ข่าว

ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ ชี้แจงทั้งน้ำตา หลังโดนแม่แท้ ๆ สาดสีมานานนับปี

สยบดราม่า! ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ ออกตัวชี้แจง กรณีโดนแม่สาดสีใส่มาเป็นปี เล่าทั้งน้ำตา เริ่มต้นจากเรื่องงานวันเกิด ลามจนเป็นเรื่องราวใหญ่โต ลั่น คนอื่นเห็นเรารวยยังดีใจด้วย ทำไมแม่ไม่ดีใจ

จากกรณีประเด็นร้อนที่ ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ หรือ บิ๊ก ธิติวุฒิ ถูกเป็นที่พูดถึงในสังคม เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของบิ๊กและแม่ ที่ดูเหมือนไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่นัก เนื่องจากแม่ได้ออกมาพูดต่อว่าบิ๊กอยู่บ่อยครั้ง จนล่าสุด ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ พร้อมด้วยภรรยาหมอลำชื่อดัง แพรวพราว แสงทอง ต้องออกมาไลฟ์ชี้แจงเรื่องดังกล่าวทั้งน้ำตา ท่ามกลางกำลังของแฟนคลับ พร้อมกล่าวว่ากล้าสาบาน ไม่เคยอกตัญญูพ่อแม่

Advertisements

เมื่อวันเสาร์ที่ 1 กรกฎาคม 2566 เพจเฟซบุ๊กของผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ บ่าวอุดร พาเพลิน เพจสไตล์ข่อย ได้ออกมาไลฟ์สดความยาว 1.15 ชั่วโมง พร้อมแคปชั่นว่า “เว้าทีเดียว ม้วนจบ ละไม่ต้องพูดเรื่อง คุณแม่ บ่ไหวแล้ว”

บิ๊ก ธิติวุฒิ ได้ปรากฏตัวขึ้นภายในคลิป ก่อนเอ่ยว่า “พยายามทำให้มันดีที่สุดแล้ว ขนาดไม่อยากให้เป็นเรื่องเป็นราว ก็ดันมาเป็น ซึ่งบางทีคนเราก็ต้องออกมาพูดบ้าง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เรารู้ตัวเราดีที่สุด”

ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนพยายามจะไม่ดูแล้ว แต่มันก็ยังต้องเห็นต้องฟัง “คนอื่นพูดเราก็ไม่เจ็บช้ำน้ำใจเท่าคนเป็นแม่พูดว่าเราขนาดนี้ มันเป็นอะไรนักหนา แม่ฉันน่ะเป็นอะไรนักหนา”

ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ เล่าปมโดนแม่สาดสีนับปี

โดยบิ๊กได้เล่าเรื่องราวชีวิตของตัวว่า มีพ่อมีแม่แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน มาวันหนึ่งแม่ติดต่อมาให้ย้ายไปอยู่ฟินแลนด์ โดยแม่หวังดีให้ได้ไปอยู่ในประเทศที่ดี ๆ ยอมรับว่าไปอยู่ที่นั่นได้ก็เพราะแม่ ต้องตอบแทนบุญคุณอยู่แล้ว ปกติทั้งคู่ก็รักกันดีมาก กระทั่งมีเรื่องเกิดขึ้นในวันที่มาผ่าตัดในเมืองไทย

Advertisements

ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์เล่าว่า ตอนมาผ่าตัดที่ไทยเป็นช่วงก่อนวันเกิด โดยแม่บินมาผ่าตัดแล้วก็กลับไปหาสามี ซึ่งตนคอยดูแลให้ทุกอย่าง ไม่เคยใส่ร้ายหรือยุยงว่าอย่าไปพาตัดเมืองนอกแต่อย่างใด

แต่หลังจากผ่าตัดเสร็จ แม่อยากบินกลับมาฉลองวันเกิด บิ๊กจึงบอกว่าไม่ต้องมา เพราะตั้งใจจะพาลูกเมียไปหาที่ฟินแลนด์อยู่แล้ว ทว่าทางแม่กลับมองว่าบิ๊กรับไม่ได้ที่มีแม่อย่างนี้ และคิดว่าลูกกลัวจะต้องเสียค่าตั๋ว ซึ่งบิ๊กยืนยันว่าไม่เคยคิดแบบนั้น

ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์เผยว่าเรื่องเริ่มต้นจากแค่ไม่ให้มาวันเกิด จนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต ทั้งที่ตนเองไม่เคยคิดว่าไม่อยากให้แม่มาใกล้ เพราะตนเตรียมวางแผนไว้แล้วกรณีที่แม่จะกลับมา คิดถึงขั้นวางแผนอาชีพให้แม่ จึงเป็นสาเหตุที่เปิดเพจให้ แต่แม่กลับไปขายแบรนด์อื่นประชดประชันตน

