ครอบครัววอนสื่อ ขอความเป็นธรรม นักฟุตบอลอคาเดมี่ทำสาวท้อง 6 เดือน ไม่รับผิดชอบ แถมหนีไปแต่งงานใหม่ด้วย ลั่นหมดรักไม่เป็นไร แต่ดูแลเด็กด้วย
น.ส.ปนัดดา หรือ น้องบีม อายุ 18 ปี ชาว อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ได้ร้องทุกข์กับนักข่าวแสดงนำหลักฐานการฝากครรภ์ โดยเธออ้างว่าได้ตั้งท้องกับ นายบอล อายุ 17 ปี ซึ่งปัจจุบันฝ่ายชายเป็นนักฟุตบอลอคาเดมี่ในพื้นที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติได้ 6 เดือนแล้ว แต่ไม่แสดงความรับผิดชอบ หนีกลับไปอยู่บ้านที่ จ.มหาสารคาม และสืบทราบมาว่าแต่งงานกับหญิงอื่นแล้วด้วย
บีม เล่าว่า เธอคบกับ นายบอล ช่วงที่เรียนอยู่ ม.6 ส่วน นายบอล เรียน ม.4 ซึ่งนายบอลเป็นนักฟุตบอลทีมอคาเดมี่ในพื้นที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติด้วย แต่พอตนเรียนจบ ม.6 เมื่อปีที่แล้ว นายบอล ก็มาขออนุญาตยายที่บ้านเพื่อพาตนไปอยู่ที่ อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม บ้านของฝ่ายชายด้วย ซึ่งตนก็ไปอยู่ได้ประมาณ 2-3 เดือน ก็เริ่มจับได้ว่า นายบอล แอบคบหากับผู้หญิงคนอื่น
ด้วยความน้อยใจจึงตัดสินใจกลับมาอยู่กับยายที่บุรีรัมย์ กระทั่งมีอาการปวดท้องเป็นไส้ติ่งก็ไปหาหมอเพื่อรักษา แต่พอหมอตรวจร่างกายกลับพบว่าตั้งครรภ์ได้ประมาณ 2 เดือน ตนก็โทรบอก นายบอล ว่าตั้งท้อง ซึ่งนายบอล ก็บอกว่าเดี๋ยวจะให้ทางผู้ใหญ่ไปพูดคุย
จากนั้นทางครอบครัว นายบอล ก็บอกว่าจะมาหมั้นหมายไว้ก่อน ซึ่งตนก็รอมาตลอด แต่ นายบอล และทางครอบครัวก็เงียบหายไม่เห็นติดต่อมาอีกเลย โดยเฉพาะฝ่ายชายไม่เคยติดต่อพูดคุยสอบถามเลยแม้แต่ครั้งเดียวหลังทราบข่าว ด้วยฐานะที่ยากจนอาศัยอยู่กับยาย ที่บ้านไม่มีรถก็ต้องอาศัยรถเพื่อนบ้านไปไปฝากครรภ์ที่ รพ.คนเดียวมาตลอด
ปัจจุบันท้องได้ 6 เดือนแล้ว อีกไม่กี่เดือนก็คลอดแล้ว และมาทราบว่านายบอลแต่งงานกับหญิงอื่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้ยินก็ตกใจมากและสอบถาม ซึ่งฝ่ายชายก็ยอมรับว่าเกิดขึ้นจริง แต่ไม่ได้แสดงท่าทีรับผิดชอบหรือแก้ปัญหาแต่อย่างใด ตนจึงโทรไปหาภรรยานายบอล และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น เขาก็บอกว่าเพิ่งจะรู้เรื่องเหมือนกัน ไม่เคยรู้มาก่อนว่าบอลทำผู้หญิงท้อง แล้วแอบมาแต่งงานด้วย
ตนก็ไม่ได้โทษหรือโกรธฝ่ายหญิง เพราะเขาก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน แต่ที่ออกมาร้องขอความเป็นธรรมเพราะอยากให้ นายบอล มาแสดงความรับผิดชอบดูแลส่งเสียลูกในท้องด้วย เพราะอีกไม่กี่เดือนก็จะคลอดแล้ว หมดรักไม่เป็นไร แต่มารับผิดชอบในฐานะคนเป็นพ่อด้วย
ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ โค๊ชปิ๊ก อายุ 40 ปี เจ้าของอคาเดมี่และเป็นครูฝึกสอน บอกว่า บอลเป็นนักฟุตบอลในสังกัดจริง ยอมรับว่าตนเป็นญาติผู้ใหญ่ฝ่ายชายไปงานแต่งนายบอลกับน้องมายจริง แต่ไม่เคยรู้มาก่อนว่า นายบอล ไปทำผู้หญิงอีกคนท้องแล้วมาแต่งกับอีกคน เพิ่งจะรู้เมื่อวันก่อนเพราะมีคนมาบอก ก็รู้สึกตกใจเหมือนกัน จึงได้โทรศัพท์ไปสอบถาม นายบอล เพราะตอนนี้กลับไปอยู่บ้านที่ จ.มหาสารคาม เขาก็ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง ตนจึงบอกให้เขากลับมารับผิดชอบในฐานะลูกผู้ชาย เพราะเด็กในท้องเขาไม่รู้เรื่องอะไรด้วย แต่หากพูดคุยหรือตกลงกันไม่ได้ก็ขึ้นอยู่กับทางผู้เสียหายว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะเป็นสิทธิที่เขาสามารถเรียกร้องได้
