ข่าวข่าวภูมิภาค

ทิดไพรวัลย์ เปิดใจปมสึกกลางโหนกระแส เผยเตรียมลุยโซเชียล ฝาก ศรีสุวรณ ปมฟ้องคนอื่นมั่ว

เปิดใจหลังสึก ทิดไพรวัลย์ หรืออดีตพระมหาไพรวัลย์ เคลียร์ชัดกลางโหนกระแส ปมสละผ้าเหลือเกิดจากหลายปัจจัย พร้อมเผยจากนี้เตรียมทำอะไรต่อ

วันนี้ (3 ธ.ค.64) รายการโหนกระแส โดยพิธีกร “หนุ่ม” กรรชัย กำเนิดพลอย ได้เชิญทิดป้ายแดง ไพรวัลย์ วรรณบุตร หรือ อดีตพระมหาพรวัลย์ ที่ล่าสุดหลังจากลาสิกขาแล้วก็ได้เดินทางมาเปิดใจถึงกระแสต่างๆ ในรายการ โดยมี พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต พระรุ่นพี่ที่เคยจำวัดสร้องทองแห่งเดียวกันมาร่วมพูดคุยด้วย

Advertisements

โดย ทิดไพรวัลย์ ยอมรับมีหลายปัจจัยที่ทำให้ต้องตัดสินใจสึก ส่วนหนึ่งก็มีเรื่องของคุณแม่ที่ป่วยและต้องเข้ารับการผ่าตัดในวันนี้ด้วย แต่ยืนกรานชัดเจนว่าคิดถูกแล้ว ตัดสินใจไม่นาน

ช่วงเปิดใจถึงปมสาเหตุการสึกเจ้าตัวยังพูดด้วยว่า “ไม่อยากอยู่แล้ว พระผู้ใหญ่ซึ่งเป็นเจ้าคณะผู้ปกครองเรา ไม่อยู่ในฐานะที่ตนเองอยากก้มศีรษะให้ ไม่มีคุณธรรมมากพอที่จะกราบไหวได้อย่างสนิทมือ”

ถ้าเป็นพระที่มีคุณธรรม แล้วเป็นผู้ปกครองเรา แล้วเรารู้สึกว่า ท่านพรหมวิหาร ท่านเป็นผู้ใหญ่ ตักเตือนแล้ว ตนเองก็อยากอยู่ อยากเคารพ แต่ตนรู้สึกว่าไม่มี คุณธรรม ความรู้ก็ไม่มี เรียนก็ไม่ได้เรียน หนังสือก็ไม่เรียนวันหนึ่งจับพัดจับผลูขึ้นมาเป็นเจ้าคณะผู้ปกครอง ตรงนี้ตนเองรู้สึกว่ามันไม่ใช่ และก็ไมรู้สึกเสียดายอะไรที่สึกจากการเป็นพระ เพราะสิ่งที่ได้มาจากการเป็นพระ 18 ปี ความรู้ ภูมิธรรมจนถึงเปรียญ 9 ก็ยังติดตัวอยู่

เมื่อ กรรชัย ถามว่า จะกลับไปบวชอีกไหม มหาไพรวัลย์ ตอบอย่างรวดเร็วว่า “ไม่” ขณะที่เมื่อถามถึงเส้นทางต่อจากนี้จะลำบากไหมเพราะบวชมานานถึง 18 ปี อดีต พส. ก็กล่าวด้วยสีหน้าที่แน่วนแน่ว่า “ไม่ยาก” โดยยกตัวอย่างเปรียบเทียบเหมือนครั้ง เมื่อตอนบวชเป็นพระใหม่ๆ ก็โดนปรามาสว่า อยู่ไม่ได้หรอก แต่สุดท้ายก็อยู่มาได้ 18 ปี ชีวิต คือ การไปต่อ ต้องไปได้

การที่คนหนึ่งสึกจากพระ ไม่ใช่การหมดบุญ ทุกคนควรมีสิทธิเลือกเส้นทางของตัวเองเพราะชีวิตสามารถงอกงามและเติบโตได้ไม่ว่าจะเป็นพระหรือฆราวาส

Advertisements

โหนกระแส ทิดไพรวัลย์

จากนั้นมาถึงประเด็นที่สื่อออนไลน์แห่งหนึ่ง ไปกุข่าวเรื่องมีเงิน 300 ล้านบาท จนนักข่าวหลังไมค์มาขอโทษ รวมถึงทางต้นสังกัดออกหนังสือกราบขอโทษอย่างเป็นทางการ

มหาไพรวัลย์ กล่าวว่า ตอนแรกตั้งใจจะฟ้องแต่ต่อมาก็รู้สึกสงสาร เพราะคนที่ขึ้นศาลโดนคดี ก็คือนักข่าวตัวเล็กตัวน้อย ทางต้นสังกัดก็ลอยตัว

ต่อมาในรายการได้โฟนอินพูดคุยกับ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไ

ทย ที่เคยออกมาโพสต์ข้อมูลปมเรื่องทรัพย์สินพระผ่านเฟซบุ๊กของตัวเอง โดย ทิดไพรวัลย์ ได้ฝากถึงลุงศรีว่า ให้ทุกข์แก่ท่านระวังทุกข์นั้นจะถึงตัว ฟ้องคนอื่นมั่วซั่วระวังตัวเองจะถูกฟ้อง

ขณะที่ นายศรีสุวรรณ ก็ได้แนะนำ ทิดไพรวัลย์ ศึกษาเทคนิคการพูดให้ดีระวังเข้าข่ายหมิ่นประมาทคนอื่น

ช่วงท้ายรายการ ทิดไพรวัลย์ ได้ตอบข้อสงสัยที่ว่า ไลฟ์สดตอนเป็นพระกับตอนนี้จะต่างไปมากหรือไม่ เจ้าตัวระบุ เชื่อว่าคนที่เข้ามารับมชมไลฟ์สดเพราะชื่นชอบในความเป็นตัวของตนเอง จากนี้ตั้งใจจะลุยงานด้านโซเชียล งานออนไลน์ก็ได้ เพราะตอนนี้คนอินบ๊อกซ์เข้ามาเยอะ ส่วนจะมีแฟนไหม อดีตพระมหาไพรวัลย์ตอบว่าเป็นเรื่องของอนาคต

“ยึดโซเชียลเป็นหลัก บรรยายออกไปพูด ออกรายการ โดยเฉพาะเรื่องราวเกี่ยวกับคณะสงฆ์ อะไรที่ไม่เป็นธรรมจะพูดให้ชัดขึ้น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ต้องจัด มีเรื่องให้พูดถึงเยอะมาก ตั้งขึ้นมาเพราะมีชาวพุทธไปร้องที่รัฐสภา เพื่อให้ช่วยเหลือพระหนุ่ม เณรน้อย แต่สิ่งที่สำนักงานพุทธฯ ทำคือท่ส่งจดหมายร้องเรียน ซึ่งคนที่ร้องเรื่องตน ก็คือ สำนักพุทธฯ ทั้งที่จริงควรจะส่งเสิรมความเจริญก้าวหน้าให้กับพระหนุึ่ม เณรน้อย” ทิดไพรวัลย์ ระบุ

รับชมรายการโหนกระแส เทปเปิดใจทิด “ไพรวัลย์” ทำไมต้องสึก คลิกที่นี่

ไพรวัลย์ ศรีสุวรรณ
ภาพ : เฟซบุ๊ก โหนกระแส

 

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button