เสรีพิศุทธ์ กล่าวถึงกรณีผู้กองแคท ชี้ หลักสูตร กอส. เป็นการเอาเปรียบชาวบ้าน เผยตนได้เสนอให้ปฏิรูประบบข้าราชการทั้งหมด
พลตํารวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ผู้กองแคท อาทิติยา หรือ ร.ต.อ.หญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ร้อยตำรวจเอกหญิงที่เป็นข่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้ยิ่งกว่าตั๋วช้าง ซึ่งการบรรจุคนจะเป็นนายตำรวจสัญญาบัตร ต้องจบหลักสูตรนายร้อยตำรวจ ไม่เช่นนั้นต้องจบนิติศาสตร์บัญฑิต หรือบัญชี หรือวิศวกร หรือจบทางแพทย์ โดยยุคที่ตนเองเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต้องรับคนมีความรู้ความสามารถ
หากส่งไปหลักสูตร กอส. สมัยตนเองจะไม่รับเพราะถือเอาเปรียบชาวบ้าน ประชาชนเกินไป ไม่มีการแข่งขัน เช่นเดียวกับกรณี ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม ที่มีการขอมา และฝากกันตามๆ มา ส่วนตั๋วช้างนั้นจะมีการเลื่อนตำแหน่งทุกปี โดยในเวลา 5 ปี ได้เลื่อนขั้นถึง 5 ตำแหน่ง จากปกติต้องใช้เวลา 25 ปี
และไม่ได้มีแค่ตำรวจ มีในแวดวงทหารด้วย จะสังเกตได้ว่ามีลูกหลานนามสกุลนายทหารชั้นผู้ใหญ่เข้ามาเป็นทหารทั้งสิ้น อีกทั้งเมื่อเข้ามาแล้วก็มีการกินเงินเดือน สวัสดิการ ทำให้งบของกองทัพมากเกินความจำเป็น จึงทำให้ได้ทหาร ตำรวจ ที่ไม่มีคุณภาพ พร้อมท้าให้ไปตรวจสอบยุคตนเองได้เลยว่าไม่มีเรื่องดังกล่าว
หากตำรวจไม่มีความรู้เรื่องตำรวจ ก็ไม่สามารถไปแก้ปัญหาหรือปฏิรูปอะไรต่างๆ ได้ ในยุคนี้จำเป็นมาก โดย MOU ที่ตนเองเสนอไปในพรรครวมรัฐบาลได้เสนอให้ปฏิรูประบบข้าราชการทั้งหมด ไม่ใช่แค่ทหาร ตำรวจ และจะเน้นที่ปลายเหตุไม่ได้ ต้องเน้นพัฒนาคน เพื่อให้คนมีคุณภาพ เช่น จะรับวุฒิม.6 มาเป็นนายสิบ หรือ วุฒิปริญาตรีมาเป็นพนักงานสอบสวนอีกหรือไม่ ทั้งที่บ้านเมืองเป็นแบบนี้แล้ว เพราะจะตามศาล และ อัยการไม่ทัน
เรื่องนี้ความจริงแล้วตนเองล้ำหน้ามา 15 ปีแล้ว แต่คนที่ต่อจากตนเองไม่รู้เรื่องและยกเลิกโครงการไป ซึ่งที่ตนเองทำนั้น ยังไม่ได้แก้กฎหมาย เพราะไม่ได้อยู่ในฐานะนักการเมืองที่จะนำกฎหมายสู่สภาได้ จึงต้องแก้ปัญหาภายในไปก่อน หากตนเองได้รับผิดชอบทบวง กรมใดก็ตาม สิ่งต่างๆ ต้องดำเนินการปฏิรูปให้เป็นกฎหมายเพื่อให้เปลี่ยนแปลงไม่ได้
พ่อผู้กองแคท ยันลูกสาวได้รับตำแหน่งตามขั้นตอน ลั่นไม่ต้องใช้เส้น
