เปิดบทสวดพระปริตร 12 บท หลัง ‘ครูเงาะ’ ชวนร่วมสวดถวายเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา
ครูเงาะ รสสุคนธ์ ชวนคนไทยร่วมสวดมนต์ถวายพระพร เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา เปิดบทพระปริตร คาถาช่วยปกป้องจากภัยอันตรายหลังแถลงการณ์สำนักพระราชวังเรื่องทรงพระประชวร
เป็นอีกหนึ่งบุคคลวงการบันเทิงที่ออกมาร่วม ถวายพระกำลังใจให้กับ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ที่หลังจากแถลงการณ์ของสำนักพระราชวังเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ.2565 เรื่อง พระองค์ภาทรงพระประชวร โดยต่อมาเหล่าพสกนิกรต่างเฝ้าติดตามพระอาการซึ่งส่วนหนึ่งที่ประชาชนที่สามารถร่วมแรงถวายพระองค์ได้ในขณะนี้ คือการพร้อมใจร่วมถวายพระพรให้พระพลานามัยแข็งแรง
เช่นเดียวกับที่ล่าสุด ครูเงาะ รสสุคนธ์ กองเกตุ ได้ออกมาเชิญชวนชาวไทยร่วมกันสวดมนต์ คาถาพระปริตรถวายพระพรให้กับพระองค์ภา โดยบัญชีอินสตราแกรมของครูนักพูดอาชีพ ได้มีการเขียนข้อความว่า
” ร่วมกันสวดรัตนปริตร 3-7 รอบถวายพระพรพระองค์ภากันนะคะ รัตนปริตรเป็นบทที่เป็นพระพุทธเจ้าให้ใช้ในคราวกรุงสาวัตถีมีโรคระบาดหนัก ในบทนี้คือการกล่าวประกาศสัจจะความจริงของคุณพระรัตนตรัย พลังของการประกาศสัจจะจะมีอานิสงส์จะช่วยผ่อนหนักเป็นเบาได้ ช่วยกันนะคะ ”
เปิดบทสวด – วิธีการ และอะไรคือพระปริตร ?
ทั้งนี้ ในโพสต์ซึ่งทาง ครูเงาะ รสสุคนธ์ ได้ร่วมเชิญชวนพี่น้องคนไทยสวดมนต์ถวายพระกำลังใจนั้นยังได้มีการโพสต์ถึงข้อมูลขั้นตนอการเตรียมตัวสวดบทพระปริตร ท่านั่ง วิธีการสวด ตลอดจนการาตั้งจิดตอธิษฐานนี้ไว้ด้วย โดยมีรารยละเเอียดตามเนื้อหหาด้านล่างนี้ (อ้างอิงข้อมูลจาก IG : @krungor)
” ถึงความปลอดภัยแก่ตนเอง สําหรับผู้ที่จะสวดประกาศพระปริตรนั้น จะต้องเป็นผู้ชําระ พระรัตนตรัยให้บริสุทธิ์เสียก่อน การสวดประกาศจึงจะเกิดอานุภาพ คุ้มครอง เช่น ต้องสละวัตถุปลุกเสกทั้งหมดที่สวมใส่ไว้ตามร่างกาย หรือที่ยึดถือครอบครองไว้นั้นออกให้หมด ”
วิธีการสวดพระปริตร
นั่งคุกเข่า/พับเพียบ (หรือสะดวกท่าไหนก็นั่งท่านั้นได้ เช่น นั่งเก้าอี้ เป็นต้น) พนมมือขึ้น ตั้งใจระลึกถึงพระรัตนตรัย แล้วกล่าวว่า
ขออํานาจ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จงบันดาลสัญญาณ ใจของข้าพเจ้าให้ถึงแก่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อันทรงคุณค่า หาประมาณไม่ได้ บัดนี้ ข้าพเจ้าจะสวดประกาศพระปริตร ขออํานาจแห่งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จงรับรู้รับทราบ สัญญาณข้าพเจ้าในเวลานี้ด้วยเถิด
(ต่อนี้ไปให้ตั้งใจระลึกนอบน้อมถึงพระรัตนตรัย)
ขอความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง
ข้าพเจ้าระลึกถึงพระพุทธเจ้า กับทั้งพระธรรม และพระสงฆ์ว่าเป็นที่พึ่ง ทําจัดภัยได้จริง
