The Thaiger จะพาไปดูกันถึงเงื่อนไขในการ สมัครร่วมขายลอตเตอรี่ จากทางสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยเปิดรับสมัครเป็นจำนวน 2 แสนราย
(24 ธ.ค. 2564) สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้ทำการเปิดเผยถึงเงื่อนไข และขั้นตอนการดำเนินการสำหรับการลงทะเบียนในระบบซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาล (สมัครร่วมขายลอตเตอรี่) จำนวน 200,000 ราย ซึ่ง The Thaiger จะพาไปดูกันถึงข้อมูลดังกล่าวให้ได้ทราบกัน
เริ่มด้วยในส่วนของคุณสมบัติของผู้ประสงค์ต้องการสมัครในโครงการดังกล่าวที่มีด้วยกันดังต่อไปนี้
– สัญชาติไทย
– มีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 80 ปีบริบูรณ์ หากอายุเกิน 70 ปี ต้องมีใบรับรองแพทย์ว่าสุขภาพร่างกายแข็งแรง สามารถจำหน่ายสลากด้วยตนเองได้
– มีภูมิลำเนาในเขตที่ตนเองจะเป็นผู้มีสิทธิซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ มาไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับถึงวันที่สมัครเป็นผู้มีสิทธิซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ ภูมิลำเนาดังกล่าวให้ถือเอาตามทะเบียนบ้าน
– มีความสามารถจำหน่ายสลากได้ด้วยตนเอง
– ไม่เป็นโรคติดต่อซึ่งเป็นที่น่ารังเกียจของสังคม หรือไม่เป็นพาหะนำโรคติดต่อ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด
– เป็นผู้ที่ได้รับสลากเพียงระบบเดียวหมายถึง ไม่เป็นตัวแทนจำหน่าย และให้หมายความรวมถึง สมาชิกของตัวแทนจำหน่ายที่เป็นนิติบุคคล ซึ่งได้รับการจัดสรรสลากจากสมาคม มูลนิธิ หรือองค์กรการกุศลนั้น ๆ
– ไม่เป็นพนักงาน หรือลูกจ้างของสำนักงานฯ หรือลูกจ้างคู่สัญญาตามสัญญาจ้างเหมาบริการกับสำนักงานฯ หรือเป็นคู่สมรสโดยชอบด้วยกฎหมายของบุคคลดังกล่าว
– ไม่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ข้าราชการ พนักงานราชการ หรือลูกจ้างของส่วนราชการ ไม่ว่าจะเป็นราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค หรือส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐอื่น
– ไม่เป็นพระภิกษุ สงฆ์ นักพรต นักบวชทุกศาสนา เว้นแต่เป็นการบวชชั่วคราวตามประเพณีนิยม
– ต้องไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 พระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ.2533 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2537
กรณีคนพิการ ต้องมีบัตรประจำตัวคนพิการที่ออกโดยกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และหากไม่สามารถจำหน่ายสลากด้วยตัวเอง ไม่ให้นำความตาม (4) มาบังคับ แต่ต้องระบุผู้ดูแลที่แจ้งไว้กับกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการที่สามารถจำหน่ายสลากแทน และผู้ดูแลนั้นต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 1. ด้วย
ทางด้านของวิธีการสมัคร และการดำเนินการคัดเลือกนั้นมีด้วยกันดังนี้
1. สำนักงานฯ ออกประกาศเชิญชวนผู้ที่ประสงค์จะขึ้นบัญชีผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยให้ผู้สมัครทั้งส่วนกลาง (กรุงเทพมหานคร) และประจำจังหวัดยื่นสมัครผ่านเว็บไซต์ www.glo.or.th โดยให้ผู้สมัครแนบเอกสารหลักฐาน (อัพโหลดผ่านระบบการรับสมัคร) เช่น ทะเบียนบ้าน ฯลฯ พร้อมระบุสถานที่จำหน่าย และปณ.ที่จะรับสลาก ซึ่งจะต้องอยู่ในภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้าน พร้อมทั้งรับรองข้อมูลของตนเอง และยินยอมให้มีการตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคล ก่อนยืนยันการสมัคร
2. สำนักงานฯ นำข้อมูลรายชื่อผู้สมัครทั้งหมด คัดกรองคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ตามคุณสมบัติข้อ 1. หากพบว่าขาดคุณสมบัติ จะไม่นำรายชื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคัดเลือก
3. ให้สำนักงานฯ นำข้อมูลรายชื่อที่ผ่านการคัดกรองตามข้อ 2) มาแยกข้อมูลผู้สมัครเป็นรายจังหวัด เพื่อให้ทราบถึงจำนวนผู้สมัครในแต่ละจังหวัด แล้วนำมาคำนวณกำหนดสัดส่วนผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาลของแต่ละจังหวัดจากกรอบจำนวน 200,000 คน ดังนี้
- คณะกรรมการจัดทำบัญชีผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นผู้ดำเนินการจัดเรียงลำดับแบบสุ่ม (Random Sort) ทั้งส่วนกลางและรายจังหวัดตามสัดส่วนให้ครบตามจำนวนที่กำหนด โดยเชิญผู้ทรงคุณวุฒิ, บุคคลภายนอก และสื่อมวลชนร่วมเป็นสักขีพยาน
4. สำนักงานฯ นำรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกเสนอคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อพิจารณา ดังนี้
- อนุมัติรายชื่อผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเพื่อแต่งตั้งให้เป็นผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่งวดวันที่ 2 พฤษภาคม 2565 (ทำรายการจองในวันที่ 5 – 6 เมษายน 2565 และสลากซื้อในวันที่ 19 เมษายน 2565)
5. ให้ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งไปทำการยืนยันตัวตนที่ บมจ.กรุงไทย ภายในระยะเวลา 3เดือนนับตั้งแต่สำนักงานฯ มีประกาศ ทั้งนี้ หากพบว่าผู้ผ่านการคัดเลือกไม่ดำเนินการยืนยันตัวตน (KYC) ภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้ยกเลิกการเป็นผู้มีสิทธิทำรายการซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ
6. ให้สำนักงานฯ จัดทำบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิทำรายการซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ ที่ได้ผ่านการยืนยันตัวตนแล้ว โดยมีอายุ 2 ปี นับตั้งแต่วันที่เสนอรายงานสรุปต่อคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล และแจ้งยกเลิกการเป็นผู้มีสิทธิทำรายการซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ สำหรับผู้ที่ไม่ดำเนินการยืนยันตัวตนภายในระยะเวลาที่กำหนด
แหล่งที่มาของข่าว : เดลินิวส์ (Daily News)
สามารถติดตามข่าวเศรษฐกิจเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวเศรษฐกิจ
- กองสลาก แถลงแนวทางแก้ไขปัญหา หวยเกินราคา 3 ระยะ
- กยศ. แจง จะเร่งดำเนินการโอน เงินค่าครองชีพ ที่เหลือภายใน 30 ธ.ค.