สรุปคดีน้องต่อ อัปเดตล่าสุด “นิ่มสารภาพแล้ว “โยนน้องต่อ 8 เดือน ทิ้งน้ำ เปิดปากเล่าสาเหตุ
สรุปข่าวน้องต่อ เด็ก 8 เดือน หายตัวปริศนา เปิดไทม์ไลน์ตั้งแต่หายตัวจากบ้านวันที่ 5 กุมภาพันธ์ กระทั่งปัจจุบัน พุด พ่อเด็ก ลุงแจ้ คนสนิทพ่อ ถูกจับค้าประเวณี ส่วน นิ่ม แม่น้องต่อกุเรื่องโกหกมีคนใส่เสื้อเหลืองมาอุ้มเด็กไป ตำรวจชุดสืบเชื่อเด็กอยู่ในหมู่บ้าน กระทั่งล่าสุด นิ่มสารภาพแล้ว โยนน้องต่อทิ้งลงแม่น้ำ เปิดปากกับตำรวจสาเหตุทำไมทำแบบนี้
สรุปข่าวน้องต่อ เด็ก 8 เดือน หายตัวปริศนา วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 หลังเข้าสู่วันที่ 18 ในการค้นหาตัวเด็ก วันนี้สังคมเริ่มจับตามองว่าคดีนี้ส่อเค้าจะคลี่คลายจริงหรือไม่ หลังจากที่ นิ่ม แม่น้องต่อสารภาพกุเรื่องคนมาอุ้มลูกไป ด้าน “พุด” สามีนิ่มกับ ลุงแจ้ ถูกจับดำเนินคดีค้าประเวณี แต่ไม่เกี่ยวเรื่องเด็กหายตัว
พาย้อนไปเปิดไทม์ไลน์คดีวุ่น เรื่องราวเด็กหายจากบ้านที่จนถึงตอนนี้เวลาผ่านไปแล้วเกิน 2 สัปดาห์ ยังไม่มีใครเจอ ด.ช.ต่อศักดิ์ แสงสว่าง หรือ น้องต่อเด็กหายที่กำลังเป็นข่าวดัง
ตี 5 วันที่ 5 ก.พ. น้องต่อหายตัวไปจากบ้าน
เวลาประมาณตีห้าของวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2566 คือ ช่วงเวบาที่น้องต่อหายตัวไปจากบ้านอย่างปริศนา โดย พุดและนิ่ม 2 สามีภรรยานอนหลับอยู่ในบ้าน นิ่ม แม่เด็กไบอกว่า ระหว่างที่นอนในบ้านมีชายเสื้อเหลืองมาอุ้มลูกต่อไป ประเด็นนี้ต่อมาตำรวจเค้นจนทราบความจริงว่า นิ่ม กุเรื่องขึ้นมา
ต่อมา ตำรวจเรียกตัว พุด นิ่ม พ่อและแม่น้องต่อเข้าสอบปากคำ ขณะที่การค้นหาก็มีทั้งทีมนักประดาน้ำลงค้นหาใต้น้ำ หัวหน้าทีมสุนัขค้นหาเเละกู้ภัย ปูพรมค้นหา ตำรวจสงสัยโถส้วมในห้องน้ำ เพราะมีการโบกปูนใหม่จึงทุบส้วมเพื่อพิสูจน์ความจริง แต่ก็ไม่พบเด็ก
ใช้โดรนบินสำรวจรอบหมู่บ้านในพื้นที่ 30 ไร่ พร้อมกับปูพรมค้นหาทางเท้าด้วย สำรวจกล้องวงจรปิดและสอบปากคำพยานบุคคลต้องสงสัยและข้อมูลการใช้โทรศัพท์ โดยสามารถจำกัดผู้ต้องสงสัยเหลือเพียง 2-3 คน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบการใช้โทรศัพท์วันที่ 5 ก.พ. 66 การโทรศัพท์เข้า-ออก และการใช่อินเตอร์เน็ตของพ่อและแม่เด็กนั้น ไม่พบว่ามีการติดต่อญาติหรือบุคคลใกล้ตัว
ส่วนโทรศัพท์ของ “ลุงแจ้” ที่ก่อนหน้านี้เคยตกเป็นผู้ต้องสงสัยก็ไม่ได้เข้ามายังพื้นที่บ้านเกิดเหตุ และพบว่าช่วงเวลา 07.29 น. “ลุงแจ้” อยู่ที่ ต.บางเลน และต่อมาเวลา 07.30 น. ห่างกันเพียง 1 นาที ไปอยู่ที่บ้านท้องคุ้ง ต.บางปลา ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกัน
ตรวจดีเอ็นเอ พ่อน้องต่อ คือ ลุงแจ้ ไม่ใช่ พุด