ทั้งนี้บิ๊กได้เผยอีกว่า ตอนลูกของตนเกิดแม่ก็ไม่เคยถาม ตอนมีอุบัติเหตุแม่ก็ไม่โทรหา พร้อมถามว่า “จะใจดำใจร้ายอะไรขนาดนั้น จะโกรธจะเกลียดอะไรกันขนาดนั้น แค่ไม่ได้มาเมืองไทย จะโกรธจะแค้นอะไรขนาดนั้น มันไม่ใช่คนอื่นกัน มันแม่กับลูก แม่กับลูกตัดกันไม่ขาด ลูกไม่ดีก็ตัดได้ พูดทำไมคำนี้ไม่ต้องพูด ฉันไม่เคยพูดว่าจะตัดแม่ตัดลูก”

บิ๊กกล่าวว่า “คนเป็นแม่ แม่เขามีแต่เยินยอลูก พูดให้ลูกดูดี แต่อันนี้พูดให้ลูกเสื่อมเสีย พูดทำไม จะไปประจานลูกทำไม เป็นแม่คนมันต้องมีความลดหย่อนผ่อนเบา”

ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ เล่าปมโดนแม่สาดสีนับปี

สำหรับช่วงที่ไปอยู่ฟินแลนด์ บิ๊กเล่าว่า ตนสำนึกบุญคุณไม่เกเร ไม่เคยเรียกร้องอะไร สำนึกบุญคุณตลอด ลำบากไปกับแม่ ดิ้นรนด้วยตัวเองไม่เคยต้องแบมือขอ

พร้อมกันนี้บิ๊กได้ยกมือสาบาน กล่าวว่าตนไม่เคยลบหลู่ หรืออกตัญญูพ่อแม่ ก่อนเปรยว่า พ่อแม่ไม่ใช่เซฟโซนของลูกเสมอไป

อีกทั้งบิ๊กยังได้กล่าวถึงเรื่องความรวยว่า “เอฟซีเห็นเราร่ำรวยเขายังดีใจด้วย ทำไมแม่เราไม่ดีใจ ทำไมมาพูดสาดเสียให้เราเสียหาย” วันเกิดหลานไม่โทรหรือโพสต์หาหลานเลย พร้อมถามว่าจะตัดกันขนาดนั้นเลยเหรอ

นอกจากนี้แล้วผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ ยังได้พูดเสริมว่า คนไม่ดีคอยเสี้ยมให้พูด แม่เลยหลงกล พูดแต่เรื่องลบ ๆ จนชีวิตพาลติดลบไปด้วย ทั้งเล่าว่า ตนยังไม่เคยถามเลยว่าแม่รักตนเท่าลูกฝรั่งหรือเปล่า มีแต่จะคอยเลี้ยงส่งของให้ ทั้งไอโฟนและเกม ไม่ได้ทวงบุญคุณเพียงแต่พูดให้เห็นภาพ

ทั้งนี้ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์บอกว่า ตนเคยใช้หนี้ให้แม่ แต่ไม่ได้ให้เงินเดือนแม่ เพราะแม่ก็มีครอบครัวมีสามี แถมลูกอีกสองคน จะให้ตนส่งเงินไปเลี้ยงลูกฝรั่งด้วยเหรอ? ซึ่งที่ผ่านมาตนก็ให้เงินตามสมควรและตามเทศกาลดี ๆ อยู่แล้ว ลั่น ตนไม่ใช่รัฐบาลที่ต้องดูแลครบวงจรทั้งครอบครัว

บิ๊กกล่าวว่า “อดทนแต่วันนี้มันระเบิด” ทั้งยังย้ำว่า หากวันใดคอขาดบาดตาย ตาบอด หรือพิการขาขาดมา ก็เลี้ยงดูเหมือนเดิม แต่ในระหว่างทางแม่เป็นอะไร สับสนอะไรเปล่า เพราะแม่พูดสาดสีมาเป็นปีแล้ว ไม่ใช่แค่อารมณ์ชั่ววูบ หนึ่งปีมันเลยระเบิดออกมาแบบเอาไม่อยู่.

Eye Chanoknun

นักเขียนประจำ Thaiger จบจากคณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีประสบการณ์เขียนงานผ่านเว็บไซต์ด้านความงามและแฟชั่นชื่อดังของไทยมากกว่า 3 ปี ปัจจุบันชื่นชอบการเขียนข่าวบันเทิง ภาพยนตร์ ซีรีส์ k-pop และไลฟ์สไตล์ เพื่อนำมาบอกเล่าผ่านตัวอักษร ด้วยมุมมองใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ ชวนให้ติดตาม ช่องทางติดต่อ eye@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button