ดราม่าหนัก ยูทูบเบอร์ดังสระผมที่ลาว ตกใจช่างฟอกแชมพูเต็มหน้า ทำทัวร์ลงสนั่น เจ้าของร้านตกใจรีบออกแถลงการณ์ ยันลูกค้าขอให้ทำแบบนี้ ด้านชาวเน็ตไหนขอโทษแทน
จากกรณียูทูบเบอร์สายท่องเที่ยวรายหนึ่งได้ออกมาเผยแพร่คลิปวิดีโอ รีวิวเกี่ยวกับการใช้บริการสระผมที่ประเทศลาว ในราคา 50,000 กีบ หรือประมาณ 100 บาท โดยภายในคลิปจะเห็นว่า เจ้าตัวได้ลองไปสระผมตามที่หลายคนแนะนำ ก็เลยลองไปร้านเสริมสวย
ทางร้านก็บริการอย่างดี สระผมพร้อมเกาไปด้วย แต่จุดเริ่มต้นเรื่องราวทั้งหมดเริ่มมาจากการสระรอบที่ 2 ได้มีการนำยาสระผมมาล้างหน้าด้วย ฟอกจนฟองเต็มหน้า พร้อมระบุว่า “สระแบบนี้ก็อาบไปเลยสิคะ สาแก่ใจยิ่งนัก 100 บาทอย่างคุ้ม” โดยเผยอีกว่า “ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับบริการแบบนี้ แล้วแต่ร้าน”
หลังจากที่คลิปดังกล่าวได้ถูกแชร์ออกไป ทำให้คนเข้าใจร้านทำผมในประเทศลาวผิดเป็นจำนวนมาก จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ทำไมร้านถึงเอาแชมพูมาล้างหน้าให้ลูกค้า ซึ่งทางร้านได้ออกมาชี้แจงว่า “ลูกค้าเจ้าของช่องยูทูบเป็นผู้ที่บอกให้ทางร้านสระผมแบบนี้ให้เอง โดยเจ้าของร้านได้โพสต์เป็นภาษาลาว แปลเป็นไทยได้ดังนี้
“สวัสดีค่ะลูกค้าที่รัก ฉันในนามเป็นเจ้าของ เห็นคลิปนักท่องเที่ยวจากประเทศไทย ร้านเห็นคลิปแล้วตกใจที่ลูกค้ามาใช้บริการทําผมแล้วลงคอนเทนต์ที่ใช้แชมพูล้างหน้า (ทางร้านเคยแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ไม่มีบริการแบบนี้)
แต่ลูกค้าให้ทางร้านทําตามที่ทุกคนเห็นคลิป และไม่ได้คิดถึงผลกระทบต่อร้าน ซึ่งทางร้านขอให้ลูกค้าถ่ายคลิปเพื่อสร้างสรรค์และไม่กระทบกับทางร้าน อีกทั้งยังมีบางคําพูดในคลิปมีคำไม่สุภาพที่ส่งผลต่อร้านและทําให้สังคมโลกออนไลน์เข้าใจผิด”
ทางร้านไม่คาดคิดว่า ทุกอย่างจะเป็นเช่นนี้ เพราะลูกค้าเรียกร้องขอให้ทำเอง ซึ่งทางร้านต้องขออภัยเป็นอย่างสูงที่ทําให้สังคมเข้าใจผิดคิดว่าร้านเราบริการไม่ดี ขอโทษโซเชียลมีเดีย ณ ตอนนี้ หวังว่าทุกคนจะเข้าใจร้านของเรา
(ลูกค้าแจ้งว่า ลูกค้าได้แจ้งทางร้านแล้ว แต่วิดีโอแสดงให้เห็นถึงคําพูดที่ไม่เหมาะสมและการสื่อสารที่ผิดอย่างชัดเจนเพื่อสร้างความเสียหายให้กับร้าน) #หลังจากเห็นคลิป ทางร้านติดต่อลูกค้าเป็นการส่วนตัว แต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับจากลูกค้าแต่อย่างใด..”
ทั้งนี้ ใต้โพสต์ดังกล่าว ก็มีชาวเน็ตทั้งไทยและลาวเข้าไปคอมเมนต์กันอย่างดุเดือด โดยชาวไทยหลายคนได้แสดงความขอโทษแทนยูทูบเบอร์คนดังกล่าว เนื่องจากยูทูบเบอร์คนดังกล่าวได้สร้างความไม่สบายใจและก่อให้เกิดความเสียหายให้กับทางร้าน รวมถึงทำให้ชาวไทยถูกมองว่าเป็นนักท่องเที่ยวที่ไม่ให้เกียรติผู้อื่นอีกด้วย