ต่อมาผลการตรวจดีเอ็นเอพบว่า น้องต่อ เป็นลูกของ ลุงแจ้ ที่เคยให้การว่าคอยตามรับ-ส่ง นิ่ม แม่ของน้องต่อ ตามคำขอร้องของบิดานิ่ม โดยยอมรับว่าเคยมีสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับนิ่ม 2-3 ครั้ง ซึ่งได้นำตัวลุงแจ้เข้าเครื่องจับเท็จก่อนจะสอบปากคำอย่างละเอียด ซึ่งประเด็นนี้ ล่าสุด พุด กับ ลุงแจ้ ถูกตำรวจแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดในข้อหาร่วมกันค้าประเวณีแลพะพรากผู้เยาว์กับผู้ต้องหาทั้งสองราย คือ พุด ที่เอาเมียไปขายบริการให้กับลุงแจ้
หลักฐานกล้องวงจรปิดยัน นายหรั่ง ไม่ใช่คนเอาเด็กไป
ขณะที่ นายหรั่ง ชายสติไม่สมประกอบที่อาศัยอยู่ในบ้าน ซึ่งอยู่ติดกับบ้านของ น.ส.นิ่ม กับนายพุด ตกเป็นผู้ต้องสงสัยคนล่าสุด ภายหลังที่ นายประกอบ ศิลารัตน์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ได้ข้อมูลมาจากหน่วยงานหนึ่งว่า ให้ลองตรวจสอบบุคคลสติไม่สมประกอบในพื้นที่ดู เนื่องจากเคยเกิดเหตุเด็กหายในจังหวัดใกล้เคียง แล้วพบว่ามีชายสติไม่สมประกอบมาอุ้มเด็กไป
ผู้ใหญ่บ้านจึงไปตรวจสอบกับนายหรั่ง ซึ่งตอนนั้นนายหรั่ง บอกว่าเป็นคนพาเด็กไปเอง พร้อมกับพาไปชี้จุดที่ทิ้งเด็กไว้ แต่ภายหลังนายหรั่งให้การปฏิเสธ บอกว่าที่บอกไปแบบนั้นเพราะตำรวจรับปากว่าจะให้กินข้าว เรื่องนี้จึงจบไป
โดยภาพจากล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุที่น้องต่อ ได้หายออกจากบ้าน ในวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา ระหว่างช่วงเวลา 05.48-08.30 น. ซึ่งในกล้องช้ากว่าเวลาจริง 22 นาที เป็นภาพทางออกหมู่บ้าน ห่างจากบ้านน้องประมาณ 200 เมตร จากการตรวจสอบพบว่า
- ช่วงเวลา 05.48-07.00 น. มีรถผ่าน 24 คัน
- ช่วงเวลา 07.01-08.00 น. มีรถผ่าน 34 คัน
- ช่วงเวลา 08.01-08.30 น. มีรถผ่าน อีก 27 คัน
ทั้งนี้ ช่วงเวลาทั้งหมดข้างต้น ไม่พบรถจักรยานของนายหรั่ง ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยว่าอุ้มน้องใส่ตะกร้าหน้ารถขี่ออกไป หรือผู้ต้องสงสัยรายอื่น ๆ อุ้มเด็กออกไป ทำให้ชุดสืบสวนเริ่มสงสัยว่าเด็กอาจอยู่ในหมู่บ้าน ซึ่งมีอยู่ประมาณ 500 ครัวเรือน จากนี้จะตีวงแคบในการค้นหา โดยจะตรวจค้นทีละหลังทุกจุดอย่างละเอียด
เช่นเดียวกับเบาะแสพบคราบเลือดบนรถจักรยานยนต์ซึ่งรถจักรยานยนต์คันนี้ มีส่วนเกี่ยวข้องในการหายตัวไปของ”น้องต่อ” เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง.
27 ก.พ. นิ่มสารภาพ โยนน้องต่อทิ้งน้ำ อ้าง ทำลูกหัวกระแทกพื้น กลัวความผิด
อัปเดตล่าสุด เช้าวันที่ 27 ก.พ. 2566 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยความคืบหน้าสำคัญว่า นิ่มสารภาพแล้วว่าเป็นคนโยนน้องต่อทิ้งลงแม่น้ำ เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่มีหลักฐานว่า นิ่มได้หายไปในช่วงเวลา 3.00 – 5.00 น.
จากข้อมูลการสารภาพ นิ่มอ้างว่าคืนวันเกิดเรื่อง น้องต่อตื่นมาร้องตอนตี 3 เพราะมีไข้ ให้นมแล้วก็ไม่หยุด จึงเขย่าตัวน้องต่อจนพลาดหล่นหัวกระแทกพื้้นแน่นิ่งไป ตอนแรกเข้าใจว่าลูกหลับ จนตี 5 พบว่าน้องต่อเสียชีวิตแล้ว ตัวเองกลัวความผิดว่าจะติดคุก จึงลงมือดังกล่าว