ประวัติพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคมาแรง หลัง ‘ประยุทธ์’ ย้ายซบ
เปิด ประวัติพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคมาแรง น่าจับตาในการเลือกตั้งปี 2566 หลัง ประยุทธ์ ย้ายซบและเปิดตัวไปเมื่อวาน
เมื่อวันที่ 9 มกราคม นั้น ถือว่าเป็นวันที่เกิดการเคลื่อนไหวทางการเมืองไทยครั้งใหญ่หรือก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ย้ายพรรคและเปิดตัวกับทางพรรครวมไทยสร้างชาติ
ทางสำนักข่าว TheThaiger จึงอยากจะเปิดประวัติพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคการเมืองที่จะมีบทบาทสำคัญในการเลือกตั้งปี 66 ที่จะถึงนี้
สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติ ก่อตั้งเป็นลำดับที่ 5/2564 เมื่อวันพุธที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2564 โดยมีนายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้ เป็นผู้ก่อตั้งพรรค มีที่ทำการพรรคแห่งแรกอยู่ที่ 169/98 อาคารเสริมทรัพย์ ถนนรัชดาภิเษก แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร ก่อนที่จะย้ายมา 35/3 ซอยอารีย์ 5 แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
ปัจจุบันพรรค พรรครวมไทยสร้างชาติ มีจำนวนสมาชิกพรรค 11,533 คน โดยมี พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นหัวหน้าพรรค โดยนายพีระยุทธ์เป็นคณะกรรมการชุดที่สาม หลังจากที่ทางพรรคเคยปรับเปลี่ยนโครงสร้างถึงสองครั้ง ขณะที่รองหัวหน้าพรรคได้แก่ วิทยา แก้วภราดัย, ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง, เกชา ศักดิ์สมบูรณ์ และ วิสุทธิ์ ธรรมเพชร
ก่อนที่จะมาถึงขณะกรรมการชุดปัจจุบัน ทางพรรครวมไทยสร้างชาติเคยมี ว่าที่ร้อยโท ไกรภพ นครชัยกุล เป็นหัวหน้าพรรค ก่อน ลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2565 ซึ่งนาย ธันย์ธรณ์เทพ แย้มอุทัย นั่งตำแหน่งหัวหน้าพรรคแทน และ ลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 ก่อนจะมาถึงปัจจุบันในที่สุด
และเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พล.อ.ประยุทธ์ ก็ได้ประกาศว่าตนตัดสินใจร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ และจะลงเลือกตั้งสมัยหน้า ท่ามกลางการจับตามองว่า บิ๊กตู่ เกิดกระแสรอยร้าวกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือ บิ๊กป้อม ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 มกราคม ท่ามกลางนักการเมืองและประชาชนที่มาให้กำลังใจ
ประยุทธ์ ได้กล่าวในงานเปิดตัวว่า ตนจำเป็นต้องก้าวมาสู่ตรงนี้ หลายอย่างมีเรื่องต้องทำต่อ ทำใหม่ ทำเพิ่ม ทำเพื่อพวกเราทุกคน การตัดสินใจร่วมงานการเมืองก็หวังว่าจะทำเรื่องเหล่านี้ได้เร็วขึ้น ประเทศไทยมีอยู่แล้ว อัตลักษณ์ ความสามัคคี มีอยู่แล้ว ต้องไม่ให้ใครทำลายความรัก ความสามัคคี แม้จะเหนื่อย จะเครียด ก็จะพยายามอดทน เพื่อสิ่งที่ดีกว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับประชาชน ไม่ใช่ว่ามาพูดวันนี้แล้วได้เลย เพราะประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