เดือด! เนเธอร์แลนด์ ประท้วงต้านล็อกดาวน์ หลังยอดผู้ป่วยยุโรปเพิ่มต่อเนื่อง
ผู้ชุมนุมในประเทศเนเธอร์แลนด์จำนวนมากได้ออกมาร่วม ประท้วงต้านล็อกดาวน์ เช่นเดียวกันกับหลายพื้นที่ในยุโรป หลังยอดผู้ป่วยโควิดเพิ่มสูงต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน สำนักข่าว ชาแนลนิวส์เอเชีย เจ้าหน้าที่ตำรวจในประเทศเนเธอร์แลนด์ได้จับกุม ผู้ชุมนุมกว่า 48 รายที่ก่อเหตุจลาจลทั่วประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อแสดงพลังคัดค้านการล็อกดาวน์เป็นคืนที่สอง หลังจากที่หลายประเทศในยุโรป เผชิญกับจำนวนผู้ป่วยโควิดที่เพิ่มต่อเนื่อง
โดยอัยการได้ออกมาเปิดเผยว่า มีประชาชนได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิงอย่างน้อย 4 คน หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดฉากยิงผู้ชุมนุมในระหว่าง ‘การมั่วสุมความรุนแรง’ ในนครรอตเตอร์ดัม
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองเฮก กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมผู้ชุมนุมที่จุดไฟเผาจักรยานและสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังระบุอีกว่าผู้ชุมนุมได้ขว้างปาก้อนหินและพลุใส่เจ้าหน้าที่ ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ต้องตอบโต้ด้วยการยิงแก๊สน้ำตาและฉีดน้ำดับเพลิง
อย่างไรก็ตามประเทศเนเธอร์แลนด์ไม่ใช่ประเทศเดียวกันที่มีการชุมนุมต้านมาตรการล็อกดาวน์ โดย ออสเตรีย, โครเอเชีย, ฝรั่งเศส และ อิตาลี มีรายงานว่ามีผู้ชุมนุมออกคัดค้านการออกมาตรการสกัดโควิดเช่นเดียวกัน
ก่อนหน้านี้ องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้ออกมาแถลงว่าในขณะนี้ทวีปยุโรปกลับมาเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อีกครั้ง และอาจจะทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 5 แสนศพ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้
โดยทางองค์การอนามัยโลกระบุว่าสาเหตุที่ยอดป่วยเพิ่มขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากอัตราการฉีดวัคซีนที่ล่าช้า โดยทาง BBC ระบุว่า แม้ประเทศอย่างสเปนจะฉีดวัคซีนให้ประชาชนครบโดสแล้วกว่าร้อยละ 80 แต่อย่างประเทศรัสเซียมีเพียงประชาชนเพียงแค่ร้อยละ 32 เท่านั้น
ซึ่งนอกจากการฉีดวัคซีนที่ล่าช้าแล้ว ทาง WHO ยังได้ระบุด้วยว่า การผ่อนมาตรการโควิด เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
https://twitter.com/i/status/1462367442240475140