ผู้หญิง

ประวัติ ‘พระนางสุจันทรี’ หญิงออสเตรีย ฉายาเจ้าชายจ่าแสง แห่งนครสีป้อ

ชวนทำความรู้จัก ประวัติ ‘พระนางสุจันทรี’ มหาเทวีรัฐฉานองค์สุดท้าย หญิงสาวสัญชาติออสเตรีย ที่ได้เข้ามาเป็นฉายาของ ‘เจ้าชายจ่าแสง’ ประเทศพม่า

ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยายสำหรับ “พระนางสุจันทรี” หรือ อิงเก้ อีเบอร์ฮาร์ด (Inge Eberhard) หญิงสาวเชื้อชาติออสเตรีย ที่ได้ไปเรียนไกลถึงอเมริกา ก่อนจะได้พบรักกับชายหนุ่มชาวเอเชีย แต่หารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้วอีกฝ่าย เป็นถึงเจ้าชายจ่าแสงแห่งนครสีป้อ ประเทศพม่า นำไปสู่จุดเปลี่ยนของชีวิต จากหญิงสามัญชน สู่การเป็นมหาเทวีรัฐฉานองค์สุดท้าย กระทั่งเสียชีวิตลงในวัย 91 ปี ใครพร้อมแล้วอย่ารอช้า ไปอ่านประวัติของพระนางสุจันทรีด้วยกันได้เลย

ประวัติ ‘พระนางสุจันทรี’ มหาเทวีองค์สุดท้ายแห่งรัฐฉาน

พระนางสุจันทรี มีชื่อจริงว่า อิงเก้ อีเบอร์ฮาร์ด (Inge Eberhard) หรือ อิงเก้ ซาร์เจนท์ (Inge Sargent) เกิดเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 1932 มีชาติกำเนิดมาจากเมืองคาร์นเตน ประเทศออสเตรีย เธอมีชีวิตวัยเด็กในยุคที่เต็มไปด้วยนาซี ซึ่งมีการบันทึกเรื่องราวว่า แม่ของอิงเก้ เคยถูกนาวีบุกเข้ามาจับกุมตัวถึง 3 ครั้ง

ท่ามกลางความยากลำบากของชีวิต อิงเก้ ตัดสินใจเดินทางไปเรียนต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยวัยเพียง 19 ปี โดยเธอได้รับทุนการศึกษา Fulbright เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ของออสเตรีย และได้เข้าเรียนต่อในวิทยาลัยสตรีโคโลราโด

ประวัติ พระนางสุจันทรี

ชีวิตรัก พระนางสุจันทรี – เจ้าชายจ่าแสง

ในช่วงเวลาแห่งการร่ำเรียนอย่างหนัก อิงเก้มีโอกาสได้ไปงานปาร์ตี้และพบกับชายหนุ่มชาวพม่า ‘เสายาเส็ง’ ซึ่งเป็นนักศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์ ความรักของทั้งคู่ผลิบานขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ตัดสินใจแต่งงานกันอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2496 ณ บ้านของคนสนิทในเมืองโคโลราโด

หลังจากเรียนจบอิงเก้ ได้เดินกลับมายังประเทศพม่าพร้อมกับสามี แต่สิ่งที่ทำให้เธอตกใจ คือผู้คนจำนวนมากที่มารอต้อนรับทั้งคู่ ก่อนที่สามีของเธอจะเปิดเผยว่า แท้จริงแล้วเขาคือ ‘เจ้าชายจ่าแสง’ แห่งเมืองสีป้อ ทำให้อิงเก้กลายเป็นพระนางสุจันทรี มหาเทวีแห่งสีป้อไปโดยปริยาย

พระนางสุจันทรีได้ใช้ชีวิตในฐานะมหาเทวีแห่งสีป้อ ด้วยความตั้งใจที่แน่วแน่ เธอเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมของคนพม่า ตลอดจนเข้าร่วมงานสังคมสงเคราะห์ต่าง ๆ จัดตั้งโรงเรียนสอนภาษา และมีลูกร่วมกับสามีทั้งหมด 2 คน คือ มายรีและเกนรี กลายเป็นครอบครัวที่ประชาชนรักเป็นอย่างมาก

ทว่าในปี 2505 กองทัพของทหารพม่านำโดย นายพลเนวิน ได้ทำการรัฐประหาร และจับกุมตัว ‘เสายาเส็ง’ หรือเจ้าชายจ่าแสงแห่งนครสีป้อไป ด้านตัวของพระนางสุจันทรีและลูก ก็ถูกกักขังไว้ในบ้านตลอด 2 ปี เนื่องจากทางการพม่าเชื่อว่าเจ้าชายจ่าแสง เป็นสายลับที่คอยส่งข้อมูลให้ทางซีไอเอ

