ประวัติ นาดาวบางกอก 12 ปี ตำนานต้นกำเนิด “ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น” ทำไมวันนี้ถึงปิดตัว
ประวัติ นาดาวบางกอก ถือเป็นข่าวเศร้าสำหรับแฟน ๆ ซีรีส์ไทยทีเดียว สำหรับข่าวบริษัทผู้ผลิตซีรีส์วัยรุ่นของไทยอย่าง นาดาวบางกอกประกาศปิดตัว ลงอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มิถุนายน 2565 นี้ หลังจากได้สร้างตำนานและฝากผลงานดี ๆ ไว้มากมายตลอดระยะเวลา 12 ปี วันนี้ The thaiger เลยอยากจะพาทุกคนไปย้อนชมประวัติ ผลงานเด่น และรายชื่อนักแสดงมากความสามารถของนาดาวบางกอก ผู้สร้างตำนาน ซีรีส์ฮอร์โมนส์ โดยจะมีอะไรบ้าง ไปชมพร้อมกันได้เลย
ประวัติ นาดาวบางกอก ตั้งแต่จุดเริ่มต้นสู่ปัจจุบัน ในฐานะผู้ผลิตซีรีส์วัยรุ่นไทย ตลอดระยะเวลา 12 ปี
นาดาวบางกอก ก่อนจะมาเป็นค่ายซีรีส์ดังของไทย
“นาดาว” คำ ๆ นี้มีความหมายว่า “ทุ่งนาที่ปลูกเหล่าดวงดาว” ซึ่งหากจะพูดถึงจุดเริ่มต้นของทุ่งนาที่เต็มไปด้วยดวงดาวเจิดจรัสแห่งนี้ ก็คงต้องย้อนกลับไปเมื่อช่วงปี 2552 ซึ่งในตอนนั้นนาดาวบางกอกได้จัดตั้งขึ้นมาเป็นบริษัท เพื่อดูแลศิลปินของ GTH โดยมี ทรงยศ สุขมากอนันต์ ผู้กำกับหนังดังของไทย ทำหน้าที่ในการบริหารจัดการให้เป็นไปด้วยความสะดวกเรียบร้อย ซึ่งเขาได้รับหน้าที่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน
จากนั้นในช่วงปี 2556 นาดาวบางกอก ได้เริ่มขยับขยายบทบาทหน้าที่ของตนเองในวงการบันเทิง จากเดิมที่แค่ดูแลศิลปินในสังกัด GTH ก็เริ่มหันมาเป็นฝ่ายผลิตรายการโทรทัศน์เพื่อส่งเสริม และพัฒนาศักยภาพศิลปิน รวมถึงบุคลากรในบริษัท โดยทรงยศ ที่มีฝีมือในการกำกับหนัง ได้ส่งผลงานชิ้นแรกในนามของนาดาวบางกอก ออกมาให้ทุกคนได้ชมกันในชื่อ Hormones วัยว้าวุ่น ซึ่งในระหว่างนั้น ทางนาดาวมีจำนวนพนักงานน้อยมาก ทำให้ทุกคนต้องมาช่วยในการถ่ายทำซีรีส์ จนไม่สามารถรับงานอื่นได้ จนรายได้ของบริษัทลดฮวบ เหลือกำไรต่อปีแค่ 26,000 บาทเท่านั้น
แต่ด้วยกระแสของซีรีส์ Hormones วัยว้าวุ่น ที่ดีเกินคาด ค่ายนาดาวก็ได้กลายเป็นที่พูดถึง จนมีผู้สนับสนุนหลายรายเข้ามา ส่งผลให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนสามารถนำไปต่อยอด เป็นหนทางสู่การกลายเป็นผู้ผลิตซีรีส์วัยรุ่นไทยในตำนานอย่างที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน โดยตลอดระยะเวลา 12 ปีที่ผ่านมา นาดาวบางกอก ได้สร้างชื่อให้ศิลปินมากมาย ทั้งยังฝากผลงานดี ๆ ให้เราได้ชมกันกว่าสิบเรื่องด้วยกัน ก่อนที่ค่ายจะประกาศยุติบทบาททั้งหมด เพื่อปล่อยให้ดวงดาวของตน ได้ออกไปเติบโตอย่างอิสระ ในวันที่ 1 มิถุนายน 2565
