ข่าวไลฟ์สไตล์

เปิดคำพิพากษาศาลฎีกา กรณีฟ้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อเกิดเหตุไฟไหม้จากหม้อแปลงไฟฟ้า

ไฟไหม้สำเพ็ง เอาผิดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ? เพจ Drama-addict เปิดคำพิพากษาศาลฎีกา เป็นแนวทางให้ประชาชน กรณีฟ้องร้องเอาผิดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อเกิดเหตุไฟไหม้จากหม้อแปลงไฟฟ้า

วันที่ 27 มิถนายน 2565 เฟซบุ๊กแฟนเพจ Drama-addict มีการเคลื่อนไหวในประเด็นเกี่ยวกับการดำเนินคดีฟ้องร้องเอาผิดทางกฎหมาย กรณีที่ประชาชนเป็นฝ่ายฟ้องร้องเอาผิดหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง เมื่อเกิดเหตุไฟไหม้จากหม้อแปลงไฟฟ้า ท่ามกลางข่าวสลด ไฟไหม้สำเพ็ง ที่คร่าชีวิตผู้เคราะห์ร้ายไป 2 ศพ ผู้บาดเจ็บ 9 ราย ความเสียหายรวม 4 คูหากับรถยนต์ที่จอดริมถนนอีก 2 คัน โดยข้อความในโพสต์ของเพจดราม่าเจ้าดังก็ได้ระบุเนื้อหาไว้ ดังนี้

“มีคำพิพากษาศาลฎีกาเป็นแนวทางด้วยแฮะ เกี่ยวกับปชช ฟ้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อเกิดเหตุไฟไหม้จากหม้อแปลงไฟฟ้า สายไฟฟ้าซึ่งมีกระแสไฟฟ้าเดินอยู่และหม้อแปลงไฟฟ้าเป็นทรัพย์อันเป็นของเกิดอันตรายได้โดยสภาพ จำเลยผู้มีทรัพย์ดังกล่าวไว้ในครอบครองจึงต้องรับผิดเพื่อความเสียหายที่เกิดจากทรัพย์ดังกล่าว เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าความเสียหายนั้นเกิดแต่เหตุสุดวิสัยหรือเกิดเพราะความผิดของผู้ต้องเสียหายนั้นเองตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 437 แม้จำเลยมิได้ประมาทเลินเล่อทำให้เกิดไฟไหม้ จำเลยก็ต้องรับผิดในความเสียหายของโจทก์อันเกิดจากสายไฟฟ้าและหม้อแปลงไฟฟ้าของจำเลยเช่นนั้น”

ก่อนจะแปะลิงก์ต้นทาง Smart Deka เว็บไซต์ที่ไว้ใช้สำหรับศึกษา – ค้นคว้า ข้อมูลวิชาการด้านกฎหมาย โดยทุกคนสามารถคลิกเข้าไปอ่านคำพิพากษาเกี่ยวกับการฟ้องร้องเอาผิดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกรณีหม้อปลงไฟฟ้าระเบิดจนทำให้เกิดเพลิงไหม้ฉบับเต็มกันได้ที่นี่ คลิกที่นี่

หม้อแปลงไฟฟ้า
ภาพ Facebook Drama-addict

ลูกจ้างร้านถุงพลาสติก เล่าวินาที สลด

ลูกจ้างร้านขายถุงพลาสติก ผู้รอดชีวิต กล่าวถึงเหตุการณ์วันเกิดเพลิงไหม้ว่า หลังจากทำงานเสร็จ สักพักสังเกตเห็นของเหลวไหลไหลทะลักออกจากหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่ติดตั้งอยู่บริเวณหน้าร้านจากนั้นเกิดเสียงระเบิดดังขึ้น 2 ครั้ง ตนเองต้องรีบวิ่งข้ามถนนหนีตายไปอยู่ฝั่งตรงข้าม จากนั้นเปลวเพลิงก็ลุกลามจากหม้อแปลงไฟฟ้าเข้าสู่ตัวอาคารอย่างรวดเร็ว

ชัชชาติ นัดคุย การไฟฟ้า​นครหลวง เร่งแก้ปัญหา เอาสายไฟลงดิน

ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังการลงพื้นที่วันนี้ (27 มิ.ย.65) ว่า ความเสียหายที่ได้รับรายงานเบื้องต้น มีอาคารที่ได้รับความเสียหาย 6 คูหา โดยมี 1 คูหา ที่พบว่าพื้นชั้นสองทรุดตัวลงมา ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิต​ 2 ราย และมีพนักงานดับเพลิงบาดเจ็บ 9 ราย

นอกจากนี้ พบรถยนต์​เสียหาย 3 คัน รถจักรยานยนต์​ 1 คัน ซึ่งต้องตรวจสอบสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง เพราะโดยปกติสายไฟไม่สามารถ​ไหม้เองได้ แต่ยอมรับว่า สายไฟและสายสื่อสารก็เป็นอุปสรรค​ในการเข้าควบคุม​เพลิงของเจ้าหน้าที่ โดยในสัปดาห์หน้า​จะมีการหารือกับการไฟฟ้า​นครหลวง และเจ้าของบริษัทสายสื่อสาย เพื่อหาแนวทางแก้ไขด้านความปลอดภัยร่วมกัน และเร่งรัดโครงการนำสายไฟและสายสื่อสารลงใต้ดินให้เร็วที่สุดด้วย

รองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง ย้ำยังให้ความสำคัญช่วยเหลือ เยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ

นายพิพัฒน์ ชลอำไพ รองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง กล่าวเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.65 ว่า สำหรับสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ที่มีการนำเสนอข่าวว่าอาจมีสาเหตุมาจากหม้อแปลงไฟฟ้านั้น ขณะนี้ MEA ยังอยู่ในระหว่างการร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบโดยละเอียดเพื่อหาสาเหตุข้อเท็จจริง โดยเฉพาะหม้อแปลงไฟฟ้าในจุดเกิดเหตุ ที่มีรูปแบบเป็นหม้อแปลงวงจรตาข่าย (Network transformer) มีการเชื่อมโยงของระบบของระบบไฟฟ้าในพื้นที่ให้มีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น ซึ่งตามมาตรฐานของหม้อแปลงไฟฟ้าจะมีระบบป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรอัตโนมัติ เช่นเดียวกับหม้อแปลงไฟฟ้าในจุดเกิดเหตุครั้งนี้

MEA ได้ตรวจสอบพบภายหลังจากเพลิงสงบว่า มีการแสดงผลการทำงานของระบบป้องกันแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการตรวจสอบว่าการทำงานของระบบป้องกันที่เกิดขึ้นมีความสมบูรณ์หรือไม่อีกครั้งหนึ่ง

ทั้งนี้ MEA ยังคงให้ความสำคัญในการช่วยเหลือและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบในระยะเร่งด่วนตามมาตรการฉุกเฉินที่ MEA กำหนดไว้ รวมถึงการประสานงานกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่เพื่อหาสาเหตุข้อเท็จจริง และร่วมวางแนวทางป้องกันเพื่อความปลอดภัยให้กับประชาชนต่อไป

 

 

 

 

 

 

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button