หลายปีหลังจากที่เจ้าชายจ่าแสงถูกจับตัวไป พระนางสุจันทรีก็ได้รู้ว่าสามีของเธอได้ถูกสังหารจนเสียชีวิตในคุก ทำให้เธอขอความช่วยเหลือจากเอกอัครราชทูตออสเตรีย เพื่อพาลูก ๆ หนีออกจากประเทศพม่าโดยไร้เงินติดตัว อิงเก้กลับไปอยู่ที่ออสเตรียได้สองปีกว่า ก่อนตัดสินใจย้ายกลับไปยังเมืองโคโลราโด สหรัฐอเมริกา เพื่อเป็นคุณครู จนกระทั่งเกษียณในปี 1993

ประวัติ พระนางสุจันทรี

พระนางสุจันทรี หลังเจ้าชายจ่าแสงเสียชีวิต

ตลอดช่วงระยะเวลาที่เจ้าชายจ่าแสงหายตัวไป อิงเก้ในฐานะพระนางสุจันทรี ได้พยายามอย่างหนักที่จะตามหาสามี ครั้งหนึ่งเธอเคยได้รับจดหมายที่ส่งมาจากเจ้าชายจ่าแสง ก่อนที่พระองค์จะเสียชีวิต ภายใต้ความช่วยเหลือของหนึ่งในทหารที่จงรักภักดี ซึ่งอิงเก้ได้ตีพิมพ์จดหมายฉบับนั้นให้ประชาชนได้อ่านหลังจากที่เธอหนีออกจากประเทศพม่าได้สำเร็จ

เวลาล่วงเลยมาหลายปีที่อิงเก้ย้ายกลับมาอเมริกา หลังจากเจ้าชายจ่าแสงเสียชีวิต เธอได้พบรักครั้งใหม่ในปี 1968 กับชายหนุ่มที่ชื่อว่า แทด ซาร์เจนท์ เธอได้แต่งงานกับเขา และเขียนชีวิตประวัติเรื่องราวชีวิตในหนังสือชื่อ Twilight over Burma และตีพิมพ์ในปี 1994 โดยกำไรทั้งหมด จะนำไปช่วยเหลือให้ผู้ภี้ภัยชาวพม่า บ้านเกิดสามีคนแรกของอิงเก้

นอกจากนี้แล้วอิงเก้ยังได้ก่อตั้งมูลนิธิชื่อ Myanmar Lifeline Foundation ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลที่มุ่งระดมทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ที่หลบหนีจากระบอบทหารในพม่า ตลอดจนได้รับรางวัล International Human Rights Award จากการสนับสนุนชนกลุ่มน้อยทางชาติพันธุ์อย่างต่อเนื่อง และเข้าร่วมแสดงหนังเรื่อง The Last Mahadevi เมื่อปี พ.ศ. 2543 อีกด้วย

ประวัติ พระนางสุจันทรี

ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวประวัติชีวิตของ ‘พระนางสุจันทรี’ มหาเทวีองค์สุดท้ายแห่งรัฐฉาน ผู้ที่ต้องลี้ภัยจากประเทศพม่า เพราะการรัฐประหารและการสูญเสียสามีผู้เป็นที่รัก ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตลงอย่างในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ด้วยวัย 91 ปี

แม้ในปัจจุบันมหาเทวีองค์สุดท้ายแห่งรัฐฉานจะเสียชีวิตลงแล้ว แต่คำพูดของอิงเก้หรือ ‘พระนางสุจันทรี’ ที่ยังคงทรงพลัง และติดอยู่ในใจของใครหลายคนมาจนถึงทุกวันนี้ ยังมีอีกมากมาย อาทิ “ระบอบการปกครองแบบเดียวในพม่าไม่สามารถดำรงอยู่ได้ตลอดไป ตราบใดที่ยังมีผู้คนที่ปรารถนาสิ่งที่ดีกว่า ก็ย่อมมีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงได้เสมอ” และ “ฉันผูกพันกับชาวฉานในพม่า ฉันเคยอาศัยอยู่กับพวกเขา และสูญเสียหัวใจที่นั่น ฉันจะช่วยพวกเขาได้อย่างไร ต้องมีคนช่วยพวกเขา”.

ประวัติ พระนางสุจันทรี

ประวัติ พระนางสุจันทรี

ประวัติ พระนางสุจันทรี

Eye Chanoknun

นักเขียนประจำ Thaiger จบจากคณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีประสบการณ์เขียนงานผ่านเว็บไซต์ด้านความงามและแฟชั่นชื่อดังของไทยมากกว่า 3 ปี ปัจจุบันชื่นชอบการเขียนข่าวบันเทิง ภาพยนตร์ ซีรีส์ k-pop และไลฟ์สไตล์ เพื่อนำมาบอกเล่าผ่านตัวอักษร ด้วยมุมมองใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ ชวนให้ติดตาม ช่องทางติดต่อ eye@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button