ผลงานซีรีส์ จากค่ายนาดาวบางกอก
สำหรับผลงานการผลิตรายการโทรทัศน์ ซีรีส์วัยรุ่นของนาดาวบางกอกนั้น เรียกได้ว่าไม่เคยทำให้ผิดหวังเลย เพราะแต่ละเรื่องนั้นมีความเข้มข้น และฉีกกรอบแนวละครเดิม ๆ ของไทยอย่างสิ้นเชิง ซึ่งนั่นเป็นเหตุผล ที่ทำให้ค่ายนาดาวบางกอก ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้ชมเสมอมา
โดยหลังจากที่นาดาวได้ปล่อยผลงานซีรีส์ Hormones วัยว้าวุ่น จนโด่งดังไปทั่วโลกออนไลน์ออกมาในช่วงปี 2556 แล้วนั้น นาดาวก็ได้เดินหน้าต่อด้วยการผลิต Hormones วัยว้าวุ่น ซีซีน 2 ก่อนจะหันไปทำมินิซีรีส์เรื่องใหม่อย่าง STAY ซากะ..ฉันจะคิดถึงเธอ ซึ่งออกฉายทางไลน์ทีวีเมื่อปี 2558 และในปีเดียวกันนั้น นาดาวก็ได้ปิดฉากซีรีส์ชุด Hormones วัยว้าวุ่น ด้วยภาค 3 ลงได้อย่างสวยงาม จนได้รับกระแสความนิยมไปทั่วประเทศ
จากนั้นในปี 2559 นาดาวบางกอก ก็ได้ปล่อยผลงานซีรีส์เรื่องใหม่อย่าง I Hate You, I Love You ซึ่งเป็นเรื่องราวของความสัมพันธ์ระหว่างคน 5 คน ในวันเวลา 5 วันออกมาให้เราได้ชม จนติดเทรนด์ทวิตเตอร์อยู่หลายครั้ง ทั้งนี้ หลังจากผ่านไปเพียงไม่กี่เดือน นาดาวก็ได้ส่งผลงานชิ้นใหม่ ที่ได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลามออกมา นั่นก็คือ โปรเจกต์ เอส เดอะซีรีส์ ซีรีส์ชุดที่ว่าด้วยเรื่องราวของวงการกีฬา 4 ประเภท ทำให้เราได้เห็นศักยภาพในการแสดงของเด็ก ๆ ภายใต้การดูแลของนาดาวบางกอกกันอย่างเต็มที่ ซึ่งแต่ละเรื่องนั้น มีความแปลกใหม่แบบที่แฟนละครไทยไม่เคยมีโอกาสได้เห็นมาก่อน
แต่สิ่งที่ทำให้นาดาวดูเหมือนจะกลายเป็นตำนานอย่างแท้จริง ก็คือซีรีส์เรื่อง เลือดข้นคนจาง ซึ่งออกฉายเมื่อปี 2561 จนสร้างตำนาน “ใครฆ่าประเสริฐ” ไปทั่วประเทศ ก่อนที่จะหันมาทำซีรีส์วัยรุ่นต่อในเรื่อง Great Men Academy สุภาพบุรุษสุดที่เลิฟ และ My Ambulance รักฉุดใจนายฉุกเฉิน เมื่อปี 2562 ทว่าหลังจากนั้นไม่นาน นาดาวก็ได้หันมาลองเส้นทางใหม่ในฐานะผู้ผลิตซีรีส์ ด้วยการปล่อยผลงานซีรีส์วายเรื่องแรกของค่ายในชื่อ แปลรักฉันด้วยใจเธอ จนกลายเป็น talk of the town ไปทั่วโลกจวบจนปัจจุบัน
นักแสดงภายใต้สังกัด นาดาวบางกอก
นอกจากที่ซีรีส์จะดีแล้วนั้น ทางนาดาวบางกอก ยังอุดมไปด้วยเหล่านักแสดงมากความสามารถเกือบ 30 ชีวิต ซึ่งหลายคนน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี เช่น ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์, เต๋อ ฉันทวิชช์, ต่อ ธนภพ, โอบ นิธิ, แบงค์ ธิติ, สกาย วงศ์รวี, บิวกิ้น พุฒิพงศ์ และ พีพี กฤษฏ์ เป็นต้น