แม้วาระที่ ๒ ข้าพเจ้าระลึกถึงพระพุทธเจ้า กับทั้งพระธรรม และพระสงฆ์ ว่าเป็นที่พึ่ง กําจัดภัยได้จริง
แม้วาระที่ ๓ ข้าพเจ้าระลึกถึงพระพุทธเจ้า กับทั้งพระธรรม และพระสงฆ์ ว่าเป็นที่พึ่ง กําจัดภัยได้จริง
ที่พึ่งอื่นของข้าพเจ้าไม่มี พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้า
ที่พึ่งอื่นของข้าพเจ้าไม่มี พระธรรมเป็นที่พึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้า
ที่พึ่งอื่นของข้าพเจ้าไม่มี พระอริยสงฆ์เป็นที่พึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้า
โทษอันใดที่ข้าพเจ้าได้ล่วงละเมิดในพระพุทธเจ้า พระธรรมพระสงฆ์ ขออํานาจแห่งพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ จงอดโทษ จงอภัยแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด ข้าพเจ้าจะระมัดระวังสํารวมใพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ต่อไป
ข้าพเจ้า นาย/นาง………..นามสกุล……………..ความเดือดร้อน………………. (แจ้งเหตุแห่งความเดือดร้อน เช่น ข้าพเจ้า เจ็บป่วย ข้าพเจ้าถูกก่อกวนจากอมนุษย์ ผี ปีศาจ ยักษ์ ฯลฯ)
ขออํานาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จงบันดาล ให้อํานาจพระปริตรที่ข้าพเจ้าได้สวดประกาศนี้ มีฤทธิ์ มีอานุภาพ กั้นกระแสแห่งอกุศลวิบากที่ทําให้ข้าพเจ้าได้รับความเดือดร้อนอยู่
ในเวลานี้และจงเปิดทางให้กุศลวิบากนําผลมาแก้ไขอาการ…….(เจ็บป่วย หรือผี ปีศาจก่อกวนในตัว) …. ให้ข้าพเจ้ากลับมาเป็นปกติด้วยเถิด
*หมายเหตุ หากไม่มีเหตุแห่งความเดือดร้อน ก็ให้ข้ามบทนี้ไปไม่ต้องกล่าวประกาศ
รัตนปริตร
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสรัตนสูตรเป็นคาถาว่าดังนี้
(เริ่มสวดประกาศตั้งแต่นี้ไป…)
ชาวทิพย์ทั้งหลายเหล่าใดสถิตอยู่ภาคพื้นดิน หรือเหล่าใด อยู่ภาคอากาศ ซึ่งรวมกันในที่แห่งนี้ ขอชาวทิพย์ทั้งหลายเหล่านั้น
จงเบิกบานใจ รับฟังถ้อยคําโดยเคารพเถิด
เพราะฉะนั้น ขอชาวทิพย์ทั้งหมดจงตั้งใจฟัง จงมีเมตตาจิต ในหมู่มนุษย์ มนุษย์เหล่าใด ย่อมทําการอุทิศบุญให้ทั้งกลางวัน และกลางคืน ด้วยเหตุนั้น เหล่าชาวทิพย์ทั้งหลายจงอย่าประมาท ในการช่วยเหลือรักษามนุษย์เหล่านั้น
ทรัพย์เครื่องปลื้มใจอย่างใดอย่างหนึ่ง ในโลกนี้หรือโลกอื่น หรือรัตนะใดอันประณีตในสวรรค์ ทรัพย์เครื่องปลื้มใจและรัตนะ อันนั้น ที่จะเสมอด้วยพระตถาคตไม่มี
ข้อนี้ เป็นรัตนะอันประณีตใน พระพุทธเจ้า ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความปลอดภัยจากสิ่งชั่วร้ายจงมีแก่ข้าพเจ้า
พระศากยมุนีผู้มีพระหฤทัยตั้งมั่น ทรงบรรลุธรรมใด อันเป็นที่สิ้นกิเลส ปราศจากราคะ เป็นอมตธรรม ประณีต สิ่งไร ๆ ที่เสมอด้วยพระธรรมนั้นไม่มี
