ครม. ไฟเขียว! ขยายเวลา ‘สินเชื่อเพื่อพัฒนาเกษตรแปลงใหญ่’
ครม. ทำการอนุมัติให้มีการขยายเวลา สินเชื่อเพื่อพัฒนาเกษตรแปลงใหญ่ และทำการปรับวงเงินสินเชื่อที่ยืดหยุ่นรองรับความต้องการเกษตรกร
เมื่อวานนี้ (11 ม.ค. 2565) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2565 ว่า ตามที่รัฐบาลได้ดำเนินโครงการสนับสนุน สินเชื่อเพื่อพัฒนาเกษตรแปลงใหญ่ จำนวน 2,000 แปลง แปลงละไม่เกิน 10 ล้านบาท กรอบวงเงินโครงการรวม 23,000 ล้านบาท ผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งสิ้นสุดระยะเวลาการจ่ายเงินกู้ของโครงการแล้วเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2564 (เงื่อนไขเกษตรแบบแปลงใหญ่ มีขนาดพื้นที่รวมกันไม่น้อยกว่า 300 ไร่ และ/หรือมีเกษตรกรเข้าร่วมไม่น้อยกว่า 30 ราย ขึ้นอยู่กับพืชเกษตร) แต่ยังมีเกษตรกรที่ต้องการขอสินเชื่อและอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมจำนวนมาก อีกทั้งยังมีการรวมกลุ่มเกษตรกรจัดตั้งเป็นแปลงใหญ่อย่างต่อเนื่อง และแปลงใหญ่บางแปลงมีความจำเป็นต้องใช้สินเชื่อมากกว่าวงเงินที่โครงการกำหนด
ดังนั้น ครม. จึงมีมติอนุมัติขยายระยะเวลาการจ่ายเงินกู้โครงการสนับสนุน สินเชื่อเพื่อพัฒนาการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยขยายระยะเวลาการจ่ายเงินกู้โครงการออกไปสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2569 (จากเดิมที่สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564) ภายใต้กรอบวงเงินโครงการเดิมที่เหลืออยู่ และขยายระยะเวลาดำเนินการโครงการออกไปสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2575 (จากเดิมที่สิ้นสุด 30 เมษายน 2570)
มากไปกว่านั้น ครม.ยังได้อนุมัติปรับรายละเอียดโครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อพัฒนาการเกษตรแบบแปลงใหญ่ จากเดิมที่สนับสนุนสินเชื่อให้สหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน แปลงละไม่เกิน 10 ล้านบาท โดยปรับเป็น
1) สหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร ไม่เกินวงเงินกู้ที่นายทะเบียนกำหนด ใช้เกณฑ์พิจารณาอนุมัติสินเชื่อแบ่งตามขนาด ประเภทธุรกิจชั้นคุณภาพของสหกรณ์การเกษตรกลุ่มเกษตรกร และศักยภาพความสามารถในการชำระหนี้คืน
2) วิสาหกิจชุมชนเป็นไปตามแผนธุรกิจของกลุ่มแปลงใหญ่
นางสาวรัชดา กล่าวเพิ่มเติมว่า การขยายระยะเวลาโครงการนี้ จะช่วยกระตุ้นการลงทุนในโครงสร้างการผลิตภาคเกษตร อันจะเป็นการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและยกระดับเป็นเกษตรสมัยใหม่ ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นจากสินค้าและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่มีคุณภาพและมีความหลากหลาย
แหล่งที่มาของข่าว : รัฐบาลไทย
สามารถติดตามข่าวการเงินเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวการเงิน