STARK จี้ “DSI” สอบทุจริต เร่งตามทรัพย์สิน-มั่นใจเอาคนผิดลงโทษได้
สตาร์ค คอร์เปอเรชั่นฯ หรือ STARK แจ้ง ตลาดหลักทรัพย์ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข่าวร้องทุกข์ดำเนินคดีของบริษัท ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เชื่อนำตัวคนทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายได้
วันที่ 6 มิถุนายน 2566 บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับข่าวการร้องทุกข์ดำเนินคดีของบริษัท ตามที่ได้ปรากฏเป็นข่าวเกี่ยวกับคณะผู้บริหารของบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้มีการร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ได้ขอให้บริษัทให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
หลังจากที่คณะกรรมการตรวจสอบของบริษัทได้รับทราบจากหนังสือของผู้สอบบัญชีรายบริษัท ไพร้ซวอเตอร์ เฮ้าส์คูเปอร์ส เอบีเอเอส จำกัด ว่าผู้สอบบัญชีได้ตรวจพบพฤติการณ์อันควรสงสัยในประเด็นการดำเนินงานและได้ปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการผู้จัดการ และหรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของบริษัทตามนัยมาตรา 89/25 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2565 และประธานกรรมการตรวจสอบของบริษัทได้มี หนังสือแจ้งสำนักงาน ก.ล.ต.
ถึงการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงตามประเด็นข้อสังเกตของผู้สอบบัญชีและการแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษ (Special Audit) รายละเอียดปรากฏ ตามสิ่งที่อ้างถึงหนังสือชี้แจงของบริษัท ฉบับลงวันที่ 27 มีนาคม 2566
ต่อมา บริษัทจึงได้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อให้สืบสวนและสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี
และลงโทษตามกฎหมายจนถึงที่สุด รวมถึงบริษัทได้ดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงในเชิงลึกประกอบการสรุปผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษ (Special Audit)
โดยบริษัทได้ให้ความร่วมมือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินกระบวนการทางกฎหมาย เพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัท ผู้ถือหุ้น ตลอดจนผู้มีส่วนได้เสียเกี่ยวกับบริษัท
บริษัทขอเรียนว่าการดำเนินการดังกล่าว เป็นเพียงการดำเนินการขั้นต้น บริษัทมีความเชื่อมั่นต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางว่าจะสามารถนำตัวผู้กระทำความผิด มาดำเนินคดีลงโทษได้ตามกฎหมาย
ตลอดจนสามารถติดตามเอาทรัพย์สินที่ถูกกระทำโดยทุจริตจากผู้กระทำความผิดคืนกลับให้แก่บริษัทเพื่อเป็นการเยียวยาบรรเทาความเสียหายที่บริษัทได้รับ
อนึ่ง เนื่องจากขณะนี้กระบวนการทางกฎหมายอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
บริษัทจึงยังไม่สามารถยืนยันข้อเท็จจริงหรือเปิดเผยรายละเอียด ตลอดจนพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องตามที่ สำนักงาน ก.ล.ต. ได้ขอให้บริษัทให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวได้
ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ตลอดจนพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในขณะที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับ อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยังดำเนินการสืบสวนสอบสวนอยู่นั้นย่อมทำให้เกิด ความเสียหายต่อกระบวนการยุติธรรม
ตลอดจนอาจเป็นเหตุทำให้ไม่สามารถนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีได้ อย่างไรก็ตาม บริษัทจะแจ้งความคืบหน้าและข้อมูลเท่าที่เปิดเผยได้ (ตามความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง) ให้แก่ สำนักงาน ก.ล.ต. และผู้ที่เกี่ยวข้องทราบเป็นระยะในภายหลังต่อไป.