นอกจากนี้แล้ว อดีตดาราศิลปินหลายคนของนาดาว ก็ได้ออกเติบโตในวงการบันเทิงกันอีกเพียบ ซึ่งแต่ละคนนั้น เรียกได้ว่าโด่งดังจนติดท็อปของประเทศเลยก็ว่าได้ เช่น เจมส์ ธีรดนย์, เจเจ กฤษณภูมิ, ต้าเหนิง กัญญาวีร์, แพรวา ณิชาภัทร, ฝน ศนันธฉัตร และนนกุล ชานน เป็นต้น
ทั้งนี้ นอกจากที่จะเป็นค่ายผลิตซีรีส์ดังแล้วนั้น นาดาวบางกอก ยังมีค่ายเพลงภายใต้การดูแลของตัวเองอีกด้วย นั่นก็คือ นาดาว มิวสิค ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อส่งเสริม และพัฒนาศักยภาพในการร้องเพลงของศิลปิน ซึ่งมีศิลปินในสังกัดนาดาวมิวสิคทั้งหมด 4 คน ได้แก่ บิ้วกิน พุฒิพงศ์, พีพี กฤษฏ์, นาน่า ศวรรยา และไอซ์ พาริส
การปิดตัวลงของนาดาวบางกอก
นาดาวบางกอกปิดตัวเพราะอะไร
อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่า นาดาวบางกอกได้ประกาศปิดตัวลงอย่างเป็นทางการแล้ว โดยทางค่ายนาดาวได้ออกแถลงผ่านทางโซเชียลมีเดียทุกช่องทาง โดยให้เหตุผลว่า เป็นการเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้มีอิสระเพื่อเติบโต และเริ่มต้นเส้นทางใหม่ในแบบของตัวเอง โดยงานที่ยังคงค้างไว้ เช่น ซีรีส์ จะถูกส่งต่อให้โปรดิวเซอร์และผู้กำกับเพื่อตัดสินใจกันต่อไป
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลา 12 ปีของค่ายนาดาวบางกอก ถือได้ว่าเป็นการเติบโตที่เดินทางมาไกลมากทีเดียว ซึ่งหากมองย้อนกลับไปในจุดเริ่มต้น บริษัทมีรายได้ต่อปีอยู่แค่เพียง 26,000 บาทเท่านั้น แต่ด้วยความมุ่งมั่นของทั้งนักแสดง ทีมงาน และผู้บริหาร ต่างก็ทำให้นาดาวค่อย ๆ ขยับขยายขึ้นมา จนกวาดกำไรเพิ่มขึ้นได้อย่างก้าวกระโดด ซึ่งจากรายงานของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่าเมื่อปี 2563 นาดาวบางกอก ได้มีรายได้สุทธิทั้งสิ้น 313 ล้านบาท ซึ่งเป็นกำไรกว่า 29 ล้านบาทเลยทีเดียว
แม้จะเป็นเรื่องน่าเศร้าที่ค่ายซีรีส์ไทยในตำนานอย่างนาดาวบางกอกได้สิ้นสุดลง แต่เมื่อพิจารณาจากบทบาทและ ประวัติ นาดาวบางกอก ย้อนหลัง ก็พบว่า นาดาวได้ทำหน้าที่สื่อที่มีคุณภาพมาอย่างสม่ำเสมอ ทั้งยังผลิตคลื่นลูกใหม่ของวงการบันเทิงออกมาให้เราได้ชื่นชมกันอีกหลายคน ทั้งนี้ หากใครที่เป็นแฟนคลับของนักแสดงจากค่ายนาดาว ก็ต้องจับตามองและติดตาม ทิศทางผลงานต่อไปในอนาคตของพวกเขากันด้วยนะ ?