ข้อนี้ เป็นรัตนะอันประณีตใน พระธรรม ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความปลอดภัยจากสิ่งชั่วร้ายจงมีแก่ข้าพเจ้า
พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด ทรงสรรเสริญสมาธิอันใดว่าเป็นธรรมสะอาด ปราชญ์ทั้งหลายกล่าวสมาธิอันใดว่าให้ผลโดยลําดับ
สมาธิอื่นที่เสมอด้วยสมาธิอันนั้นไม่มี
ข้อนี้ เป็นรัตนะอันประณีตใน พระธรรม ด้วยสัจจวาจานี้ ฃอความปลอดภัยจากสิ่งชั่วร้ายจงมีแก่ข้าพเจ้า
พระสาวกของพระสุคตเจ้า ผู้เป็นพระอริยบุคคล ๘ จําพวก แบ่งเป็น ๔ คู่ อันสัตบุรุษทั้งหลายสรรเสริญแล้ว ท่านเหล่านั้น เป็นผู้ควรแก่ทักษิณาทาน ทานทั้งหลายที่เขาถวายในพระอริยบุคคล เหล่านั้น ย่อมมีผลมาก
พระอริยบุคคล ๘ จําพวก แบ่งเป็น ๔ คู่ ได้แก่ บุคคลที่ปฏิบัติเข้า ถึงคุณธรรมเหล่านี้ คือ, คู่ที่ ๑ โสดาปัตติมรรค – โสดาปัตติผล, คู่ที่ ๒ สกทาคามิมรรค – สกทาคามิผล, คู่ที่ ๓ อนาคามิมรรค – อนาคามิผล, คู่ที่ ๔ อรหัตมรรค – อรหัตผล
ข้อนี้ เป็นรัตนะอันประณีตใน พระสงฆ์ ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความปลอดภัยจากสิ่งชั่วร้ายจงมีแก่ข้าพเจ้า
พระอรหันต์เหล่าใดประกอบดีแล้ว มีใจมั่นคงในศาสนา ของพระพุทธโคดม เป็นผู้ปราศจากความอาลัย พระอริยบุคคลเหล่านั้น ถึงพระอรหัตที่ควรถึง หยั่งเข้าสู่พระนิพพาน ดับกิเลสได้แล้ว เสวยผลอยู่
ข้อนี้ เป็นรัตนะอันประณีตใน พระสงฆ์ ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความปลอดภัยจากสิ่งชั่วร้ายจงมีแก่ข้าพเจ้า
เสาหลักใหญ่ที่ฝังดินดีแล้ว ไม่หวั่นไหวด้วยพายุจาก ๔ ทิศฉันใด บุคคลเหล่าใดได้เห็นอริยสัจทั้งหลาย พระตถาคตเรียกผู้นั้น ว่า เป็นสัตบุรุษผู้ไม่หวั่นไหวด้วยโลกธรรม ฉันนั้น
ข้อนี้ เป็นรัตนะอันประณีตใน พระสงฆ์ ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความปลอดภัยจากสิ่งชั่วร้ายจงมีแก่ข้าพเจ้า
พระโสดาบันจําพวกใด ทําให้แจ้งอริยสัจที่พระศาสดา ผู้มีปัญญาลึกซึ้งทรงแสดงไว้ดีแล้ว ถึงแม้ว่าพระโสดาบันจําพวกนั้นจะเป็นผู้ประมาทอย่างแรงกล้า ท่านก็ไม่ถือเอาภพที่ ๘
ข้อนี้ เป็นรัตนะอันประณีตใน พระสงฆ์ ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความปลอดภัยจากสิ่งชั่วร้ายจงมีแก่ข้าพเจ้า
ความเห็นผิดในกาย (สักกายทิฏฐิ) ความสงสัยในพระนิพพาน (วิจิกิจฉา) ความถือผิดอย่างงมงาย (สีลัพพตปรามาส) อย่างใดอย่างหนึ่ง มีอยู่ สังโยชน์ธรรมเหล่านั้นย่อมเป็นอันพระโสดาบันละได้แล้ว พร้อมด้วย ปัญญาอันเห็นแจ้งทีเดียว อนึ่ง พระโสดาบันเป็นผู้พ้นแล้วจากอบาย ทั้ง ๔ ไม่อาจทําอภิฐาน ๖ แน่
ข้อนี้ เป็นรัตนะอันประณีตใน พระสงฆ์ ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความปลอดภัยจากสิ่งชั่วร้ายจงมีแก่ข้าพเจ้า
ถึงแม้ว่าพระโสดาบันนั้น ยังทําบาปกรรมทางกาย วาจาหรือใจ ไปบ้าง (เพราะความพลาดพลั้ง) ท่านก็ไม่อาจจะปกปิดบาปกรรมนั้นได้ พระพุทธเจ้าก็ตรัสความที่พระโสดาบันผู้เห็นบท คือ พระนิพพานแล้ว
