สั่งเร่งคดี เด็กม.4 เงินหายเกลี้ยงบัญชี 5 แสน หลักฐานโอนเงินอยู่ในกทม.
ผบช.ภาค 8 ลงสั่งการ ข่าวเงินหายจากบัญชี ของเด็ก ม.4 กว่า 5 แสนบาท สูญหายไร้ร่องรอย เหลือเพียง 850 บาท ตำรวจไซเบอร์เร่งคลี่คดีตรวจอุปกรณ์มือถือที่เกี่ยวข้องแล้ว ด้านธนาคารส่งเพียงหลักฐาน การโอนเงินอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ
จากกรณี นางสาวกนกวรรณ นักเรียนชั้น ม.4 อายุ 16 ปี บันทึกคลิปวิดีโอของตนเองแล้วโพสต์เผยแพร่ขอความช่วยเหลือ เนื่องจากเงินในบัญชีธนาคารของตนเองหายไปอย่างไร้ร่องรอยกว่า 5 แสนบาท
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีการแจ้งความร้องทุกข์ไปเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2565 เวลาผ่านไปถึง 3 เดือน ปรากฏคดีไม่มีความคืบหน้า กระทั่งล่าสุด วันนี้ (7 ก.พ.) พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ฐปกรณ์ หนุมาศ ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญได้เข้าติดตามคดีนี้ด้วยตัวเอง โดยได้เรียกพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เข้าร่วมประชุมติดตามคดีอย่างเร่งด่วนแล้ว
ส่วนนายปรีชา อายุ 33 ปี และ น.ส.สุณิสา อายุ 33 ปี น้าชายและน้าสะใภ้ ซึ่งเป็นผู้ปกครองของนักเรียนหญิงชั้น ม.4 ผู้เสียหาย พ.ต.อ.สุทัศน์ สงสยม รองผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช พร้อมเจ้าหน้าที่ได้ขอข้อมูลอย่างละเอียด เพื่อเป็นข้อมูลการคลี่คลายคดี ซึ่งขณะนี้ยังรอผลการตรวจสอบมาทำการสอบข้อมูลเพิ่มเติม และนำอุปกรณ์ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบทางเทคโนโลยี และร่องรอยทางไซเบอร์ มีความผิดปกติของอุปกรณ์หรือแอปพลิเคชันแปลกปลอมหรือไม่
ขณะที่การดำเนินการกับเจ้าของบัญชีปลายทางนั้น พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามนำตัวมาสอบสวน และตรวจสอบเส้นทางการเงิน หลังจากที่เงินถูกโยกเข้าไปในบัญชี แล้วถูกเชื่อมโยงไปยังบัญชีใด หรือถูกเบิกถอนอย่างไร รวมทั้งร่องรอยทางไซเบอร์ที่ต้องรอผลการสืบสวนทางเทคโนโลยีด้วย
ทั้งนี้ มีรายงานสำหรับเงินทั้งหมดที่สูญหายไปอย่างไร้ร่องรอยนั้น เป็นเงินที่ได้จากบริษัทประกันภัย เป็นค่าชดเชยในอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ทั้งพ่อและแม่ของน้องกนกวรรณ ถูกชนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทั้งคู่ และเงินจากการได้รับบาดเจ็บสาหัส นอนโรงพยาบาลถึง 1 เดือน ของน้องเองด้วย
และจากการตรวจสอบดู พบว่าเงินถูกโอนออกจากบัญชีไปเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2565 จำนวน 14 ครั้ง ภายในวันเดียว รวมเป็นเงิน 510,100 บาท โดยไม่มีการแจ้งเตือนอะไร มีแค่ร่องรอยการแก้ไขวงเงินการโอนต่อวัน จาก 100,000 บาท ไปเป็น 1 ล้านบาท
นอกจากนี้ทางเยาวชนผู้เสียหาย ไม่ทราบสาเหตุว่าเงินสูญหายเกิดจากอะไร พร้อมยืนยันกับธนาคาร ไม่เคยโหลดแอปฯ แปลก ๆ ลงในเครื่องโทรศัพท์ ส่วนธนาคารส่งเพียงหลักฐานมาว่า การโอนเงินครั้งนี้อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ.