ผู้พัฒนา Stalker 2 ยอมถอยหลังแผนการ NFT ถูกวิจารณ์เป็นอย่างมาก
หลังจากเพียงประกาศเปิดตัวแผนการประยุกต์ใช้งาน NFT ลงในตัวเกมส์ Stalker 2 ไปได้เพียงแค่วันเดียว ทีมผู้พัฒนาเกมส์ก็ได้ประกาศยกเลิกแผนงานเป็นที่เรียบร้อย หลังได้รับกระแสตอบรับไม่ดีเท่าไหร่
เมื่อวันพุธที่ 15 ธ.ค. 2564 ที่ผ่านมา GSC Game World ทีมงานผู้พัฒนาเกมส์ Stalker 2 ภาคต่อของเกมส์ FPS Cult-Classic ชื่อดัง ได้ประกาศถึงแผนงาน Metaverse ของเกมส์ และจะมีการใช้งานในส่วน NFT ภายในตัวเกมส์นี้
ซึ่งหลังจากเปิดตัวไปแล้วนั้น แผนงานดังกล่าวก็ได้รับกระแสตอบรับที่ไม่ดีเท่าไหร่ จนทำให้ทีมผู้พัฒนาต้องทำการยกเลิกแผนงานนี้ไปในที่สุด
ในโฆษณาของแผนงานที่ว่านี้ จะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เล่น หรือผู้ที่สนใจนั้นสามารถที่จะเป็น Metahuman คนแรก ๆ ใน “Stalker metaverse” ได้ ด้วยการประมูลโอกาสในการจำลอง (แสกนใบหน้า) ของตัวเองเพื่อที่จะถูกนำไปใช้งานเป็น NPCs – ตัวละครภายในเกมส์ได้ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือรูปแบบเดียวกับที่ Kojima ได้ Cameo บรรดาคนดังในเกมส์ Death Stranding นั้นเอง
โดยใน GSC ได้กล่าวเพิ่มเติมในการประกาศดังกล่าวว่า เกมส์นี้จะไม่กลายไปเป็นเกมส์ที่มีการใช้งานเทคโนโลยี blockchain และ NFTs นั้นจะไม่มีผลต่อการเล่น (แต่แน่นอนว่าคุณจะได้เจอของผู้ที่ใช้สิทธิ์ดังกล่าว) และการเลือกซื้อ NFTs นั้นจะเป็นเพียงแค่ตัวเลือกเท่านั้น ก่อนที่จะประกาศเสริมอีกว่า NPC ตัวแทนของ NFT ภายในเกมส์นั้นจะไม่ไปขัดขวางประสบการณ์การเล่นแต่อย่างใด
แต่การขยายความที่ว่านี้ก็ไม่ได้ช่วยให้ทีมงาน และตัวเกมส์รอดผลจากกระแสความไม่พอใจแต่อย่างใด ในที่สุดแล้วนั้น GSC ก็ได้ทำการประกาศถึงการยกเลิกแผนงานดังกล่าวไปในที่สุด โดยกล่าวว่า
“จากกระแสตอบรับที่พวกเราได้รับแล้วนั้น พวกเราได้ตัดสินใจยกเลิกทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับ NFT ภายในเกมส์ S.T.A.L.K.E.R. 2. โดยความสนใจ/ผลประโยชน์ของแฟนเกมส์ และผู้เล่นของเรานั้นถือว่าเป็นเป้าหมายสำคัญของทีมงาน โดยพวกเรานั้นจะทำการสร้างเกมส์นี้ให้แก่พวกคุณได้สนุกสนานไปกับมัน ไม่ว่าจะดด้วยอะไรก็ตาม ถ้าพวกคุณห่วงใยในตัวเกมส์นี้ พวกเราก็ด้วยเช่นกัน”
ถึงแม้ว่าจะได้รับกระแสตอบรับในแง่ลบอย่างท่วมท้นก็ตาม ก็ยังมีผู้ให้ความสนใจในแผนการดังกล่าวอยู่เป็นจำนวนถึง 107,000 กว่าคนด้วยกัน (ในเวลานี้ เนื่องจาก GSC ยังไม่ได้ปิดหน้าเว็บที่เปิดให้ประมูล)
กระแสต่อต้านของ NFT และการใช้งานเทคโนโลยี Blockchain ในเกมส์กระแสหลักนั้น ก็มาจากหลายเหตุผลด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ผลกระทบต่อการเล่น, ผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้ยต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องด้วยเทคโนโลยีนี้มีการใช้งานพลังงานเป็นจำนวนมาก และอีกประเด็นก็คือการหลอกลวง หรือการปล้นด้วยเทคโนโลยีดังกล่าวที่ในเวลานี้ก็มีการรายงานมาเรื่อย ๆ
ในอีกแง่มุมของการใช้งาน NFTs ก็คือการเล่นเพื่อทำเงิน (play-to-earn) ที่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีการนำมาใช้งานโดยตรงกับ S.T.A.L.K.E.R. 2 แต่แนวคิดดังกล่าวนั้นก็ยังคงสร้างความไม่สบายใจให้กับผู้เล่นจำนวนมากที่มองว่ามันจะเป็นการดึงเอาสภาคส่วนการเล่นเพื่อความเพลิดเพลินบันเทิง และนันทนาการออกไป แล้วมาแทนที่ด้วยความเป็นการงาน และผลประโยชน์ทางการเงิน
ซึ่งหนึ่งในเสียงวิจารณ์ที่น่าสนใจนั้นก็มาจาก Randy Pitchford, ผู้ก่อตั้ง Gearbox Software สตูดิโอเกมส์ชื่อดัง ที่ได้กล่าว “จากแนวทางที่ได้โฆษณาไว้นั้น ทีมงานไม่จำเป็นต้องเอา Blockchain มาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด การเปิดให้สามารถมีตัวแทนคนจริงภายในเกมส์นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่มีการใช้งานในระบบรางวัลแก่ผู้สนับสนุนใน Kickstarter มานานหลายปีแล้ว ดังนั้นการจะโฆษณาในแบบนี้ และพ่วงความเป็น Metaverse ไปด้วยนั้นถือว่าเป็นอะไรที่น่าตลกอย่างยิ่ง”
เช่นเดียวกับผู้ใช้งานทวิเตอร์หลายรายที่ได้ทำการแสดงความเห็นในโพสต์ยกเลิกว่า พวกเขายินดีที่จะทำการสั่งซื้อเกมส์ล่วงหน้า ระดมทุนสนับสนุนตัวเกมส์ผ่านช่องทางต่าง ๆ หรือแนวทางใดก็ได้ที่มีความหมายมากกว่านี้เพื่อเป็นการสนับสนุนตัวเกมส์ และการพัฒนาของมัน
— S.T.A.L.K.E.R. OFFICIAL (@stalker_thegame) December 16, 2021
แหล่งที่มาของข่าว : PC Gamer
สามารถติดตามข่าวเกมส์เพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวเกมส์
- Ubisoft เปิดตัว Ubisoft Quartz – การเอา NFTs มาลงในเกมส์
- Sony เตรียมเปิด Pre-Order PS5 อีกครั้ง ภายในวันที่ 17 ธ.ค. 2564