ไม่อาจปกปิดบาปกรรมนั้นไว้
อบาย ๔ คือ ภาวะหรือที่ปราศจากความสุขความเจริญ
๑. นิรยะ – นรก ภาวะเร่าร้อนกระวนกระวาย
๒. ติรัจฉานโยนิ – กําเนิดในสัตว์เดรัจฉาน พวกมืดมัวโง่เขลา
๓. ปิตติวิสัย – แดนเปรต ภูมิของผู้หิวกระหาย
๔. อสุรกาย – พวกอสูร พวกหวาดหวั่นไร้ความรื่นเริง
อภิฐาน ๖ มี อนันตริยกรรม ๕ และการเข้ารีตนับถือลัทธิศาสนา อื่น อนันตริยกรรม ๕ หมายถึงกรรมที่หนักมาก หากได้ทําลงไปแล้ว เมื่อตาย ไปย่อมส่งนําไปสู่นรกเท่านั้น โดยที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ได้แก่ ๑. ฆ่ามารดา ๒. ฆ่าบิดา ๓. ฆ่าพระอรหันต์ ๔. ทําร้ายพระพุทธเจ้าจนถึง ขั้นพระโลหิตห้อ (ห้อเลือด) ๕. ทําสงฆ์ให้แตกจากกัน
ข้อนี้ เป็นรัตนะอันประณีตใน พระสงฆ์ ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความปลอดภัยจากสิ่งชั่วร้ายจงมีแก่ข้าพเจ้า
พุ่มไม้งามในป่า ที่แตกยอดอ่อนสะพรั่ง ในเดือนแรกของฤดูร้อน แห่งฤดูร้อน ฉันใด พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงแสดงธรรมอันประเสริฐ อันให้ถึงพระนิพพาน เพื่อประโยชน์อย่างยิ่งแก่สัตว์ทั้งหลาย ก็อุปมาฉันนั้น
ข้อนี้ เป็นรัตนะอันประณีตใน พระพุทธเจ้า ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความปลอดภัยจากสิ่งชั่วร้ายจงมีแก่ข้าพเจ้า
พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐ ทรงรู้ธรรมอันประเสริฐ ประทานธรรม อันประเสริฐ ทรงนํามาซึ่งธรรมอันประเสริฐ เป็นผู้ยอดเยี่ยม ได้ทรง แสดงธรรมอันประเสริฐ
ข้อนี้ เป็นรัตนะอันประณีตใน พระพุทธเจ้า ด้วยสัจจวาจานี้ ฃอความปลอดภัยจากสิ่งชั่วร้ายจงมีแก่ข้าพเจ้า
กรรมเก่าของพระอริยบุคคลเหล่าใดสิ้นแล้ว กรรมสมภพใหม่ ย่อมไม่มี พระอริยบุคคลเหล่าใดมีจิตอันหน่ายแล้วในภพต่อไป พระอริยบุคคลเหล่านั้นมีพืชสิ้นแล้วมีความพอใจงอกไม่ได้แล้วเป็นผู้มีปัญญา ย่อมปรินิพพาน ดับสนิทเหมือนดวงประทีป ฉันนั้น
ข้อนี้ เป็นรัตนะอันประณีตใน พระสงฆ์ ด้วยสัจจวาจานี้ ขอความปลอดภัยจากสิ่งชั่วร้ายจงมีแก่ข้าพเจ้า
* มีพืชสิ้นแล้ว หมายความว่า ผู้ถอนอวิชชา (ความไม่รู้ในอริยสัจ) ตัณหา (ความอยาก) อุปาทาน (ความยึดถือ) ได้สิ้นแล้วซึ่งหมายถึงพระ อรหันต์นั่นเอง
ชาวทิพย์เหล่าใดสถิตภาคพื้นดิน หรือเหล่าใดสถิตอยู่ภาคอากาศ ได้รวมกันในที่แห่งนี้ ขอพวกเราจงร่วมกันนอบน้อม พระพุทธเจ้า ขอพวกเราจงร่วมกันนอบน้อม พระธรรม ขอพวกเรา จงร่วมกันนอบน้อมพระสงฆ์ ผู้อันเทวดาและมนุษย์บูชากันมาแล้ว ขอความปลอดภัยจากสิ่งชั่วร้าย จงมีแก่ข้าพเจ้า
หมายเหตุ
คําว่า ข้าพเจ้า หากสวดประกาศเพื่อผู้อื่น ให้เปลี่ยนจากคําว่า ข้าพเจ้า เป็นคําว่า ท่าน หรือจะเอ่ยชื่อ-นามสกุลของผู้ที่ต้องการแก้ไข ให้ก็ได้