนิงรู้ว่าไม่มีใครจี้หนิง แต่ทุกคนก็อยากได้คำตอบ มันเป็นหน้าที่ (เรื่องหย่า?) หนิงขอเวลาหน่อย แล้วหนิงจะตอบค่ะ”.